เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่กำลังถูกพูดถึงอย่างร้อนแรงในช่วงเวลานี้!!
ปิดตำนานคาราบาว วงดนตรีเพลงเพื่อชีวิต "แอ๊ด คาราบาว" เปิดใจถึงสาเหตุประกาศยุบวง หลังจบจากคอนเสิร์ตของครั้งสุดท้าย ทำเอาสาวกใจหาย บ่นเสียดายเป็นแฟนวงคาราบาวมาอย่างยาวนาน
โดยกระแสร้อนๆ นี้ ได้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้าแอ๊ด คาราบาว ได้มีการประกาศผ่านในงาน Bom Sincharoen Fan Meet#4 ว่า
"คาราบาว" จะเลิกวงแล้ว หลังจบจากคอนเสิร์ตของคาราบาวครั้งสุดท้าย!!
"แอ๊ด คาราบาว" เผยสาเหตุ ทำไม "คาราบาว" ประกาศยุบวง
โดย น้าแอ๊ด หรือ "แอ๊ด คาราบาว" ได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุเพราะสมาชิกในวงนั้นค่อนข้างจะมีอายุมาก และมีปัญหาสุขภาพของสมาชิกในวง ซึ่งขณะนี้ก็เข้าโรงพยาบาลอยู่ 4 คน
โอเคมันถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องปลดปล่อยยอมรับความจริงว่าเราแก่ แต่เราก็ยังเก๋าอยู่ ใครอยากจะเล่นกับใครใครอยากจะทำอะไรก็ตามสบาย น้าแอ๊ดกล่าว
ส่วนตนเองจะยังคงทำงานเขียนเพลงและทำดนตรีต่อไป ร่วมกับนักดนตรีรุ่นใหม่ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายได้มีงานทำ และยังบอกอีกว่าชีวิตเจ้าตัวนั้นไม่ใช่นักดนตรีหรือมือกีต้าแต่เป็นนักแต่งเพลง
นอกจากนี้ แอ๊ด คาราบาว กล่าวอีกว่า
"ตัวผมก็จะพาเด็กๆ ในวงไปต่อ แล้วก็เจอหลานชายเนี่ยนะครับ ดั้มพ์เพิ่งจะอายุ 18 ก็เป็นมือกีตาร์และทำได้หลายอย่าง ก็ยังทำให้หัวใจผมยังมีความสุขกับเพลง เพราะชีวิตผมเนี่ย ผมไม่ใช่นักดนตรี ผมไม่ใช่มือกีตาร์ แต่ชีวิตผมเป็นนักแต่งเพลง นะครับผมมีความสุขในการแต่งเพลงวันหนึ่งได้อัดเพลง ได้แต่งเพลง ดูเพลงออกไปสู่สังคมแล้วผมก็นอนหลับ ฝันดีมีความสุข ไม่ใช่เรื่องเงิน ผมควักกระเป๋าทำได้ทุกอย่าง แต่พอได้เงินมา ผมก็เอามาให้น้องๆ ใครอยากได้อะไรซื้อให้หมด แล้วครึ่งหนึ่งเอาไปบริจาคให้วัด"
หลายคนอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่า “แอ๊ด คาราบาว” นอกเหนือจากเป็นศิลปินนักร้องเพื่อชีวิตแล้ว ยังสวมหมวกอีกใบเป็น “นักธุรกิจ” ขาย “เครื่องดื่มชูกำลัง” ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ
ศิลปินเพลงหมื่นล้าน “แอ๊ด คาราบาว” ผนึกสหายรุ่นพี่ เสถียร เศรษฐสิทธิ์ สร้างอาณาจักรคาราบาวกรุ๊ป (CBG) ขายสารพัดสินค้า เครื่องดื่มชูกำลังยันปั้นโชห่วยระดับรากหญ้า
ในวัยหนุ่มแน่น “แอ๊ด คาราบาว” เข้าร่วมขบวนการปฏิวัติ ชื่อจัดตั้ง สหายเชี่ยว ทำงานในเมือง ฝ่ายเสถียร หรือ สหายคง รับบทหมอฝังเข็ม ในป่าอีสานใต้
ยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ด คาราบาว"
หนึ่งในศิลปินเพลงเพื่อชีวิตระดับตำนาน ที่ประสบความสำเร็จในการก่อตั้งบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG โดย แอ๊ด คาราบาว ถือหุ้น 70.48 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 7,845 ล้านบาท หากรวมทั้งครอบครัวโอภากุล คิดเป็นมูลค่าประมาณ 12,500 ล้านบาท (ข้อมูล พ.ค.2564)
ปี 2544 บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด เกิดขึ้นจากการร่วมทุนของ แอ๊ด คาราบาว , เสถียร เศรษฐสิทธิ์ และณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท และเปิดตัวเครื่องดื่มคาราบาวแดง โดยเสถียร ดูแลด้านการคิดค้นสูตรเครื่องดื่ม และณัฐชไม เป็นฝ่ายบริหารจัดการ
เครื่องดื่มคาราบาวแดง ออกสู่ท้องตลาด เมื่อ 28 ต.ค.2545 และปี 2557 มีการจัดตั้ง บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ผมไม่ทราบมูลค่าทางธุรกิจ ผมคิดแค่ว่า ขอให้ตื่นเช้ามาทำงานและสนุก จริงๆชีวิตผมมาถึงตรงนี้ มีรายได้ขนาดนี้ นับว่ามากและใช้ไม่หมดอยู่แล้ว จะบอกว่าพอแค่นี้ก็ได้ แต่พี่เถียร(เสถียร เศรษฐสิทธิ์) ยังลากไปอยู่ เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็ต้องไปด้วยกัน...” แอ๊ดให้สัมภาษณ์นิตยสาร Forbes Thailand เมื่อปี 2560
เผยความลับ "เกือบขายบะหมี่บาวแดง"
"แอ๊ด คาราบาว" ได้มารู้จักกับ "เสถียร เศรษฐสิทธิ์" สหายรุ่นพี่จากป่าอีสานใต้ สมัยที่เปิดผับตะวันแดงสาดแสงเดือน ย่านคลองตัน และเปิดโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ในปี 2542
ในช่วง ปี 2544 "แอ๊ด คาราบาว" ได้รับคำเชิญจากเจ้ายอดศึก ผู้นำกองพันรัฐฉานใต้ ให้ไปเยี่ยมชมที่มั่นดอยไตแลง ชายแดนไทย-พม่า เขาจึงชวนเสถียร และมิตรสหายอีสานใต้อีก 2-3 คน เดินทางไปด้วยกัน
ระหว่างการตะลุยขึ้นดอยไตแลง แอ๊ดได้ปรึกษากับสหายอีสานใต้อย่างจริงจังว่า เมื่อการเล่นดนตรีมาถึงทางตันแล้ว จะทำอะไร อยากทำธุรกิจรองรับบั้นปลายชีวิต
ครั้งหนึ่ง แอ๊ด คาราบาว เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "สนใจทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่เสถียรมองว่า สินค้าไม่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ของแบรนด์คาราบาว จึงเสนอธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะสูตรเครื่องดื่มอยู่ในมือแล้ว"
โชคดีครับที่ พี่เสถียร แนะนำให้ทำเครื่องดื่มชูกำลัง มิเช่นนั้น แฟนเพลงคาราบาว อาจได้ลิ้มรส "บะหมี่บาวแดง" เป็นแน่ !!
‘สองสหายอีสานใต้’
เมื่อถึง "แอ๊ด คาราบาว" และเครื่องดื่มคาราบาวแดง ก็ต้องนึกเห็นคู่หูรุ่นพี่ "เสถียร เศรษฐสิทธิ์" เพราะธุรกิจนี้หากขาดใครคนใดคนหนึ่ง เครื่องดื่มแบรนด์นี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน!!
