เกินไปไหม? ลูกหนี้นอกระบบร้องสายไหมฯ ถูกขู่ฆ่า เป็นหนี้ 3 หมื่น จ่ายดอก 3 ล้าน
ลูกหนี้นอกระบบ ร้องสายไหมต้องรอดช่วย กู้เงิน 3 หมื่น จ่ายดอกเบี้ย 3 ล้านบาท แถมถูกเจ้าหนี้ขู่ทรมาน ล้อมบ้าน ยึดอุปกรณ์ทำกิน จนต้องหนีจากบ้านนอนป้ายรถเมล์ ถึงขนาดคิดสั้น
ปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ด้วยการเปิดลงทะเบียนลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายปราบหนี้ ให้ผู้ว่าฯ - นายอำเภอ - ผกก. ทั่วประเทศ เพื่อกำจัด "การค้าทาสยุคใหม่" ซึ่งตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ถึงวันนี้ มีลูกหนี้มาลงทะเบียนแล้วกว่า 71,000 คน รวมยอดมูลหนี้นอกระบบกว่า 3,500 ล้านบาท
คำว่า "การค้าทาสยุคใหม่" จากหนี้นอกระบบ ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริง มีตัวอย่างเช่นกรณี คุณลุงวิชัย อายุ 65 ปี เจ้าของบริษัทชิปปิ้งแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ที่เข้าขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด
หลังถูกแก๊งมาเฟียเงินกู้นอกระบบ ตามล่าตัว เข้าบ้านไม่ได้ ต้องเรร่อนนอนตามป้ายรถเมล์ ต้องไปเเจ้งเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน เพื่อขอนอนตามโรงพยาบาล เคยคิดสั้นจะกระโดดตึกโรงพยาบาล กระโดดสะพานซังฮี้ เพื่อหนีปัญหาเมื่อ 3 วันก่อนมาแล้ว
ซ้ำระหว่างที่ลุงวิชัย เข้ามาร้องเรียนกับเพจสายไหมฯ เเละสื่อมวลชน เจ้าหนี้ก็ยังโทรมาทวงหนี้ เเละโทรมาข่มขู่ มีรายหนึ่งที่จ่ายเงินต้นครบไปเเล้ว เเต่ดอกเบี้ยยังต้องตามส่ง
ลุงวิชัย เล่าว่า เริ่มกู้หนี้นอกระบบมา จำนวน 30,000 บาท เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 เเละถูกหักค่าดำเนินการ 6,000 บาท ได้เงินมาใช้จริง 24,000 บาท จากนั้นทยอยส่งดอกเรื่อยมา วันไหนขาดส่ง เจ้าหนี้ก็จะบังคับให้กู้เงิน จากเจ้าหนี้รายใหม่ เพื่อนำมาจ่ายยอดหนี้เก่า
ทำวนซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้ จนกลายเป็นงูกินหาง จากยอดหนี้เพียง 34,000 บาท จ่ายดอกลอย วันละ 600 ต่อเงิน 1 หมื่นบาท มา 3 เดือนเเล้ว จนทบต้นทบดอกมาเป็นกว่า 3 เเสนบาท รวม ๆ เเล้ว ขณะนี้จ่าย ดอกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตั้งเเต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึงเดือนเมษายน 2566 รวมมีเจ้าหนี้ 29 ราย จากเจ้าหนี้ 37 ราย ทุกวันนี้ยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียว
มีเจ้าหนี้อยู่หนึ่งราย คิดดอกเบี้ย เเละทวงหนี้หนักมาก จาก 4 หมื่น กลายเป็น 6 หมื่น จาก 6 หมื่น กลายเป็น 1 เเสน เเละยังถูกบังคับให้ไปซื้อ จยย. PCX คันละกว่า 1.5 เเสนบาท ต้องเซ็นโอนลอย รถ จยย. PCX ป้ายเเดงให้อีก 2 คันให้ไป เขาก็เอารถส่งขายไปต่างประเทศ เเต่ตนยังต้องมานั่งผ่อนลม จยย. ที่ซื้อผ่อนมา 36 เดือน
และยังเจ้าหนี้บางราย บุกไปที่บ้าน ล้อมบ้าน เอากาวหยอดประตู โทรมาข่มขู่ จะฆ่าให้ตายอย่างทรมาน จะจับเเขวนต้นมะม่วง ทำให้เกิดความเครียด ถูกตามล่าตัว จนต้องหนี้ออกจากบ้าน เคยไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจ ก็เคลียร์กันไม่ได้ แถมยังข่มขู่ว่า ไม่กลัวตำรวจ ตำรวจก็ให้คำเเนะนำว่า ให้ย้ายออกนอกพื้นที่ ไปอยู่ที่อื่นก่อน โดยเจ้าหนี้ทั้ง 37ราย เชื่อว่า มีความเชือมโยงกัน เป็นเครือข่ายเดียวกันทั้งหมด
ลุงวิชัย เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เห็นข่าว ที่มีเจ้าหนี้ไปพังร้านส้มตำ เพราะไปลงทะเบียนเเก้หนี้นอกระบบ ตัวเองจึงไม่กล้าไปลงทะเบียน เเต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรจะเสีย อายุมากเเล้ว ถ้าจะตายก็ต้องตาย เเต่ขอร้องว่า อย่าทำให้ตัวเองต้องทรมาน ถ้าตายไป ก็ขอให้ขุดถอนรากถอนโคน เจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยโหด
นายเอกภพ ระบุว่า จะดำเนินการให้เป็นเคสตัวอย่าง เพราะกรณีนี้เหมือนเป็น "ทาสหนี้ " มาเเล้ว กว่า 1 ปี ต้องมีการพูดคุยกับเจ้าหนี้ เอาความจริงมาคุยกันว่า เป็นหนี้เท่าไหร่ จ่ายดอกไปแล้วเท่าไหร่ ที่เหลือมาดูกัน จะชำระกันยังไง ดอกต้องถูกต้องตามกฎหมาย
"ไม่สนับสนุนให้ใคร โกงเจ้าหนี้ ไม่สนับสนุน ให้เจ้าหนี้เอาเปรียบลูกหนี้ เเบบนี้เรียกว่าเป็น ทาสหนี้ "
นายเอกภพ บอกว่า วันนี้นโยบายของรัฐบาล เอาจริงเอาจังชัดเจน โดยเฉพาะตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย พูดชัดเจนว่า หนี้นอกระบบต้องจับเจ้าหนี้ - ลูกหนี้ มาคุยกันให้ได้ วันนี้หมดเวลาที่ลูกหนี้เป็นทาสแล้ว เชื่อว่ากรณีเช่นนี้ยังมีอีกเยอะ การแก้หนี้ที่ถูกต้อง หากเป็นหนี้หนึ่งราย อย่าหาทำด้วยการไปยืมอีกรายมาโปะ เพราะจะทำให้ชีวิตพังแน่นอน
"เอกภพ" พาลูกหนี้ ร้อง ภจว. ชลบุรี ถูกทวงหนี้โหด
ต่อมา นายเอกภพ ได้พาลุงวิชัย ไปที่ สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา เพื่อพบกับ พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภจว. ชลบุรี , พ.ต.อ.เกริกศิษฎ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภอ เเละเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ลุงวิชัย บอกว่า ก่อนหน้านี้ ได้คิดสั้น วางเเผนถึงขั้นเตรียมเอกสารหลักฐาน เบอร์เจ้าหนี้ พร้อมมือถือใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลเอาไว้ เพราะหากตัวเองเสียชีวิต ตำรวจก็จะมีข้อมูลทั้งหมด
หลังตำรวจทราบเรื่อง ได้รับปากจะดูเเลเเก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะการคิดดอกเบี้ย เกินที่กฎหมายกำหนด มีความผิดทางอาญา จะต้องเจรจาไม่ให้เจ้าหนี้ คิดดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปีมีโทรเรียกแต่ละรายมาคุย ถ้าไม่ได้จะใช้กฎหมายจัดการต่อไป และหากพบว่า รายใดเป็นมาเฟีย เป็นผู้มีอิทธิพล จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
พ.ต.อ.เกริกศิษฎ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม เปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมาตั้งเเต่เปิดลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ยังไม่เคยมีลูกหนี้รายไหน ที่ได้รับการคุกคามเเบบนี้ เข้ามาร้องเรียน โดยทางนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เน้นย้ำให้ดำเนินการจัดการขั้นเด็ดขาด ส่วนเรื่องความกังวลความปลอดภัย ได้มอบหมายให้ รองผู้กำกับปราบปรามฯ นำตำรวจเข้าไปดูเเล เป็นระยะ
เจ้าหนี้โหด โทรทวงหนี้ ต่อหน้าตำรวจ
ระหว่างที่ ลุงวิชัย กำลังเล่าเรื่องราว เเละให้ข้อมูลกับตำรวจ ก็ปรากฏว่า เจ้าหนี้อีกรายหนึ่ง โทรเข้ามาทวงหนี้ ไม่ให้ผลัดผ่อนการส่งดอก โดยบอกลูกหนี้ว่า อย่านิ่งหาย ลุงวิชัย จึงบอกว่า อย่าขู่ เพราะกลัว ทำให้คนที่ทวงหนี้ บอกว่า ก็หายไปอย่างนี้ ไม่ให้ขู่ เเล้วจะให้ทำอย่างไร
นายเอกภพ ระบุว่า การลงพื้นที่วันนี้ ได้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของเจ้าหนี้ ที่มายึดเครื่องไม้เครื่องมือทำมาหากินลูกหนี้จนหมด เเต่ก็เชื่อว่า นโยบายของรัฐบาล ที่ร่วมกันบูรณาการร่วมกัน จะช่วยเหลือลูกหนี้ได้ ซึ่งจากการพูดคุยกับตำรวจ เจ้าหน้าที่รับปากว่า จะดำเนินคดีทุกเจ้า ที่มีพฤติกรรมข่มขู่ขุกคาม ส่วนนโยบายมีมาตรการยึดทรัพย์เจ้าหนี้ ที่ข่มขู่คุกคาม ใช้กำลัง
ย้ำว่า ไม่มีนโยบาย ให้ลูกหนี้โกงเจ้าหนี้ เเต่การใช้หนี้ด้วยความเป็นธรรม ดอกเบี้ยต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขอให้เครือข่ายเจ้าหนี้นอกระบบทั่วประเทศ หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ก่อนที่จะถูกยึดทรัพย์ พร้อมกับเปิดเผยว่า ได้รับร้องเรียนว่า มีนักการเมือง มีข้าราชการ ที่เป็นนายทุน ปล่อยเงินกู้ ขอให้หยุดพฤติกรรมได้แล้ว ยังไม่หยุด จะออกมาเปิดถึงพฤติกรรม
ใบปลิว เกลื่อน ชวนกู้เงินด่วนทันใจ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเนชั่น ยังได้รับข้อมูลว่า เจ้าหนี้ของลุงวิชัยส่วนใหญ่ จะเป็นเครือข่ายเดียวกัน เพราะทราบว่า ลุงวิชัย มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็จะนำใบปลิวเงินกู้นอกระบบ มาโปรยทิ้งไว้ให้หน้าบ้าน ซึ่งจากสำรวจเท่าที่พบตกอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก็พบไม่ต่ำกว่า 3 - 4 ราย ที่นำมาทิ้งไว้ โดยจะมีข้อความเชิญชวนว่า
" เงินด่วนทันใจ !! สำหรับพ่อค้า เเม่ค้า เจ้าของกิจการ ทุกอาชีพ คุยง่าย สะดวก เป็นกันเอง อนุมัติทันใจ "
