svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ใครต้องรับผิดชอบ? สรุปเหตุ "น้องม่อน" ทายาทเพจดัง จมน้ำเสียชีวิต

สรุปเหตุสลด "น้องม่อน" ทายาทเจ้าของเพจ "ไมกี้จอมป่วน" จมน้ำเสียชีวิต ระหว่างร่วมกิจกรรมค่ายสถาบันการศึกษา ใครต้องรับผิดชอบ? กับการเดินหน้าทวงความยุติธรรมของครอบครัว

เป็นอีกเรื่องราว ที่ผู้คนในโซเชียล ให้ความสนใจ กรณีเหตุสลด "น้องม่อน" ทายาทเจ้าของเพจ "ไมกี้จอมป่วน" เพจที่มี "เจ้าไมกี้" สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ เป็นพระเอก และมีผู้ติดตามจำนวนมาก ได้จมน้ำเสียชีวิต ระหว่างร่วมกิจกรรมค่ายปัจฉิมนิเทศ แต่กลับถูกปฏิเสธความรับผิดชอบจากผู้ที่เกี่ยวข้อง 

จุดเริ่มต้นทวงความยุติธรรม 

วันที่ 15 พ.ย. 66 เพจ "ไมกี้จอมป่วน" ได้โพสต์เรื่องราวสุดเศร้า กรณี "น้องม่อน" อายุ 18 ปี ลูกชายคนเล็กของ พ่อนนท์แม่นา เจ้าของเพจ "ไมกี้จอมป่วน" ที่เป็นเด็กเรียนเก่ง จมน้ำเสียชีวิต ขณะเข้าร่วมกิจกรรมค่าย ของสถาบันการศึกษา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ค่ายลูกเสือแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี 

โพสต์ดังกล่าว "พ่อนนท์แม่นา" ได้ขอให้ลูกเพจ และชาวเน็ต ช่วยกันแชร์เรื่องราว เพื่อทวงความยุติธรรมให้ครอบครัว โดยระบุ เป็นเหตุที่เกิดความประมาทของครูฝึก ที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยเด็ก อีกทั้งหลังเกิดเหตุ ทางโรงเรียนไม่แจ้งเหตุกับผู้ปกครอง พร้อมเรียกร้องสถานศึกษาต่าง ๆ ยุติกิจกรรมการเข้าค่าย โดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำ และที่สำคัญคือ "การหาตัวผู้รับผิดชอบเหตุเศร้าครั้งนี้" 


ภายหลังเรื่องราวสุดเศร้านี้ถูกเผยแพร่ ได้สร้างความช็อก ให้กับผู้ที่ติดตามเพจ "ไมกี้จอมป่วน" และชาวเน็ตอย่างมาก ต่างเข้ามาแสดงความเสียใจ ให้กำลังใจ และข้อคิดเห็นต่าง ๆ พร้อมแชร์เรื่องราวเป็นจำนวนมาก 
ใครต้องรับผิดชอบ? สรุปเหตุ \"น้องม่อน\" ทายาทเพจดัง จมน้ำเสียชีวิต



 

ค่ายลูกเสือแจงเหตุสลดไม่ได้อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ 

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดูแลค่าย ชี้แจงว่า วิทยาลัย "น้องม่อน" เคยพานักเรียนมาทำกิจกรรมแล้วหลายรุ่น ปกติทางค่ายจะจัดเตรียมอาหาร สถานที่ ตารางกิจกรรม ตามรับแจ้ง ซึ่งครั้งนี้โรงเรียน "น้องม่อน" พานักศึกษามา 156 คน มี ครู 5 คน ทีมวิทยากร (ครูฝึก) 6 คน กำหนดจัดกิจกรรมวันที่ 13 - 15 พ.ย. 66 ทางค่ายมีหน้าที่ดูแลสถานที่ และเตรียมอาหารเท่านั้น   

เหตุเกิดวันที่ 2 ของค่าย วันที่ 14 พ.ย. 66 ก่อนเกิดเหตุประมาณ 15.00 น. เป็นฐานสุดท้าย การลุยโคลน เด็ก ๆ เปลื้อนโคลน จึงขออนุญาตทางโรงเรียน ไปล้างตัวที่ "น้ำตกสาธารณะนอกค่าย" อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กับ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสี เป็นกิจกรรมไม่เกี่ยวกับค่าย 
บริเวณจุดที่เกิดเหตุ "น้องม่อน" จมน้ำเสียชีวิต

ระหว่างนั้นทางค่ายและโรงเรียน มีการประกาศแจ้ง ผู้ที่จะไปเล่นน้ำตกให้สวมชูชีพ แต่กลุ่มของ "น้องม่อน" แอบไปเล่นจุดที่น้ำลึก ลักษณะเป็นแอ่งน้ำลึก 2 - 3 เมตร ก่อนจมหายไป ครูวิทยากรที่เห็นเหตุการณ์ รีบลงไปช่วยทันที แต่ไม่สามารถช่วยได้ จึงประสานกู้ภัยมาช่วย พร้อมนำส่ง รพ. ใกล้เคียง และ "น้องม่อน" ได้เสียชีวิตที่ รพ. ซึ่งทางค่ายได้แสดงความเสียใจ และยืนยันว่า "จุดเกิดเหตุอยู่นอกพื้นที่ของค่าย"
ผู้ดูแลค่ายลูกเสือที่เกิดเหตุ
 

ดรามาคำชี้แจงหน่วยงานการศึกษา "นึกว่าทำคอนเทนท์" 

วันที่ 17 พ.ย. 66 พ่อแม่ "น้องม่อน" ไปออกรายการ "โหนกระแส" ยอมรับว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม จากผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมโชว์เอกสารที่ทาง รร. ส่งมาครอบครัวเพื่อขออนุญาตพาเด็กไปค่าย และเป็นเอกสารยืนยันว่า ช่วงที่เกิดเหตุในตารางกิจกรรมระบุเป็นกิจกรรม “เล่นน้ำตกหน้าค่าย” 

ทางครอบครัวเผยว่า รู้ข่าวร้ายจากคนรู้จัก แทนการแจ้งจากโรงเรียนของลูกชาย พร้อมรับคำตอบจากโรงเรียนว่า ตอนเกิดเหตุ ไม่ได้เป็นกิจกรรมที่วางไว้ แต่เป็นการพาเด็ก ๆ ไปล้างตัว มีการแจ้งเตือนแล้ว 
ครอบครัว "น้องม่อน" ไปออกรายการโหนกระแส

ขณะที่เพื่อนของ "น้องม่อน" ระบุ การพาไปเล่นน้ำ เป็นหนึ่งในกิจกรรมตามแพลน จึงมีเด็กมาเล่นน้ำจำนวนมาก จนเป็นที่มาของการลงเล่นน้ำ ในจุดเกิดเหตุ เพื่อเลี่ยงความแออัด และขณะเกิดเหตุ พยายามช่วย "น้องม่อน" แล้ว แต่ด้วยความแรงกระแสน้ำ จึงไม่สามารถทำได้ 

ขณะที่วิทยากรที่อยู่ใกล้ แม้จะเห็นและส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่การช่วยเหลือยังล่าช้า จากสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งทางครอบครัวมองว่า เป็นเพียงคำอ้าง และไม่ได้มีการเตรียมความพร้อม!!
เจ้าไมกี้ นั่งเศร้าในงานศพ "น้องม่อน"

ครอบครัวน้องม่อนระบุอีกว่า หลังเกิดเหตุ ทางโรงเรียนอ้างว่า จะรับผิดชอบทุกอย่าง ขอให้ทางครอบครัว อย่าไปออกข่าว แต่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม และสิ่งที่บีบหัวใจผู้เป็นพ่อแม่คือ คำพูดครูที่พูดกับนักเรียนในห้องว่า "เสียใจที่มีคนสูญเสีย ดีที่ไม่ใช่เด็กในห้องเรา" จนเกิดเป็นกระแสโจมตีทางโรงเรียน 

อีกประเด็น ที่ทำให้ครอบครัวเจ็บช้ำหนักคือ คำพูดของ "ผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่หลังเกิดเรื่อง ได้สอบถามผู้เกี่ยวข้อง มีการระบุว่า สาเหตุที่เพื่อน ๆ ไม่ได้เข้าไปช่วย ตอนที่น้องยกมือ  เพราะน้องเป็น "เน็ตไอดอล" ทุกคนเลยคิดว่า "กำลังทำคอนเทนต์ เพื่อสร้างยอดวิว" 

ครอบครัวเลื่อนฌาปนกิจ เพื่อทวงความยุติธรรม 

วันที่ 19 พ.ย. 66 พ่อและแม่ "น้องม่อน" ได้แจ้งยกเลิกพิธีฌาปนกิจ "น้องม่อน" ออกไปไม่มีกำหนด เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อเป็นการทวงหาความยุติธรรมให้ลูก เนื่องจากทางโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้อง ยังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย   


 

เดินหน้าเอาผิดผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมาย 

วันที่ 20 พ.ย. 66 พ่อและแม่ "น้องม่อน" พร้อมทนายความ เข้าแจ้งความ สภ.มวกเหล็ก พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้มีการสอบสวน ดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยพ่อย้ำว่า อยากจะให้ "น้องม่อน" ได้รับความยุติธรรม 

ส่วนสาเหตุที่ยกเลิกพิธีฌาปนกิจ "น้องม่อน" เนื่องจากว่า "น้องม่อน" มาเข้าฝันบอกว่าหนาว จึงคิดว่า "น้องม่อน" ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ


ดังนั้น เหตุสลดที่เกิดขึ้นกับ "น้องม่อน" ในครั้งนี้ จึงยังต้องติดตามว่า ที่สุดแล้ว ใคร? จะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์เกิดขึ้น นอกเหนือจาก "ความประมาท" ที่เป็นต้นเหตุเรื่องราวสุดเศร้าครั้งนี้