พี่เสถียร กับ น้องแอ๊ด
2 คนนี้ มีพื้นเพพื้นฐานชีวิตที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน ทั้งคู่ต่างเติบโตมาในครอบครัวหัวการค้าเหมือนกัน "น้องแอ๊ด" ได้วิชาค้าขายจากคุณแม่ ส่วน "พี่เสถียร" แม่ขายก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่ในตลาดแปดริ้ว
ในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เสถียร เรียนปี 1 คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ได้ตัดสินใจหลบหนีภัยเผด็จการเข้าไปอยู่ในป่า พร้อมกับเพื่อนนักศึกษาหลายพันคน
เสถียร ใช้ชีวิตอยู่ใต้ร่มธงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ที่เขตงานอีสานใต้ ชื่อจัดตั้งว่า “สหายคง” สังกัดหน่วยทหารเสนารักษ์ ส่วนแอ๊ด คาราบาว ไม่ได้เข้าป่า แต่ทำงานเดินเมล์(หน่วยขนส่ง)ของอีสานใต้ ระหว่างเมืองกับป่าเขา มีชื่อจัดตั้งว่า “สหายเชี่ยว” แต่ทว่าในตอนนั้น ทั้งคู่ไม่ได้เจอกัน
ปี 2523 สถานการณ์ป่าแตก นักศึกษาคืนเมืองตามนโยบาย 66/2523 "เสถียร" หันไปทำธุรกิจเป็นโรงงานผลิตตะปูที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนหันไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุครัฐบาลชาติชาย
จากนั้น เสถียร หันมาทำผับตะวันแดงสาดแสงเดือน และโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ทำให้ "2 สหายอีสานใต้" ได้พบกัน และเปิดจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจร่วมกันมาจนถึงบัดนี้!!
ชวนคอข่าวมาจับตาข้อมูลอีกฟากฝั่ง เพจดังสายธุรกิจอย่าง "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" อัปเดตข้อมูลเชิงลึกให้คอข่าวได้ทราบกัน(ปี 2565) นำมาย้อนให้อีกครั้งณ ตรงนี้
อ้างอิงชุดข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 พบว่า “ยืนยง โอภากุล” มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 8 แห่ง แบ่งเป็นในเครือ “คาราบาวกรุ๊ป” 4 แห่ง ได้แก่
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG
ทุนปัจจุบัน 1 พันล้านบาท ธุรกิจหลักคือการจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” มีนายยืนยง โอภากุล ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 จำนวน 70,480,000 หุ้น คิดเป็น 7.05% และมีคนในครอบครัว “โอภากุล” ถือหุ้นอีก 3 ราย ได้แก่ นางลินจง โอภากุล (ภริยา) ถือ 26,166,900 หุ้น คิดเป็น 2.62% น.ส.ณิชา โอภากุล (บุตร) ถือ 17,794,600 หุ้น คิดเป็น 1.78% และนายวรมัน โอภากุล (บุตร) ถือ 15,219,100 หุ้น คิดเป็น 1.52%
หากนับรวมหุ้นที่ “แอ๊ด คาราบาว” และครอบครัวรวม 4 รายถือหุ้นรวมกัน 129,660,600 หุ้น ราคาหุ้นปิดที่ 82.50 บาท/หุ้น (ราคา ณ วันที่ 12 ต.ค. 2565) เท่ากับว่าหุ้นจำนวนนี้มีมูลค่า 10,696,999,500 บาท หรือราว 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับ CBG มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บริษัท เสถียรธรรมโฮลดิ้ง จำกัด ของคนตระกูล “เสถียรธรรมะ” จำนวน 25.01% และ น.ส.ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ ถือรองลงมาที่ 21%
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 2/2565 (สิ้นสุด ณ 30 มิ.ย. 2565) มีรายได้รวม 10,141.71 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,402.70 ล้านบาท นำส่งงบการเงินเมื่อปี 2564 (สิ้นสุด ณ 31 ธ.ค. 2564) มีรายได้รวม 17,570.33 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,881 ล้านบาท
บริษัท คาราบาว ตะวันแดง จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2544 ทุนปัจจุบัน 300 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 393 อาคาร393 สีลม ชั้นที่ 7-10 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม น้ำดื่มทุกประเภท ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้
