พฐ. กังวลพิสูจน์อัตลักษณ์ยากขึ้น เพราะสภาพเริ่มเปลี่ยน

31 มีนาคม 2568 พต.ต.ต.วาที อัศรวรางกุล ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผฐก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีร่างของผู้เสียชีวิตที่ถูกส่งมาจากที่เกิดเหตุ บริเวณตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จำนวนทั้งหมด 11 ร่าง อยู่ที่ศูนย์พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตอนนี้สามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งคืนให้กับญาติได้แล้วทั้งหมด 6 ร่าง ส่วนอีก 4 ร่างสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากการพิมพ์ลายนิ้วมือได้แล้วว่าเป็นใคร ส่วนอีก 1 ร่าง ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบุคคลใด เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย จึงจะต้องนำดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยัน 

ดังนั้น หากว่าญาติของผู้สูญหายรายใด ที่ยังอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ และยังไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอ ขอให้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเก็บดีเอ็นเอในการเอาไปเปรียบเทียบกับร่างของผู้เสียชีวิตที่เจอในที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนี้ขั้นตอนในการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลนั้นทำได้ยากขึ้นเนื่องจากศพเริ่มเปลี่ยนสภาพ จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ให้ญาติของผู้สูญหายเข้ามาตรวจดีเอ็นเอเก็บเอาไว้ เพื่อความรวดเร็วในการพิสูจน์ทราบเนื่องจากการเก็บดีเอ็นเอมีหลายขั้นตอน 

สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาตินั้น ทางนิติเวชได้มีการประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอข้อมูลของแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย มาเทียบเคียงกับรายนิ้วมือของผู้เสียชีวิต จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการพิสูจน์ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าพื้นที่ของสถาบันนิติเวช สามารถรองรับร่างของผู้เสียชีวิตที่จะถูกนำมาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล โดยทางสถาบันนิติเวชเองมีความพร้อมเรื่องของสถานที่ และบุคลากร รวมทั้งเรื่องของอุปกรณ์ในการตรวจหาอัตลักษณ์บุคคล

อย่างไรก็ตาม วันนี้(31 มี.ค.2568) เวลา 13.00 น. หน่วยพิสูจน์หลักฐานของตำรวจ พร้อมกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ และสภาวิศวกรรมสถานแห่งชาติ จะเข้าไปตรวจที่บริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อเก็บเหล็กเส้น โดยมีพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กำกับดูแลว่าเหล็กเส้นที่ตัดออกมานั้นตัดออกมาจากเสาต้นใด ซึ่งการตัดเหล็กเส้นในครั้งนี้จะตัดทั่วทั้งบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะเสาที่มีปัญหา มาเป็นหลักฐานเพื่อประกอบในสำนวน เพื่อพิสูจน์ให้ทราบว่าสาเหตุของอาคารถล่มในครั้งนี้เกิดจากอะไร