พศ.จ่อตั้งกรรมการสอบ ปมสีกาแย่งพระ อ้างถูกใส่ร้าย

วันที่ 10 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พระสุพจน์ อายุ 58 ปี ลูกพระวัดดวงแข หลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวในโลกโซเชียล กรณีมีภาพหลุดถ่ายคู่สีกา พร้อมกับข้อความแชท ที่มีการโต้เถียงกันระหว่างสองสีกาว่า มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระ ต่างฝ่ายต่างแสดงความหึงหวงหลวงพี่ อีกทั้งมีการถกเถียงกันด้วยว่าหลวงพี่รักใครมากกว่า

ล่าสุด “พระสุพจน์” ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่มีการโพสต์ลงในโซเชียลนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมีผู้ไม่หวังดี ต้องการกลั่นแกล้ง จึงแฮคบัญชีของผู้โพสต์ นำภาพมาโพสต์ในลักษณะดังกล่าว ซึ่งได้มีการไปแจ้งความแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าแจ้งที่ไหนอย่างไร

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตนและแม่ครัวของวัด ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเชิงชู้สาวตามที่ถูกโพสต์กล่าวหา ซึ่งปกติก็จะรู้จักและสนิทสนมกับคนในวัดทุกคนอยู่แล้ว ที่มีรูปถ่ายคู่กันออกมา ตนก็ไม่รู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจจะถ่าย บางครั้งแม่ครัวก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายตอนกำลังฉันข้าว ซึ่งก็เห็นว่าไม่ได้มีรูปที่ไปนั่งสวีทหวานกัน ส่วนหญิงที่ถูกพาดพิง ก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในลูกศิษย์ของตน ซึ่งตนมีลูกศิษย์เป็นร้อย ผู้ไม่หวังดีแค่นำภาพมากล่าวอ้าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้จำวัดอยู่ที่ใด ทำไมไม่อยู่ที่วัดดวงแข “พระสุพจน์” กล่าวว่า อาตมาจะอยู่ที่วัดให้นักข่าวถ่ายหน้าตัวเองทำไม ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว และไม่ใช่เรื่องจริงเป็นการใส่ร้าย โดยปกติอาตมาจำวัดอยู่ที่วัดดวงแขนี่แหละ จะออกไปไหนได้ เพราะช่วงนี้กำลังเข้าพรรษาอยู่ แต่ไม่มีใครทราบเ พราะอาตมาไม่ได้บอกใคร

ต่อมา เวลา 14.20 น.  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ติดต่อมายัง พระครูประพัฒน์เขมคุณ  เจ้าอาวาสวัดดวงแข เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว โดยเป็นการสนทนาในการดำเนินตามขั้นตอนของกฎระเบียบของสำนักพุทธฯ หลังจากนี้จะต้องขอดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดถึงใบสุทธิพระภิกษุสงฆ์ของ “พระสุพจน์” ว่า มาจำวัดอยู่ที่วัดดวงแขตั้งแต่เมื่อไร และผิดกิจสงฆ์ในข้อใดบ้าง ซึ่งหลังจากนี้ทางสำนักพุทธฯ จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา และจะมีหนังสือส่งมายังทางวัดดวงแข ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสงฆ์อีกรอบ เพื่อสรุปความผิดของพระสงฆ์ดังกล่าวก่อนจับปาราชิก และทำหนังสือเพื่อยืนยันกับประชาชนว่า วัดและสำนักพุทธไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีกุฏิของ “พระสุพจน์” ที่มีการล็อกห้องไว้อย่างแน่นหนา ทางคณะกรรมการของสำนักพุทธฯ จะต้องตรวจสอบข้อกฎหมาย ก่อนที่จะเข้าไปตรวจสอบหารายละเอียดต่างๆภายในห้องกุฏิ

นอกจากนี้ พระครูประพัฒน์เขมคุณ เจ้าอาวาสวัดดวงแข ได้กล่าวถึงกรณีที่ “พระสุพจน์” ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ยังจำวัดอยู่ที่วัดดวงแขทุกวัน และเข้าพรรษาจะออกไปไหนได้

โดย พระครูประพัฒน์เขมคุณ ตอบกลับทันทีว่า “พระสุพจน์” โกหก จะจำวัดอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ในเมื่อให้พระลูกวัดไปตรวจสอบดูแล้ว และไม่มีใครเห็นหน้า “พระสุพจน์” เลยมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการเผยแพร่ภาพข้อมูลหญิงสาวกับพระ ผู้ใช้สื่อโซเชียลรายหนึ่ง ได้เข้าไปคอมเมนต์ระบุว่า ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการตอบคำถามและข้อสงสัยของทุกท่านค่ะ เนื่องจากว่า เป็นผู้ที่ถูกนำภาพไปใช้ในทางเสื่อมเสีย ทำให้ถูกมองในทางที่ไม่ดี และเสื่อมเสีย อีกทั้งมีผลกระทบทั้งตัวดิฉัน ลูก ครอบครัว และหน้าที่การงาน ซึ่งดิฉันได้ทราบแล้วว่าผู้ที่เป็นเจ้าของช่องนี้คือใคร และต้องการอะไร คนในภาพถูกอุปโลกขึ้นมาสร้างเรื่องราว โดยตัวดิฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังที่ถูกกล่าวหา ผู้โพสต์มีเจตนาให้ดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งบล็อกดิฉัน เพื่อไม่ให้เห็นโพสต์นี้ ดิฉันจึงขอดำเนินคดีกับบุคคลนี้ และผู้ที่

คอมเมนต์สร้างให้ดิฉันเสื่อมเสีย ... เด็กในภาพมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อที่ปรากฏในภาพ .. ดังนั้น ดิฉันจะดำเนินคดีกับผู้โพสต์ ให้ถึงที่สุด