1. นายเสถียร เสถียรธรรมะ
2. นายยืนยง โอภากุล
3. นางวงดาว ถนอมบูรณ์เจริญ
4. นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร
5. นายพงศานติ์ คล่องวัฒนกิจ
นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 12,306,967,988 บาท กำไรสุทธิ 2,038,379,508 บาท
บริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2548 ทุนปัจจุบัน 1.3 พันล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 393 อาคาร393 สีลม ชั้น 7-10 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายขวดและผลิตภัณฑ์จากขวดแก้วทุกชนิด ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้
1. นายเสถียร เสถียรธรรมะ
2. นายยืนยง โอภากุล
3. นางวงดาว ถนอมบูรณ์เจริญ
4. นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร
5. นายพงศานติ์ คล่องวัฒนกิจ
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 2,191,989,661 บาท กำไรสุทธิ 652,874,400 บาท
บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 393 อาคาร393 สีลม ชั้นที่ 7-10 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจขายเครื่องดื่ม ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้
1. นายเสถียร เสถียรธรรมะ
2. นายยืนยง โอภากุล
3. นางวงดาว ถนอมบูรณ์เจริญ
4. นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร
5. นายพงศานติ์ คล่องวัฒนกิจ
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 9,850,851,491 บาท กำไรสุทธิ 47,422,727 บาท
ธุรกิจส่วนตัว “แอ๊ด คาราบาว” เป็นกรรมการบริษัท 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 1 แห่ง ได้แก่
บริษัท มองโกล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2544 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 529/55 ซอยลาดพร้าว 126 (กรัณฑ์พร) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ ผลิตและขายเทปบันทึกเสียง แผ่นซีดี แผ่นวีซีดีประพันธ์บทเพลง ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้
1. นายยืนยง โอภากุล
2. นายปรีชา ชนะภัย (เล็ก คาราบาว)
3. นายเทียรี สุทธิยง เมฆวัฒนา (เทียรี่ คาราบาว)
4. นางลินจง โอภากุล
5. นางสาวณิชา โอภากุล
6. นายวรมัน โอภากุล
7. นายวุฒิชัย ปลื้มตระกูลชัย
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 23,483,633 บาท กำไรสุทธิ 87,188 บาท
ส่วนอีก 3 แห่งแจ้งสถานะ “เสร็จการชำระบัญชี” ไปแล้วทั้งหมด คือ บริษัท บัฟฟาโล่เฮด จำกัด บริษัท วินด์ซอง จำกัด และบริษัท ออบาแร็ค จำกัด
ขณะที่ “ลินจง โอภากุล” ภริยา และ 2 ลูกชาย/ลูกสาว “ณิชา-วรมัน โอภากุล” เป็นกรรมการบริษัทร่วมกันอย่างน้อย 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท มองโกล จำกัด (นำเสนอไปแล้วข้างต้น) ส่วนอีก 4 แห่ง คือ
1.หจก.ปืนคาบศิลา ทำธุรกิจรับสั่งซื้อ นำเข้า จำหน่าย ซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อะไหล่ปืน รายได้ปี 2564 รวม 3,238,465 บาท กำไรสุทธิ 715,282 บาท
2.หจก.ปืนณิชา ทำธุรกิจประกอบกิจการจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อะไหล่และเครื่องอุปกรณ์ รายได้ปี 2564 รวม 2,203,356 บาท กำไรสุทธิ 453,318 บาท
3.บริษัท มหิงสา จำกัด ทำธุรกิจรับจ้างและให้บริการเกี่ยวกับการจัดการแสดง การพูด และ คอนเสิร์ตทั่วไป รายได้ปี 2564 รวม 457,031 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,594,234 บาท
4.บริษัท แอทบาวบุรี จำกัด ประกอบธุรกิจ โรงแรม ขายอาหารเครื่องดื่ม รายได้ปี 2564 รวม 54,688 บาท ขาดทุนสุทธิ 614,639 บาท
