"ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์" ที่มีผู้คนพูดถึงเป็นอย่างมาก กรณีเหตุการณ์ชุลมุน ระหว่างกลุ่ม LGBTQ+ ชาวไทย กับ LGBTQ+ ชาวฟิลิปปินส์ ที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 11 เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา (4 มี.ค.) ซึ่งเรื่องราวเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ จนขึ้นเทรนด์อันดับ 1 และมีชื่อเรียกเหตุการณ์นี้ในโซเชียลว่า "วันกะเทยผ่านศึก"
แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะสงบแล้ว แต่สิ่งที่ยังไม่สงบคือบรรดาชาวเน็ต ที่ได้มีการแชร์คลิปและภาพ ระหว่างเกิดการชุลมุนในมุมต่าง ๆ จนกลายเป็นเป็นมีมในโซเชียล หนึ่งในหนึ่งมีมที่มีผู้คนให้ความสนใจ จนกลายเป็นไวรัลคือ ภาพของ LGBTQ+ คนหนึ่งที่สวมรองเท้าสนีกเกอร์ยอดฮิตในปัจจุบันอย่าง adidas Samba OG เข้าไปร่วมเหตุการณ์ ก่อนจะถอดออกมาเพื่อตบใส่กลุ่ม LGBTQ+ ของฟิลิปปินส์
Nation STORY จะพาไปรู้จักรองเท้าสนีกเกอร์ยอดฮิต adidas Samba ว่า รองเท้ารุ่นนี้ มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ทำไมถึงได้กลายเป็นรองเท้าแฟชั่นแห่งยุค ที่นาทีใครไม่มีถือว่าเชย....
adidas Samba จากตำนานรองเท้าบอล สู่แฟชั่นย้อนยุคสุดฮิต
เรื่องราวของ รองเท้า "adidas Samba" หรือแดสแซมบ้า ที่วัยรุ่นชอบเรียกกัน มีชื่อตามเว็บไซต์ทางการ Adidas สะกดว่า "adidas Samba" ไม่ใช่ Adidas Samba หรือ Adidas SAMBA โดยเรื่องราวของรองเท้ารุ่นนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปีปลายยุค 1940 ที่มันถูกทาง adidas ผลิตออกมาสู่ท้องตลาดเป็นครั้งแรก โดยตั้งชื่อให้รับกับการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ประเทศบราซิลปี 1950 จึงเป็นที่มาของชื่อ “Samba" ในรองเท้ารุ่นนี้
โดยตัวรองเท้าถูกออกแบบมาเพื่อการฝึกซ้อมฟุตบอลบนน้ำแข็ง มีดีไซน์เรียบง่าย แต่มีคุณสมบัติที่มีความทนทาน และยึดเกาะพื้นได้ดี จึงทำมีผู้นิยมนำมาสวมใส่ เพื่อเล่นฟุตบอลบนพื้นปูน หรือฟุตบอลในร่ม
เมื่อกาลเวลาผ่านไป adidas Samba ถูกปลดระวางจากการเป็นรองเท้า ที่ให้นักฟุตบอลสวมใส่ กลายเป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์ โดยได้ปรับรูปลักษณ์การออกแบบ ด้วยการใช้หนังจิงโจ้ ในบริเวณอัปเปอร์ของรองเท้า เพื่อมอบความสบายให้แก่ผู้สวมใส่ ตามด้วยเอาต์โซล (Outsole) ใช้ยางที่เรียกว่า Gum rubber เข้ามาช่วยความหนึบในการยึดเกาะพื้นผิว
ด้วยการที่ adidas Samba เป็นสนีกเกอร์ที่มีราคาไม่แพง ผู้คนจึงเลือกซื้อสนีกเกอร์รุ่นนี้ ใส่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเล่นสเกตบอร์ด และแมตช์กับการแต่งตัว กลายเป็นรองเท้าที่ขายดี สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 35 ล้านคู่ทั่วโลก และที่สำคัญที่ผ่านมา ลักษณะการออกแบบของ adidas Samba ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก อาจมีการปรับปรุงวัสดุของรองเท้า หรือการเพิ่มสีใหม่ ๆ เพื่อให้ดึงดูดผู้สวมใส่มากขึ้น
adidas Samba รีบอร์นในฐานะไอคอนแฟชั่่น
ต่อมาในช่วงปี 1990 adidas Samba ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักสเก็ตบอร์ดในอเมริกา จากนั้นได้ก้าวเข้าสู่กระแสแฟชั่นอย่างเต็มตัว เมื่อปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Transformers: Revenge of the Fallen ปี 2009 โดยพระเอกของเรื่อง Sam Witwicky ได้สวมรองเท้า adidas Samba เข้าฉากด้วย ทำให้ adidas Samba กลายเป็นรองเท้าผ้าใบแฟชั่น ที่ได้รับความนิยมของหนุ่มสาวนับแต่นั้นมา
และในช่วงกลางปี 2022 แฟชั่นยุค 90 แฟนชั่น Y2K ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นเทรนด์หลักของวงการแฟชั่นเริ่มกลับมาฮิตอีกครั้ง ทำให้ความนิยมของ adidas Samba มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเซเลบริตี้ระดับ A-List ในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น โจนาห์ ฮิลล์ (นักแสดง), เบลลา ฮาดิด (นางแบบ), เคนดัลล์ เจนเนอร์ (นางแบบ), แฟรงค์ โอเชียน (แร็ปเปอร์), เอแซป ร็อคกี้ (แร็ปเปอร์), ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ (แรปเปอร์), เดวิด เบ็คแคม (อดีตนักฟุตบอล) ต่างพร้อมใจกันหยิบมาเป็นไอเท็มคู่กาย จึงทำให้เกิดเป็นไวรัลบนโซเชียล ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมาก เริ่มหาสนีกเกอร์มาสวมใส่ตามคนดัง
ทั้งนี้เมื่อดูข้อมูลจากกูเกิล เทรนด์ (Google Trends) จะเห็นได้ว่า ความต้องการของ adidas Samba เกิดขึ้นไปทั้งโลก ตั้งแต่ต้นปี 2022 และเมื่อขยับมาจนถึงปี 2023 แล้วกระแสความต้องการก็ยังไม่มีวี่แววจะลดน้อยถอยลงไป เมื่อแยกย่อยลงไป ประเทศที่ให้ความสนใจ adidas Samba มากที่สุด ก็คือประเทศเดนมาร์ก, โปรตุเกส, จอร์เจีย, โครเอเชีย และสเปน
ดูยังไงให้ได้ adidas Samba ของแท้ไม่ถูกจกตา
จากกระแสฮิตของ adidas Samba จนเป็นที่ต้องการตลาด ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าหัวใส ผลิตของปลอมออกมาขาย ทำให้ของปลอมมีจำหน่ายเกลื่อนทั่วท้องตลาด จนบางครั้งผู้ซื้อไม่ทันรู้ว่า ซื้อของปลอมมาไว้ในครอบครอง ทั้งที่จ่ายเงินซื้อในราคาของแท้ด้วยซ้ำ โดย adidas Samba สามารถเช็กของแท้ได้ตามนี้
1. รอยหยักตรงสามแถบ
จุดแรกขอตั้งชื่อว่า “หยักผิดชีวิตเปลี่ยน” รอยหยักบริเวณสามแถบด้านข้างรองเท้า ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์อาดิดาส สำหรับรองเท้าผ้าใบอาดิดาส แซมบ้าของแท้นั้น แถบทั้งสามแถบจะมีรอยหยักที่เรียงชิดติดกันและมีขนาดเท่ากันทั้งหมด ซึ่งจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนมาก หากเป็นของปลอมรอยหยักจะเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง อีกทั้งการเรียงตัวไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นผู้ซื้อควรสังเกตจุดนี้ให้ดี
2. ตัวอักษร SAMBA ด้านข้างรองเท้า
ตัวอักษรข้อความ SAMBA สีทองที่อยู่เหนือสัญลักษณ์สามแถบด้านข้างรองเท้า คืออีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่หลายคนมักพลาดท่าเสียทีโดยไม่รู้ตัว วิธีดูง่าย ๆ ให้ดูขนาดตัวอักษรใกล้ ๆ ถ้ามีขนาดที่เท่ากัน สีทองหนาชัดเจน แสดงว่าเป็น adidas SAMBA ของแท้แน่นอน แต่หากพบกว่าตัวอักษรมีขนาดไม่เท่ากัน หนาบ้าง บางบ้าง สีไม่สม่ำเสมอบ้าง ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะมีโอกาสเป็นของปลอมสูงมาก
3. รอยตะเข็บเย็บใกล้กับอักษร SAMBA
อีกหนึ่งจุดที่สำคัญไม่แพ้กันในการเช็กว่าเป็นของแท้หรือของปลอมก็คือ รอยตะเข็บเย็บใกล้กับอักษร SAMBA หลายคนตกม้าตายกันเพราะเข้าใจว่าเป็น QC จากโรงงาน วิธีสังเกตคือหากเป็นของแท้เส้นตะเข็บและรอยตัดจะเป็นเส้นตรง ไม่ขนานกับขอบรองเท้า นอกจากนี้เมื่อถึงจุดตัดจะหักทำมุมฉาก 90 องศาอย่างสวยงาม แต่ถ้าเป็นของปลอมเส้นตะเข็บจะโค้งมนเกือบขนานไปกับขอบรองเท้าด้านบน และลากยาวเป็นเส้นโค้งไปจนเกือบถึงบริเวณพื้นรองเท้า
4. รอยเย็บตรง Collar
จุดสุดท้ายที่ตรวจเช็กได้ว่าเป็นของแท้หรือของปลอมก็คือ รอยเย็บบริเวณ Collar ส้นเท้า สำหรับของแท้งานเย็บละเอียดเรียบสนิทเป็นระเบียบมาก จะไม่เห็นตะเข็บหลุดรุ่ยหรือโผล่มาอย่างแน่นอน หากพบว่ารอยตะเข็บไม่ละเอียดบริเวณดังกล่าว เช่น ตะเข็บหลุด เย็บลวก ๆ หลวม ๆ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นของปลอม
ปัจจุบันรองเท้า adidas Samba สามารถหาซื้อได้ที่ชอปของ adidas และบนเว็บไซต์ออนไลน์ ราคา 3,800 บาท : https://www.adidas.co.th/en/samba-og-shoes/B75806.html หรือราคารีเซล มีราคาเริ่มต้นที่ 4,900 บาท ไปจนถึง 8,500 บาท ดังนั้นหากจะซื้อของนอกชอปจะต้องเช็กสินค้าให้เป็น
สรุปได้ว่า adidas Samba เป็นรองเท้าที่ถือกำเนิดมาไม่ต่ำกว่า 74 ปี ผ่านการกลายเป็นไอคอนแฟชั่นในโลกฟุตบอล สเกตบอร์ด และการแต่งกายลุคง่าย ๆ สบาย มีคุณสมบัติความเรียบง่าย แต่ใช้วัสดุพรีเมียมอย่างหนังจิงโจ้ พร้อมกับแถบสามขีดที่ด้ายข้างอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งจากความสำเร็จของ adidas Samba ทาง adidas จึงมีการสานต่อรองเท้ารุ่นคลาสสิกรุ่นนี้ ด้วยการเปิดตัว Samba Super Suede,adidas Samba Super,adidas Samba JP และอีกมากมาย
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : https://www.ktc.co.th/article/lifestyle/how-to-check-adidas-samba-authenticity
https://www.thairath.co.th/lifestyle/fashion/2704133
https://mainstand.co.th/th/news/9/article/16242