11 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ 16.00น. เป็นต้นมา ประชาชนต่างทยอยกันเดินทางเข้ามาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต ทั้งจากรถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง แล้วเข้ามารอภายในอาคารรองรับผู้โดยสารทั้งสายเหนือ และสายอีสานกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากหลายคนเลิกงาน ก็รีบเดินทางมาเพื่อรอกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันทันที เพราะวันนี้ถือเป็นวันทำงานวันสุดท้ายก่อนหยุดยาว
โดยส่วนมากก็จะหอบสัมภาระ ข้าวของไปฝากพ่อแม่ ลูกหลาน ญาติพี่น้องกัน ซึ่งเป็นภาพที่เห็นกันจนชินตา สำหรับถุงกระสอบสีรุ้งที่จะถูกใช้เป็นที่บรรจุสัมภาระต่างๆ
ทั้งนี้ เราได้ไปพูดคุยกับ ประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา พวกเขาบอกว่า ไม่ได้กลับบ้านมา 2ปี กว่าแล้ว ครั้งนี้ตั้งใจกลับบ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เพิ่งจะเกิดเหตุแผ่นดินไหว จึงอยากกลับไปหาพ่อแม่ลูกหลาน กลับไปพักผ่อน ไปหากำลังใจ ก่อนจะกลับมาสู้งานกันใหม่ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ซึ่งภาพรวมการเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร เพื่อกลับภูมิลำเนาของประชาชนในวันนี้ คุณชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) บอกว่า วันนี้คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางออกมากที่สุด มากกว่า 130,000คน และมียอดรถเสริมเพิ่มมา 155 คัน มีการคาดการณ์ว่า ภาพรวมการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมากกว่าสงกรานต์ปีที่แล้ว 15% เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหว ประชาชนอยากกลับบ้าน รวมถึงวันที่ 13-15 เม.ย.เป็นวันครอบครัวด้วย
ส่วนการปิดการจราจรถนนกำแพงเพชรขาออกช่วงที่มีอาคาร สตง.ถล่ม ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบกับการเดินทางมาสถานีขนส่งหมอชิต เพราะจะทำให้รถสามารถยูเทินน์กลับรถได้สะดวกกว่า เนื่องจากไม่มีรถทางตรงมาเพื่อทำให้ชะลอตัว
สำหรับภาพรวมการจราจรหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสทรหมอชิต ตั้งแต่ช่วงเย็น การจราจรถนนกำแพงเพชรฝั่งขาเข้าเริ่มติดขัดแล้ว เพราะมีทั้งรถ บขส. ที่จะเข้ามารับผู้โดยสาร และรถแท็กซี่ รถยนต์ที่มาส่งประชาชนเพื่อต่อรถกลับต่างจังหวัดด้วย
ส่วนถนนกำแพงเพชรฝั่งขาออก ยังคงสัญจรได้ พร้อมกกันนี้ มีตำรวจ สน.บางซื่อ มาคอยอำนวยความสะดวกและบริหารการจราจร ซึ่งการปรับแผนการจราจรใหม่ ทาง บขส. บอกว่า จะทำให้หมุนเวียนคนได้ตามปกติ
ขณะที่ บรรยากาศ การเดินทางกลับภูมิลำเนาของพี่น้องประชาชนในภาคใต้ ที่ถนนพระราม2 ยังคงเป็นปกติ รถสามารถเคลื่อนตัว และใช้ความเร็วได้ เนื่องจากอาจจะเป็นวันศุกร์ และอยู่ในช่วงที่ผู้คนกำลังเลิกงาน แต่เนื่องจากช่วงวันหยุดติดกับวันเสาร์-อาทิตย์ จึงคาดการณ์ว่า วันนี้ประชาชนบางส่วนจะทยอยเดินทางกลับบ้านกันในช่วงหัวค่ำ ปริมาณรถอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
โดย นายณัฐพล สุริโย ผช.หัวหน้าหมวดทางหลวง มหาชัย เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดการว่าจะมีพี่น้องประชาชน ใช้เส้นทางพระราม2 ในการเดินทางลงภาคใต้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์น้อยลงกว่าทุกปี อาจจะมาจากกระแสข่าวเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ร่วมไปถึงในปีนี้มีการเปิดช่องทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 เพิ่มอีกหนึ่งช่อง ซึ่งเส้นทางหลวงพิเศษ หมายเลข81 นั้น จะเริ่มขึ้นที่จากบางใหญ่ - ไป จ.กาญจนบุรี แต่หากใครมีความประสงค์ที่จะลงภาคใต้ ก็สามารถลงได้ที่ด่าน จังหวัดนครปฐม แล้ววิ่งตามเส้นทางเพชรเกษม เข้า จ.ราชบุรี และเพชรบุรีตามลำดับ
