กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรก่อนดี ภายหลังคุณแม่ของเด็กชายวัย 14 ปี พาลูกชายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ว่า ถูกผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ทำร้ายร่างกายภายใน รพ.มงกุฎวัฒนะ
ด.ช.เอ (นามสมมุติ) เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ตนเองได้ไปเฝ้าภรรยาที่ตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาล ได้แอบไปสูบบุหรี่ภายในอาคารห้องน้ำ ชั้น 1 เมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลประมาณ 7-8 คน มายืนรออยู่ จากนั้นได้นำตัวตนเองมาที่ห้องโถงและบอกให้ตนชำระค่าปรับ จำนวน 5,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ได้ยึดโทรศัพท์มือถือของตนไปเก็บไว้ที่เคาเตอร์การเงินของโรงพยาบาล และบอกให้ตนรอ ผอ.โรงพยาบาลบริเวณดังกล่าว
สักพักได้มีชายไทยสูงวัย ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้น ทราบภายหลัง คือ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เดินตรงเข้ามาที่ตนเองจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถามว่า "มึงสูบบุหรี่ในนี้ได้ไง" หลังจากสิ้นคำถาม ชายคนดังกล่าวก็ตบมาที่บริเวณใบหน้า 1 ครั้ง ก่อนตบซ้ำที่หน้าอีก 3 ครั้ง จนตนเองร้องได้
ชายคนดังกล่าวตะโกนถามว่า "มึงจะร้องทำไม" ก่อนเตะมาที่บริเวณใบหน้า อีก 2 ครั้ง และแทงเข่ามาที่หางคิ้วซ้าย จนได้รับบาดเจ็บ
ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะบังคับให้ถอดเสื้อและถอดกางเกง เปลือยกาย และปล่อยให้ตนเดินออกมาจากโรงพยาบาล มาจนถึงปากซอยแจ้งวัฒนะ 12 ตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติให้มารับและมาแจ้งความ
หมอเหรียญทอง ยอมรับตบหน้าเด็ก-ไล่พ้น รพ.
14 พฤษภาคม 2567 เวลา 12.58 น. หมอเหรียญทอง โพสต์เฟซบุ๊กเล่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า เมื่อดึกคืนวันที่ 13 พ.ค.67 มีไอ้วัยรุ่นกุ๊ยมาสูบบุหรี่ในห้องสุขา แผนกผู้ป่วยนอก หรือ โอ พี ดี ชั้น 1 อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วย โอ พี ดี ที่รอรับการตรวจ
ทั้งๆ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะก็ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้ก็ยังท้าทายลองดี ทั้งๆ ที่ภริยาของมันได้เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ด้วยสาเหตุทารกในครรภ์ไม่ดิ้น จนอาการดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินค่ารักษา
แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้กลับตอบแทน รพ.มงกุฎวัฒนะ ด้วยการท้าทายสูบบุหรี่ ณ โอ พี ดี รพ.มงกุฎวัฒนะ อาคาร 3 ชั้น 1 ส่งความรำคาญแก่ผู้ป่วยที่มารอตรวจได้สูดควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอดกันถ้วนหน้า
ผมจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้อย่างดุเดือดรุนแรง ตามที่ผมประกาศไว้ตามเสียงตามสายของ รพ.มงกุฎวัฒนะทุกๆ 2 ชั่วโมง เมื่อไอ้กุ๊ยละเมิดสิทธิผู้ป่วยรายอื่นๆ สร้างความสุ่มเสี่ยงต่ออัคคีภัยใน รพ.ที่มีผู้ป่วยนอนจำนวนมาก สุ่มเสี่ยงต่อโศกนาฏกรรมแล้ว ทั้งเคยเกิดเหตุอัคคีภัย ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ จากการสูบบุหรี่ในพื้นที่ของ รพ.มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ.2558 และ 2564
ดังนั้น ผมจึงจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้ด้วยตนเองด้วยการตบหน้าสั่งสอน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วสั่งให้แก้ผ้าล่อนจ้อน ไล่ออกจากพื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไอ้กุ๊ยตัวนี้ยังยกพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มาข่มขู่หน้าทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะ 6-7 คันเสียด้วย
แต่ขอบอกตามตรงว่ารู้สึกเฉยๆ ก็ลองแหยมเข้ามาท้าตีท้าต่อยก็จะโต้ตอบรุนแรงกลับไป แถมยังให้ข่าวว่าถูกผมตบคิ้วแตกเสียด้วย โกหกสิ้นดี
ผมขอเรียนว่าผมประกาศต่อสาธารณะมาเสมอว่าเราไม่ง้อ ไม่สนผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ยอันธพาลเกเร คิดจะฝ่าฝืนสูบบุหรี่ เกเร อวดเบ่งบุคลากรทางการแพทย์ กระทำอะไรตามอำเภอใจ ก็ขอเชิญไป รพ.อื่นก็แล้วกัน
แต่สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้วจะมีผู้ใช้บริการที่รู้กฎระเบียบสังคมมาใช้บริการอย่างสบายใจ ผมไม่สนหรอกครับว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ผมกลับเห็นว่าสมควรแก่เหตุเสียด้วยซ้ำ
ควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งแก่ผู้ใช้บริการรายอื่นๆ โดยที่เขาไม่สมควรได้รับ ดังนั้นความเด็ดขาดในการปกป้อง รพ.ทุกแห่งในโลกให้เป็นเขตปลอดบุหรี่จึงต้องเด็ดขาดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
สาธารณชนจะตัดสินใจแยกแยะได้ว่าเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว เขาจะมา รพ.มงกุฎวัฒนะได้อย่างปลอดภัยจากบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยอันธพาลเกเรด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริงทั่วกันครับ คนโลกสวยเห็นว่าเกินแก่เหตุไม่สมควรใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะครับ
หมอเหรียญทอง ยัน ไม่ขอโทษ ไม่แคร์โดนรุมประณาม
15 พฤษภาคม 2567 เวลา 8.32 น. นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า เมื่อผมกระทำผิดกฎหมาย ผมก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย ลูกน้องของผมเสนอให้ผมตัดภาพวงจรผิดด้วยการเอากล้องวงจรปิดจากจุดที่เกิดเหตุดังเช่นส่วนราชการหลายแห่งกระทำกันเมื่อเกิดเหตุเพื่อจะได้ไม่เป็นหลักฐานเอาผิดผมออกตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุ
แต่ผมสั่งการว่า "ไม่ต้อง หากผมทำผิด ผมจะรับผิดเอง แม้จะต้องจำคุกก็ตาม"...ผมเป็นอดีตหัวหน้านักเรียนผู้บังคับบัญชา ผมมีระบบเกียรติศักดิ์สูงยิ่ง ไม่โกหก ไม่หนีความผิด ติดคุกก็ติดคุก ไม่เคยรู้สึกอับอายหากต้องจำคุก
ลูกน้องของผมขอเสนอตัวเป็นผู้กระทำความผิดเอง ผมก็บอกว่า "พี่ขอขอบใจ แต่พี่ทำเอง พี่รับผิดเอง ไม่ต้องมีใครมารับผิดแทนพี่ทั้งนั้น"
ดังนั้นคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ตลอดจนผู้พิพากษาตัดสินคดีง่ายครับ เพราะผมจะรับผิดในสิ่งที่ผมกระทำ คดีนี้โจทก์ไม่จำเป็นต้องมีทนายเก่ง เพราะผมต้องการให้คดีนี้เป็นการพิสูจน์ความดี เก่ง กล้า ในการรับผิดตามกฎหมายของผม ถึงแม้ต้องจำคุกนานนับ 10 ปีก็ตาม
ผมไม่ทราบหรอกว่าไอ้วัยรุ่นกุ๊ยอายุเท่าไหร่ ทราบแต่ว่าผมยาว หน้าแก่เกินวัย มีเมียตั้งครรภ์แล้วเท่านั้น ก็คิดไม่ถึงหรอกครับว่าจะมีอายุ 14 ตามที่สื่อต่างๆ ประโคมข่าวว่าผมตบเด็ก เพื่อให้สังคมประนามผมซึ่งผมก็ไม่แคร์อะไรกับใครก็ตามที่รุมประณามสะใจโจมตีผมทั้งนั้น
คนอย่างผมเป็นคนเข้มแข็ง และมีที่ยืนในสังคมอย่างมากมาย มีคนเคารพรักชื่นชมในความกล้า แม้ในบางครั้งหากต้องบ้าบิ่น คนอย่างผมก็กล้าตัดสินใจทำ แม้คนอย่างผมจะเลือกชีวิตที่สุขสบายลอยตัวได้ แต่ชีวิตหนึ่งของคนเรานั้นสั้นและผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนอย่างผมจึงไม่กลัวอะไร
เมื่อผมปกป้องให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ให้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย ญาติ บุคลากรจำนวนมาก โดยเฉพาะปลอดภัยจากบุหรี่อย่างเด็ดขาด ไม่ให้ควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอด ส่งผลเสียต่อผู้ป่วยรายอื่นๆ จำนวนมาก ต่อญาติผู้มาเยี่ยมจำนวนมาก ต่อบุคลากรในสังกัดจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปกป้องไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมจากอัคคีภัยที่เกิดจากบุหรี่
แม้กฎหมายบ้านเราจะหน่อมแน้มในการปกป้อง รพ.หรืออาคารสาธารณะทุกแห่งให้ปลอดภัยจากบุหรี่ แต่ผมจะปล่อยให้ความหน่อมแน้มทางกฎหมายที่ผู้มีอำนาจรัฐไม่เคยใส่ใจเอาจริงเอาจังจัดการให้เด็ดขาดได้ แต่ผมก็จะไม่ปล่อยให้ความหน่อมแน้มของกฎหมายกลายเป็นความเสี่ยงต่อผู้ป่วยรายอื่นๆ จำนวนมาก ต่อญาติผู้มาเยี่ยมจำนวนมาก ต่อบุคลากรในสังกัดจำนวนมากใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่มีผมเป็นผู้นำรับผิดชอบ
ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อกฎหมายจัดการผู้สูบบุหรี่ที่มีโทษเพียงแค่ปรับ ทั้งหากเป็นเยาวชนยังได้รับการยกเว้นโทษอีกด้วย ในขณะที่ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดทั้งอาญาและแพ่ง หากเกิดอัคคีภัยจนเกิดโศกนาฏกรรม และการชดเชยการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก
หากสถานประกอบการต้องเลิกกิจการจากอัคคีภัย คนอย่างผม ผมกลับกล้ารับผิด ไม่โกหก ไม่ปฏิเสธความผิด แม้จะต้องจำคุกนานนับ 10 ปี ในวัย 64 แล้วก็ตาม แม้อาจจะต้องตายในคุกก็ไม่กลัว เพราะผมคือตำนานของลูกหลานเหลนโหลน และคนที่เคารพรักผม โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชาของผม
แม้จะต้องจำคุกเมื่อเป็นผู้สูงวัย ผมก็จะจำคุกอย่างมีระบบเกียรติศักดิ์ของการเป็นอดีตหัวหน้านักเรียนผู้บังคับบัญชา นักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ที่ผมได้รับการปลูกฝังมานานกว่า 43 ปี ตั้งแต่เข้ารับการฝึกจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และเรื่อยมาในขณะเป็นนักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ตราบจนปัจจุบันที่เป็นทหารเกษียณอายุในวัย 64 แล้วก็ตาม
ผมขอรับรองว่าไม่มีทางที่คนอย่างผมจะขอขมาไอ้กุ๊ยส้นตีนสร้างความเดือดร้อนสังคมส่วนรวม ไม่มีทางที่คนอย่างผมจะวิ่งเต้นคดี ท่านทั้งหลายจะได้เห็นผมรับผิดตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาชัดเจน ผมจะพิสูจน์ให้เห็นกันตั้งแต่การรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งหมายเรียกมาถึงผม
พระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ มีพระบรมราโชวาทถึงการส่งเสริมคนดี แต่พระองค์ท่านไม่ได้หมายความว่า คนดีทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย ถึงแม้จะทำคุณงามความดีมามากมายในหลายสถานการณ์วิกฤตก็ตาม แต่เมื่อผมทำผิด ผมก็ต้องรับผิด
นี่คือ An Officer and a Gentleman...อ่านว่า 'แอนอ๊อฟฟิสเซอร์ แอนด์อะเจ็นเทิลแมน' แปลว่า 'นายทหาร และ สุภาพบุรุษ' ...ผมเป็นนายทหารสุภาพบุรุษ กล้ารับผิดเสมอ
ทนายรัชพล พาเด็ก 14 เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม
ที่ สน .ทุ่งสองห้อง ทนายรัชพล ศิริสาคร พา ด.ช.เอ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบการกระทำผิด ทั้งหมด 5 ข้อหา ได้เเก่
ทนายรัชพล กล่าวว่า สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลควรต้องทำตามกฏหมาย ไม่ควรที่จะตัดสินหรือลงโทษเอง และไม่ใช่เห็นว่า ผู้เสียหายมารักษาฟรีแล้วจะทำอะไรก็ได้ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำนอกเหนือกฎหมาย
ด้านแม่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอโทษและยอมรับกับการที่ลูกตนไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำจริง แต่สิ่งที่คู่กรณีทำกับลูกตนมันเกินกว่าเหตุ "ลูกหนูก็ไม่ใช่คนดีหรอก สิ่งที่เขาทำผิดหนูก็ยอบรับแต่สิ่งพวกคุณทำผิดก็ต้องยอมรับด้วย"
ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อ้างว่าไม่รู้ว่าการสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ผิด ส่วนที่คู่กรณีมีการออกมาโพสต์ว่าตนยกพวกไปขับรถจักรยานยนต์กลับก่อกวนที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำเช่นนั้น มีเเต่ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้น และแม่ได้นั่งรถแท็กซี่มารับตน และอยากฝากถึงคู่กรณีว่า มีสิทธิ์อะไรที่มาทำกระทำแบบนี้กับตน
หมอเหรียญทอง ประกาศ! รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นเขตปลอดกุ๊ย
เมื่อเวลา 11.00 น. หมอเหรียญทอง เผยกรณีตบเด็กเพราะสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลอีกครั้ง ว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง และมีประกาศไว้ตามเสียงตามสายของ รพ. ทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่เยาวชนรายนี้ยังฝ่าฝืน ตนจึงจัดการเยาวชนรายนี้ อย่างดุเดือดรุนแรง
ตอนแรกเจ้าหน้าที่เรียกปรับ 5,000 บาท แต่เขาไม่มีจึงยึดโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งตนเลยมาจัดการ โดยตบไป 3-4 ครั้ง เตะไป 1 ครั้ง และสั่งให้แก้ผ้าออกไปจาก ซึ่งตนยอมรับผิดในส่วนนี้ และยอมรับว่าตั้งใจอนาจารเพื่อเป็นการสั่งสอน แต่หลังจากนั้น ตนเห็นว่ามีแก๊งมอเตอร์ไซค์มาข่มขู่ขับรถเสียงด้งหน้าทางเข้า รพ. 6-7 คัน
ขอประกาศว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นเขตปลอดภัยจากบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยจากอันธพาลเกเรด้วย และจะเปลี่ยนจากค่าปรับ 5,000 บาทเป็น 500,000 บาท
อย่างไรก็ตามตอนนี้โทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้าของเยาวชนรายดังกล่าวยังอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าหลังจากนี้แม่ของเด็กจะมารับคืนก็สามารถมารับได้เลยตนไม่คิดค่าปรับเลยสักบาท และถ้าเขาจะดำเนินคดีตนก็ใก้ทำให้ถึงที่สุด ตนก็พร้อมสู้