ทั้งหมดคือข้อมูลทางด้านธุรกิจ ของสุดยอดนักร้องเพลงเพื่อชีวิต ขวัญใจมหาชนมายาวนาน ยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ที่อัปเดตไว้ล่าสุด
อัปเดตธุรกิจในเงื้อมมือของ คาราบาวกรุ๊ป
รู้จัก "คาราบาวกรุ๊ป"
บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด เกิดจากการลงทุนร่วมกันระหว่าง กลุ่มธุรกิจโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง อันได้แก่ นายเสถียร เสถียรธรรมะ นางสาวณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ และนายยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตที่มีแฟนเพลงรักและศรัทธามากที่สุดในประเทศไทย
"บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด" ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2544 เพื่อประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดง โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 1 ล้านบาท
บริษัทฯ ได้เปิดตัวเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า "คาราบาวแดง" เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2545 ซึ่งเป็นการนำชื่อของวงคาราบาว มาผสมผสานกับชื่อของ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ภายใต้สโลแกน "คาราบาวแดง เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่"
เมื่อธุรกิจผลิต ทำการตลาดและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ถือหุ้นได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมให้ครบวงจร ตั้งแต่ขบวนการหาวัตถุดิบหลัก การผลิต การตลาด และการจัดจำหน่ายให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ตั้ง บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขึ้น เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557
ปัจจุบันโรงผลิตภายใต้การดำเนินงานของ คาราบาวตะวันแดง สามารถรองรับปริมาณบรรจุ สินค้าสำเร็จรูปสูงสุดประมาณ 2,500 ล้านกระป๋องและ 2,400 ล้านขวดต่อปี ภายใต้โรงงานแห่งใหม่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องจักร อุปกรณ์ และระบบสนับสนุนที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งเดียวกับโรงผลิตขวดแก้ว และกระป๋องอลูมิเนียม เพื่อรวมเป็นศูนย์การผลิตในจุดเดียวเข้าไว้ด้วยกัน
เปิดอาณาจักร คาราบาว กรุ๊ป 7 บริษัทในเครือ
โดยอาณาจักรธุรกิจของ คาราบาว กรุ๊ป ประกอบด้วยบริษัทในเครือ 7 บริษัท ซึ่งดูแลธุรกิจต่าง ๆ แบ่งเป็น
บริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด (APG)
เป็นธุรกิจต้นน้ำที่ผลิต-จัดหาขวดแก้วสำหรับเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ ทั้งของบริษัทเองและรับจ้างผลิต รองรับปริมาณน้ำแก้วสูงสุดประมาณ 640 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 310 ตันต่อวัน
บริษัท เอเชีย แคน แมนูแฟคเจอรี่ง จำกัด (ACM)
อีกหนึ่งธุรกิจต้นน้ำ ซึ่งผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ฯ กำลังผลิตสูงสุดประมาณ 1,000 ล้านกระป๋องต่อปี
บริษัท เอเชีย แพ็คเกจจิ้ง แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (APM)
ทำธุรกิจผลิตและจัดหาบรรจุภัณฑ์อีก 3 ประเภทคือ กล่องกระดาษลูกฟูก ฉลากพลาสติกชนิด OPP และแผ่นฟิล์มหด โดยอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะสามารถผลิตกล่องกระดาษได้ 72 ล้านชิ้นต่อปี ฉลากพลาสติกชนิด OPP จำนวน 30.9 ล้านตารางเมตรต่อปี และแผ่นฟิล์มหด 3.0 พันตันต่อปี
บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด (CBD)
ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มผสมซิงก์ เครื่องดื่มวิตามิน และเครื่องดื่มอื่น ๆ ด้วยโรงงานที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถบรรจุสินค้าสำเร็จรูปสูงสุดประมาณ 2,190 ล้านกระป๋อง และ 2,430 ล้านขวดต่อปี รวมถึงทำการตลาด ขายและจัดจำหน่ายทั้งในไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศ
บริษัท ตะวันแดงดีซีเอ็ม จำกัด (DCM)
รับหน้าที่บริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับธุรกิจในประเทศ ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มบริษัทเป็นเจ้าของ ประกอบด้วย เครื่องดื่มให้พลังงานแบบอัดและไม่อัดก๊าซ, เครื่องดื่มวิตามินซี วู้ดดี้ ซี+ล็อค, เครื่องดื่มเกลือแร่ คาราบาว สปอร์ต, กาแฟและน้ำดื่ม
นอกจากนี้ ยังรับจ้างจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและที่ไม่ใช่อาหารให้แก่บุคคลภายนอก ในช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งร้านค้าดั้งเดิม แบบกระจายผ่านตัวแทน และกระจายผ่านศูนย์กระจายสินค้า และหน่วยรถเงินสดของตนเอง รวมถึงร้านค้าสมัยใหม่ ด้วยศููนย์กระจายสินค้าจำนวน 31 แห่ง และหน่วยรถเงินสด 326 คัน ครอบคลุมร้านค้ารวมประมาณ 180,000 ทั่วประเทศ
บริษัท เอ วู้ดดี้ ดริงค์ จำกัด
ประกอบธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และทำการตลาดเครื่องดื่มประเภท Functional Drinks โดยเป็นผู้พัฒนาเครื่องดื่มวิตามินซีภายใต้ตราสินค้า วู้ดดี้ ซี+ล็อค
บริษัท INTERCARABAO LIMITED
ประกอบธุรกิจการตลาดขายและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ในประเทศอังกฤษและประเทศอื่น ๆ นอกทวีปเอเชีย
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจที่ “เสถียร เสถียรธรรมะ” ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ลงทุนในนามของตนเอง อย่าง ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซื้อ CJ Express, CJ Supermarket และ CJ More รวมถึงบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจร้านโชห่วยสมัยใหม่ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน
โดย ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส มีสาขาร้านค้าปลีกรวมกว่า 900 แห่ง ในพื้นที่ 41 จังหวัด พร้อมเป้าหมายปี 2569 ที่ CJ More ที่เป็นศูนย์การค้าขนาดเล็ก จะมี 500 สาขา และ CJ Supermarket จะมี 1,500 สาขา
ส่วน ทีดี ตะวันแดง มีร้านในเครือค่ายครอบคลุมอยู่กว่า 62 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยจำนวนร้านค้ามากกว่า 5,600 แห่ง ในจำนวนนี้มีจังหวัดที่มีร้านถูกดีฯ เปิดให้บริการอยู่มากกว่า 200 ร้านค้า มีถึง 8 จังหวัด หรือรวมประมาณ 2,022 ร้าน ประกอบด้วย นครราชสีมา 340 ร้าน อุบลราชธานี 301 ร้าน ศรีสะเกษ 251 ร้าน อุดรธานี 244 ร้าน สุรินทร์ 237 ร้าน บุรีรัมย์ 225 ร้าน ร้อยเอ็ด 221 ร้าน และสกลนคร 203 ร้าน
นอกจากนี้ ยังมีจังหวัดที่มีร้านในเครือมากกว่า 100 ร้าน อีก 8 จังหวัด รวมประมาณ 1,017 ร้าน ประกอบด้วย เพชรบูรณ์ 157 ร้าน ชัยภูมิ 150 ร้าน กาฬสินธุ์ 138 ร้าน กาญจนบุรี 123 ร้าน นครพนม 121 ร้าน มหาสารคาม 112 ร้าน พิษณุโลก 110 ร้าน และเลย 106 ร้าน
ย้อนไปเมื่อ 24 มกราคม 2566 นายเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” สุรา “ข้าวหอม” ฯลฯ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวเบียร์ใหม่ และคาดว่าจะวางตลาดได้ในช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตที่จังหวัดชัยนาท มีกำลังการผลิตประมาณ 400 ล้านลิตร และมีแผนจะวางขายทั่วประเทศ เบื้องต้นมีแผนจะทำเบียร์ออกมาอย่างน้อย 2-3 รสชาติ และครบทุกเซ็กเมนต์ และอาจจะใช้ชื่อว่า เบียร์คาราบาวแดง หรือ เบียร์ตะวันแดง