ส่วน2เส้นทางหลัก อย่างเพชรเกษม และพระราม2 ก็ยังสามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่ถึงอย่างไร กรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากถนนเส้นพระราม2 มีจุดที่เป็นคอขวด คือบริเวณ สะพานบ้านบ่อ และสะพานท่าแร้ง ซึ่งในจุดนี้ช่องทางจราจร จะถูกบีบ จาก7 ช่อง เหลือ3 ช่อง หากมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น อาจจะส่งผลให้มีรถติดสะสมได้ จึงได้มีการเตรียมการเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่ช่วง กม.37 ไปจนถึง กม.43 รวมประมาณ6 กม. เพื่อช่วยระบายการจราจร
นอกจากนี้ นายณัฐพล คาดการณ์ว่า ถึงแม้ว่าช่วงหัวค่ำปริมาณรถในเส้นพระราม2 อาจจะยังไม่มากนัก แต่เชื่อว่า พี่น้องประชาชนจะทยอยเดินทางลงภาคในค่ำคืนนี้อย่างแน่นอน โดยจะมีปริมาณรถที่หนาแน่นเพิ่มมากขึ้นในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ ยาวต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 13 เมษายน 2568 ในส่วนของการเดินทางกลับในช่วงหลังวันที่ 15 เมษายน 2568 คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะโดยปกติ พี่น้องประชาชนจะทยอยเดินทางกลับกันมาอยู่แล้ว
ด้านสภาพการจราจรของประชาชนที่กำลังจะมุ่งหน้าไปยังถนนมิตรภาพ เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สถานการณ์ล่าสุด ช่วงเย็นการจราจรเริ่มหนาแน่นแล้ว
โดยบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชน บนถนนพหลโยธินขาออก มุ่งหน้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลย 2 หรือ ถนนมิตรภาพในช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันศุกร์สุดท้ายของสัปดาห์นี้ ก่อนจะเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
สภาพการจราจรบริเวณถนนพหลโยธินขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 54 อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มุ่งหน้าไปยังถนนมิตรภาพผ่านไปยังจังหวัดสระบุรี ต่อด้วย จ.นครราชสีมานั้นถือเป็นหนึ่งในเส้นทางสำคัญที่ประชาชนที่มักใช้เดินทางกลับจังหวัดในภาคอีสาน
ซึ่งสภาพการจราจรในช่วงเช้าถึงช่วงเย็นที่ผ่านมายังคล่องตัวในทุกช่องทางการจราจร ไม่พบรถติดสะสม ถึงแม้ว่าจะมีการชะลอตัวบ้างในบางช่วง โดยเฉพาะบริเวณจุดแวะพักรถพักคน ตลอดจนบริเวณก่อนถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต่าง ๆ
ส่วนประชาชนที่เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเช้านั้น พบว่ามีการวางแผนการเดินทางกลับมาหลายวันเพื่อเลี่ยงรถติดในช่วงเย็นของวันศุกร์ ซึ่งทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวจากจังหวัดนครปฐม เพื่อมุ่งหน้ากลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยบอกกับทีมข่าวว่า คาดว่าจะถึงบ้านเกิดภายในวันพรุ่งนี้ โดยจะกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ อีกครั้งในวันที่ 17 ส่วนเหตุผลที่เลือกเดินทางกลับในวันนี้ค่อนข้างคล่องตัว
ขณะที่ บริเวณถนนพหลโยธินช่วงกิโลเมตรที่ 73 มีการตั้งจุดตรวจเช็กสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ไฟฟ้าให้ประชาชนฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ “สงกรานต์ปลอดภัย เดินทางไปไหนก็มีความสุข 150 ศูนย์ทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 18.00 น. ตลอด 7 วันอันตรายคือ 11 - 17 เมษายน นี้ โดยหัวหน้าช่างได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้บริการตรวจเช็กซ่อมรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถยนต์อีก 7 คัน ซึ่งมีรถยนต์ 1 คันยางรั่ว จึงได้ดำเนินการเปลี่ยนยางให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ สภาพการจราจรล่าสุดบนถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปยังถนนมิตรภาพช่วงกิโลเมตรที่ 54 ซึ่ง เป็นหนึ่งใน 3 จุดรองจากกิโลเมตร 53 และ 55 ที่มีรถติดสะสมในช่วงเทศกาลสำคัญ คาดว่าการจราจรจะหนาแน่นอีกครั้งในช่วงสามทุ่มของคืนนี้ ทำให้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมการที่จะเปิดช่องทางการจราจรบนถนนเส้นหลักเพิ่มเป็นสี่ช่องทางจากสามช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา