svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กรมอุตุฯ เตือนอากาศร้อนปะทะลมใต้ เฝ้าระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 31 จังหวัด

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 31 จังหวัดเฝ้าระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กรุงเทพและปริมณฑลไม่รอด อิทธิพลจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนปะทะลมใต้พัดน้ำความชื้นจากทะเล

12 มีนาคม 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 25 จังหวัดเฝ้าระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

“ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมี ฝนฟ้าคะนอง และมี ลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนในระยะนี้ไว้ด้วย”

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ฝุ่นละออง PM2.5 ในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และมีการระบายอากาศที่ไม่ดี
กรมอุตุฯ เตือนอากาศร้อนปะทะลมใต้ เฝ้าระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 31 จังหวัด

  พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า  
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 11 – 17 มีนาคม พ.ศ. 2567 พบว่า ในช่วงวันที่ 12 มี.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

“ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง”

ส่วนในช่วงวันที่ 13  - 17 มี.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังอ่อนลงในช่วงวันที่ 12 - 17 มี.ค. 67 แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

  ข้อควรระวัง  
ในช่วงวันที่ 11 – 12 มี.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

พยากรณ์อากาศวันนี้ สำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) แยกรายภาคเป็นดังนี้
ภาคเหนือ

  • อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน 
  • โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

  • อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน 
  • โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส 
  • ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

  • อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน 
  • โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส 
  • ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

  • มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ 
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ยะลา และนราธิวาส
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

  • อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ 
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

  • อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
  • และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
  • อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส 
  • ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

กรมอุตุฯ เตือนอากาศร้อนปะทะลมใต้ เฝ้าระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 31 จังหวัด
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ 12 มีนาคม 2567