สายอีสาน เตรียมพร้อมให้ดี คืนนี้ปริมาณรถขาออกมากที่สุด

11 เมษายน 2568 ที่ถนนพหลโยธินขาออก อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักผ่านไปยังภาคอีสาน ก่อนเข้าถนนมิตรภาพ ช่วงค่ำรถเริ่มมีปริมาณรถหนาแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งบริเวณขาออกวังน้อย ตำรวจทางหลวงได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นจุดรับรถฝั่งขาออกจากกรุงเทพมหานคร ทั้งที่มุ่งหน้ามาจากถนนพหลโยธิน และรถที่มาจากถนนกาญจนาภิเษก หรือ ถนนวงแหวนรอบนอก (ตะวันออก) เลยทำให้มีรถมากระจุกรวมกันหนาแน่น ต้องมีการวางแผนเพื่อระบายรถในบริเวณดังกล่าวไม่ให้มีประิมาณสะสม จนเกิดการจราจรติดขัด

พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ขึ้นตรวจสภาพการจราจร โดยมุ่งหน้าไปตรวจที่มอเตอร์เวย์ M6 ก่อน จากนั้นก็มาแวะที่ถนนโยธินขาออก อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจจุดที่เปิดช่องทางพิเศษ ระหว่างหลักกิโลเมตร 54 - 85

พลตำรวจโท สำราญ เปิดเผยว่า การเปิดช่องทางพิเศษดังกล่าว จะช่วยให้การจราจรคล่องตัวยิ่งขึ้น และหากมีปริมาณรถสะสมเพิ่มมากขึ้น ก็อาจจะมีการเพิ่มระยะทางช่องทางพิเศษมากขึ้น เป็นแผนรองรับเพื่อให้การจราจรไม่ติดขัด คาดการณ์ว่าสายอีสานคืนนี้จะมีปริมาณรถขาออกมากที่สุด ต่อเนื่องไปถึงคืนวันพรุ่งนี้ คือ 1.7 แสนคัน

ส่วนถนนพระราม 2 ยังเคลื่อนตัวได้ดี เช่นเดียวกับถนนสายเอเซียก็มีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น คาดว่าในเส้นทางสายอีสานนี้ จะมีปริมาณรถทั้งขาเข้าและขาออกในช่วงสงกรานต์อยู่ที่ 7 ล้านคัน โดยมีมอเตอร์เวย์ M6 มาช่วย ก็จะทำให้การจราจรคลี่คลายไปได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องมีการเตรียมการระบายรถที่จะเข้าไปกระจุกขึ้นมอเตอร์เวย์ M6

โดยภาพรวมคาดการณ์ว่าคืนนี้จะเป็นมีปริมาณรถขาออกมากที่สุด ต่อเนื่องไปถึงคืนวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.2568) ส่วนเส้นทางที่ชำรุดเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ได้มีการประสานกับกรมทางหลวงชนบทให้ซ่อมแซม และเพิ่มเติมสัญญาณเตือนต่าง ๆ ให้กลับมาใช้การได้เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

พร้อมกันนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ฝากถึงผู้เดินทาง ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เตรียมรถให้พร้อม และวางแผนการเดินทางให้ดี และที่สำคัญคือ เคารพกฎจราจร เมาไม่ขับ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย หากฝ่าฝืนตำรวจก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด