svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดใจสาวคลิปเกาะฝากระโปรงรถชนแล้วหนี ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเกาะ แต่ต้องทำเอาตัวรอด

เปิดใจสาวคลิปเกาะฝากระโปรงรถคู่กรณีชนแล้วหนี ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเกาะ แต่ถูกขับรถดันจนขึ้นไปติดบนฝากระโปรงรถ หากปล่อยมือกลัวว่าจะโดนรถทับ

25 กรกฎาคม 2567 เป็นประเด็นที่สังคมฮือฮาให้ความสนใจอย่างมาก กรณีคลิปที่พลเมืองดีถ่ายไว้ ขณะที่มีผู้หญิง 2 คน กำลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันกลางถนน โดยผู้หญิงเสื้อสีน้ำเงินตะโกนขอความช่วยเหลือ พร้อมบอกว่า ผู้หญิงเสื้อฟ้าขับรถชนแล้วหนี จากนั้นผู้หญิงสวมเสื้อสีฟ้าได้ขับรถลากคู่กรณี ไปในลักษณะที่ผู้หญิงเสื้อน้ำเงินยังเกาะหน้ารถอยู่ ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าว ถูกโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กพร้อมระบุข้อความว่า “ชนแล้วหนี แยกวชิระ มุ่งหน้าสะพานกรุงธน” 
เปิดใจสาวคลิปเกาะฝากระโปรงรถชนแล้วหนี ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเกาะ แต่ต้องทำเอาตัวรอด

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้พูดคุยกับผู้เสียหายหญิงเสื้อน้ำเงิน ที่เกาะฝากระโปรงรถตามที่ปรากฏในคลิปคือ คุณเปิ้ล อายุ 56 ปี เล่าว่า ตนขับรถอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลราชวิถี จู่ ๆ รถคู่กรณีก็เปลี่ยนเลน กะทันหันมาชนบริเวณท้ายรถ ตนจึงได้พยายามลดกระจกเพื่อพูดคุย แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมหยุดรถ จึงได้มีการขับรถปาดหน้าเพื่อให้จอด แต่ก็ยังไม่ยอมจอด จึงมีการขับรถตามไปถึงบริเวณถนนราชวิถี เป็นช่วงจังหวะที่มีการจราจรติดขัด ตนจึงลงจากรถเพื่อไปเคาะกระจกคู่กรณีหวังจะพูดคุย แต่คู่กรณีไม่ยอมพูดคุยด้วย จึงตัดสินใจขวางหน้ารถ ไม่คิดว่าคู่กรณีจะขับรถออกจนมาชนตน จนติดอยู่บริเวณหน้ารถ ตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งตอนนั้นรู้สึกตกใจและกลัวมากคิดว่าจะต้องจบชีวิตแน่ ๆ หากปล่อยมือก็กลัวว่าจะถูกรถทับ เลยตัดสินใจเกาะฝากระโปรงรถไปแบบนั้น 
คุณเปิ้ัล สาวที่เกาะฝากระโปรงรถ
 

คุณเปิ้ล กล่าวว่า ตอนนั้นถือว่าโชคดีที่มีพลเมืองดีขี่รถจักรยานไล่ตามมา รถคู่กรณีจึงชะลอความเร็ว จนมาถึงแยกการเรือน คู่กรณีก็ได้ขับรถยนต์สะบัดตนตกจากรถ พร้อมกับฝ่าไฟแดงหลบหนีไปยังสะพานกรุงธน (ซังฮี้) ตนจึงตัดสินใจเรียกวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มาส่งที่รถยนต์ที่จอดทิ้งไว้บริเวณถนนราชวิถี พร้อมกับมาแจ้งความ

