อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ถูกกบฏโค่นลงจากอำนาจด้วยการยึดกรุงดามัสกัสได้สำเร็จเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านเทเลแกรมของประธานาธิบดีซีเรียลงวันที่ 16 ธันวาคมจากรัสเซียว่า เขาได้รับการอพยพไปรัสเซียจากฐานทัพฮไมมิมในซีเรียช่วงค่ำวันที่ 8 ธันวาคม ขณะถูกโจมตีด้วยโดรน หลังออกจากกรุงดามัสกัสตั้งแต่ช่วงเช้าตอนที่นักรบฝ่ายต่อต้านรุกคืบเข้าใกล้เมืองแล้ว
เขาระบุด้วยว่า การเดินทางออกจากซีเรียไม่ได้เป็นการวางแผนไว้ และเกิดขึ้นในช่วงหลายชั่วโมงสุดท้ายของการต่อสู้ โดยเขายังทำหน้าที่จนถึงช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ธันวาคม และเมื่อนักรบแทรกซึมเข้าดามัสกัส เขาจึงย้ายไปฐานทัพอากาศฮไมมิม ที่อยู่ภายใต้การควบคุมรัสเซีย ในจังหวัดลาตาเกียของซีเรียในเช้าวันนั้น และได้รู้ว่าทหารของกองทัพซีเรียถอนตัวจากแนวรบเกือบทั้งหมดแล้ว และฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพถูกตีแตกแล้ว นอกจากนี้ฐานทัพอากาศแห่งนี้ก็ถูกโจมตีด้วยโดรน จึงได้รับการอพยพไปยังรัสเซีย
เขาบอกด้วยว่า ตัวเองไม่ยอมแลกเปลี่ยนการอยู่รอดของประเทศเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และยืนหยัดเคียงข้างเจ้าหน้าที่และทหารในแนวหน้า รวมทั้งกล้าเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย และภัยคุกคามจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในช่วง 14 ปี ของสงครามกลางเมือง นอกจากนี้เขาไม่เคยแสวงหาตำแหน่งใด ๆ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่มักมองว่า ตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากศรัทธาของประชาชนชาวซีเรีย
อัสซาด บอกด้วยว่า ขณะนี้ซีเรียตกอยู่ในมือของการก่อการร้าย และความสามารถที่จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศสูญสิ้นแล้ว และตำแหน่งใดไม่มีความหมาย แต่ความรู้สึกผูกพันที่เขามีต่อซีเรียและประชาชนไม่ได้สั่นคลอนด้วยสถานการณ์ใด ๆ และยังเต็มเปี่ยมด้วยความหวังที่ซีเรียจะเสรีและอิสระอีกครั้ง
กองกำลังฝ่ายต่อต้านนำโดยกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม หรือ เอชทีเอส เริ่มปฏิบัติการโจมตีแบบสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน และสามารถยึดเมืองสำคัญหลายเมืองได้อย่างรวดเร็ว ก่อนเข้ายึดกรุงดามัสกัสในวันที่ 8 ธันวาคม ทำให้สิ้นสุดระบอบอัสซาด ที่อยู่ภายใต้การปกครองอย่างเผด็จการนาน 54 ปี ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด และประธาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด