ยังคงต้องติดตามเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข สำหรับสถานการณ์ฝุ่นพิษและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังวิกฤตหนักที่สุดในรอบปี จนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องเดินทางมาติดตามการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านนมา ค่าฝุ่นพิษ PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ วิกฤต ติดอันดับ 1 ของโลก คุณภาพอากาศแย่มาก พุ่งระดับสีแดง ส่งผล กระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่วันนี้ (17 มี.ค.) เว็บไซต์ https://www.iqair.com/ ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศ และมีการจัดอันดับหัวเมืองทั่วโลกที่มีมลพิษทางอากาศสูง รายงานว่า มลพิษทางอากาศจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 09.16 น. ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 179 AQI ค่า PM2.5 วัดได้ 110.25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนสถานการณ์มลพิษทางอากาศในประเทศพบว่า เมื่อเวลา 09.00 น. เชียงรายและดอยสะเก็ด มลพิษทางอากาศสูงอันดับ 1 อยู่ที่ 218 โดยเฉพาะที่ แม่สาย ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 317 AQI PM2.5 วัดได้ 276 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ศ.นพ.ขวัญชัย ศุภรัตน์ภิญโญ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ถึง สถานการณ์ PM2.5 ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "Khuanchai Supparatpinyo" ระบุว่า..
เช้าวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 ในประเทศเผาน้อยลงแต่คุณภาพอากาศยังแย่ต่อไป
วันนี้จำนวนจุดความร้อนลงในพื้นที่ภาคเหนือลดลงเล็กน้อย แต่คุณภาพอากาศยังแย่ต่อไป (รูปที่ 1) โดย ณ เวลา 6.00 น. มีอย่างน้อย 2 พื้นที่ที่อากาศเป็นอันตราย (โซนสีน้ำตาลหรือ PM2.5 เฉลี่ยรายชั่วโมงเกิน 250 มคก./ลบม.) 16 พื้นที่ที่อากาศไม่ดีอย่างยิ่ง (โซนสีม่วงหรือ PM2.5 เฉลี่ยรายชั่วโมง 151-250 มคก./ลบม.) และอีก 148 พื้นที่ที่อากาศไม่ดี (โซนสีแดงหรือ PM2.5 เฉลี่ยรายชั่วโมง 56-150 มคก./ลบม.) (รูปที่ 2-4) ซึ่งในช่วงเช้าน่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีก ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่คุณภาพอากาศไม่ดีดังกล่าวโปรดอยู่ในห้องปลอดฝุ่นและงดทำกิจกรรมนอกบ้านจนกว่าอากาศจะดีขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ntaqhi.info
รูปที่ 5 แสดงจำนวนจุดความร้อนสะสมในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา (นับถึงเวลา 5.30 น.ของวันนี้) ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียม S-NPP พบว่าประเทศไทยมีการเผาเกือบ 2000 จุด และพม่ายังมีการเผาอย่างมโหฬารเกือบ 7000 จุด
รูปที่ 6 แสดงอัตราการระบายอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ พบว่าวันนี้เชียงใหม่จะมีการระบายอากาศค่อนข้างน้อย จึงคาดว่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนวันนี้น่าจะมี PM2.5 สะสมในระดับสูงตลอดวัน และทุเลาลงในช่วงเย็น แต่บริเวณชายแดนน่าจะได้รับผลกระทบจากมลพิษข้ามแดนตลอดทั้งวัน
รูปที่ 7 จาก GISTDA แสดงจำนวนจุดความร้อนสะสมรายจังหวัดของประเทศไทย (จากดาวเทียม S-NPP) เมื่อวานนี้ พบว่าจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน น่าน และเชียงใหม่มีการเผามากกว่า 100 จุด ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นการเผาในพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์
ด้านเพจเฟซบุ๊ก อ้ายจง ที่เป็นเพจเล่าเรื่องเมืองจีน มีผู้ติดตามกว่า ผู้ติดตาม 2.8 แสน คน มีการโพสต์ระบุว่า
โลกโซเชียลจีน เริ่มโพสต์รีวิวปัญหาหมอกควันเชียงใหม่ ผุดแฮชแท็ก "ฤดูหมอกควันเชียงใหม่"
"เสี่ยวหงซู” (小红书 Xiaohongshu) โซเชียลจีนด้านไลฟ์สไตล์ชื่อดังของจีน ที่คนจีนนิยมโพสต์เกี่ยวกับเที่ยวและชีวิตต่างประเทศรวมถึงเวลามาไทย ณ ตอนนี้มีโพสต์รีวิวจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับปัญหา "หมอกควันเชียงใหม่" และบางคนระบุว่า "ขอโบกมือลาเชียงใหม่ก่อน ไว้จะมาใหม่ เพราะตอนนี้ทนปัญหาหมอกควันไม่ไหว"
โดยแฮชแท็ก #มลพิษอากาศ ยอดดูมากกว่า 17 ล้านครั้ง
ปรากฎโพสต์ที่เกี่ยวกับเชียงใหม่จำนวนมากเหมือนกัน จากปกติที่จะมีโพสต์เกี่ยวกับจีนและที่อื่นๆ ขณะที่มีแฮชแท็ก "ฤดูหมอกควันเชียงใหม่" (清迈雾霾季) เกิดขึ้นโดยตรง ยอดดูเกือบ 50,000 ครั้ง
ถึงตอนนี้ยังไม่ใช่กระแสไวรัล แต่ถ้าเกิดปัญหาเรื้อรัง เกิดซ้ำๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะส่งต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวได้ระยะยาวนะครับ
อากาศที่ดี ฟ้าใส ไร้ฝุ่นควัน ก็เป็นการสร้างการจดจำที่ดี กรือจะเอาไปเอี่ยวกับ Softpower ก็น่าจะไม่ติดนะครับ
ที่โพสต์เล่า มีจุดประสงค์เพื่อตีแผ่ปัญหา เพื่อที่เราจะได้แก้ไขอย่างจริงจังและยั่งยืนจริงๆ อ้ายจงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ
ดูแลสุขภาพด้วยนะครับทุกคน
ขอบคุณภาพและข้อมูล
เพจเฟซบุ๊ก อ้ายจง
เพจเฟซบุ๊ก "Khuanchai Supparatpinyo"