ผู้เสียหายย้ำว่า ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และไม่ได้อยากเกาะฝากระโปรงรถ พร้อมกับย้ำว่า ไม่อยากให้ใครทำตาม แต่ตอนเกิดเหตุคู่กรณีขับรถดันตนติดกับฝากระโปรง ตนไม่สามารถปล่อยมือจากรถได้จริง ๆ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนมีรอยฟกช้ำที่บริเวณหัวเข่าทั้งสองข้าง และมีอาการปวดที่บริเวณซี่โครงซ้าย พร้อมกับฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า ไม่อยากให้ใครนำพฤติกรรมของตนไปเลียนแบบ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้จากการสังเกตลักษณะภายนอกเชื่อว่า คู่กรณีไม่ได้มีอาการมึนเมา และไม่น่าจะมีอาการทางจิต
สภาพบาดแผลของสาวที่เกาะฝากระโปรงรถ

หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับ สน.ดุสิต ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องการจะเอาเรื่องคู่กรณี โดยตำรวจขณะนี้อยู่ระหว่างประสานและเรียกคู่กรณี ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่นั้น จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอีกครั้ง
เปิดใจสาวคลิปเกาะฝากระโปรงรถชนแล้วหนี ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเกาะ แต่ต้องทำเอาตัวรอด
 

ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับ นายกิตติศักดิ์ อายุ 31 ปี คนถ่ายคลิปเล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) ช่วง 09.30 น. ตอนนั้นตนขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งอาหารให้กับลูกค้า เมื่อมาถึงแยกวชิระ ถนนสุโขทัย ก็พบกับทั้งคู่ตามคลิป โดยผู้หญิงเสื้อน้ำเงินตะโกนขอความช่วยเหลือตลอดทางว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวขับรถชนแล้วหนี

มีจังหวะนึงที่รถมอเตอร์ไซค์หลายคัน มาล้อมรอบทำให้หญิงเจ้าของรถลงรถมา และบอกว่า ตนไม่ได้ชน แต่ผู้หญิงเสื้อน้ำเงินก็แย้ง และชี้ไปที่หน้ารถของคู่กรณีว่า มีหลักฐานชัดเจน ก่อนที่จะกระโดดเกาะหน้ารถ จากนั้นหญิงคู่กรณีก็ได้เดินย้อนกลับไปขึ้นรถและขับรถออกไป ขณะนั้นตนได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้หยุด แต่ก็ไม่เป็นผล ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไป โดยผู้หญิงคนดังกล่าว ได้ขับรถฝ่าไฟแดง 2 แยก จนเกือบจะถูกรถคันอื่นชน และยังได้มีการเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน 

ซึ่งในระหว่างทางที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปนั้น ตนก็พยายามตะโกนให้ผู้หญิงคนดังกล่าวหยุดรถ จนกระทั่งขับมาถึงบริเวณสะพานกรุงธนบุรี ก็ได้มีมีรถกระบะขับมาปาดหน้ารถยนต์คันดังกล่าว จึงทำให้หญิงคนดังกล่าวยอมหยุดรถ แต่ตนก็ไม่ทราบว่า หลังจากนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะตนต้องแยกไปอีกทางเพื่อส่งของให้ลูกค้า
เปิดใจสาวคลิปเกาะฝากระโปรงรถชนแล้วหนี ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเกาะ แต่ต้องทำเอาตัวรอด

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบ ชื่อผู้ครอบครองรถคู่กรณีแล้วทราบว่า เป็นชายไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก มาให้ข้อมูลตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่จนขนาดนี้ ก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก รวมถึงอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นบุคคลเดียว กับชื่อเจ้าของครอบครองรถหรือไม่ เพราะจากคลิปที่ปรากฏออกมา คู่กรณีเป็นผู้หญิง หากระบุตัวได้ว่าเป็นใคร ก็จะติดตามตัวมาแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า จุดเริ่มต้นที่ชนกันเป็นพื้นที่ของ สน.พญาไท ซึ่งก็ได้ให้คำแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ส่วนในพื้นที่ของ สน.ดุสิต ต้องแยกออกมาเป็นคนละคดี โดยในของ สน.ดุสิต จะพิจารณาดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย และขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น

คลิปขณะเกิดเหตุการณ์