“การรุกเข้ามาในตลาดเบียร์ ถือเป็นไฟท์บังคับ หลังจากที่ทำเหล้าแล้ว ถ้าเราไม่ทำเบียร์ โอกาสที่เหล้าจะเติบโตหรือขยายตัวค่อนข้างยาก และต้องยอมรับว่าถ้าจะขายเหล้า ส่วนใหญ่ก็จะต้องขายอยู่ในร้านอาหาร หรือผับ บาร์ ประกอบกับมีพื้นฐานจากโรงเบียร์เยอรมัน ตะวันแดง ที่เปิดมา 20 กว่าปี และจริงๆ ไม่ได้คิดจะไปแข่งกับใคร แต่มองว่าเป็นโอกาสมากกว่า เหมือนตอนที่ทำเครื่องดื่มชูกำลัง และเปิดแบรนด์คาราบาว มันมีโอกาสขายได้” นายเสถียร กล่าว
หลังจากที่ผู้สื่อข่าว ได้เคยรายงานไปเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า คาราบาว กรุ๊ป เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง มีแผนจะเปิดตัวเบียร์ 2 แบรนด์ใหม่จำนวน 4 ตัว เพื่อแย่งเค้กของตลาดเบียร์กว่า 2.6 แสนล้าน
โดยมีเป้าหมายที่จะเจาะตลาดใน 2 เซ็กเมนต์ คือตลาดอีโคโนมี และพรีเมี่ยม ประกอบด้วย คาราบาวเบียร์ (Lager) 1 ตัว และเบียร์ดำ (Dunkle) 1 ตัว ส่วนอีกแบรนด์คือ ตะวันแดง เป็นไวเซ่น (Weizen) และโรเซ่ (Rose)
ถัดมาในช่วงปลายเดือนกันยายน คาราบาว กรุ๊ป ได้เริ่มทยอยยิง Teaser เบียร์ตัวใหม่ โดยมีนายเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป มาบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำเบียร์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก Carabao Tawandang Beverage และ CJ MORE-ถูกดี มีมาตรฐาน พาร์ตเนอร์ที่ดีควบคู่กันไป
หลังจากมีกระแสข่าวการเตรียมเปิดตัวคาราบาวเบียร์และตะวันแดง ของคาราบาว กรุ๊ป ล่าสุด คาราบาว กรุ๊ป ได้เริ่มทยอยยิง Teaser เบียร์ตัวใหม่ โดยมีนายเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป มาบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำเบียร์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก Carabao Tawandang Beverage และ CJ MORE-ถูกดี มีมาตรฐาน พาร์ตเนอร์
ย้อนวันวาน ดรามาสนั่นเมืองสุพรรณ ก่อนหน้านี้
สำหรับ “ยืนยง โอภากุล” หรือ “แอ๊ด คาราบาว” นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ภายหลังปรากฏคลิปด่ากราดข้าราชการระดับสูงบนเวทีคอนเสิร์ตใน จ.สุพรรณบุรี ในงานวันเกิดนายปิยพจน์ เกียรติชูสกุล หรือ “กำนันพุก” ผู้กว้างขวางใน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยเกิดขึ้นจากที่ “คาราบาว” ไม่ได้เล่นงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ และงานกาชาดใน จ.สุพรรณบุรี
ทำเอาหลายฝ่ายตีความกันว่าอาจเป็นการพาดพิง “ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี” หรือไม่ จนเจ้าตัวออกมาชี้แจงว่า เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ และเป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมกราบขออภัยผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี แต่เหมือนจะช้าไปเสียแล้ว เพราะรายงานข่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2565 นายเดชะ สิทธิสุทธิ์ หัวหน้าสำนักงาน จ.สุพรรณบุรี พร้อมนายสรวุฒิ แสนเทศ นิติกรชำนาญการ สำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อัจฉรี วุฒิวัฒนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดต่อนายยืนยง โอภากุล ในข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาแล้ว สุดท้าย น้าแอ๊ด ได้เข้าขอโทษ เรื่องราวดรามาจบสวย จบลงด้วยดี !!
อีกความเคลื่อนไหวในวันนี้ เล็ก คาราบาว หรือ ปรีชา ชนะภัย ส่งโพสต์ ย้ำ คาราบาว ยุบวงจริง ตามที่ แอ๊ด คาราบาว ให้ข้อมูลในเบื้องต้น
ชวนส่องโพสต์ เล็ก คาราบาว ระบุใจความไว้ว่า
คงได้ทราบข่าวการยุติวงของพวกเรากันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นความจริงครับ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเนาะ สัจธรรมของชีวิตนั้น “ไม่จากเป็นก็จากตาย” ดังนั้นวันที่ 11 เดือน 11 พ.ศ. 2566 นี้ จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่สุดท้ายของพวกเรา จากนั้นก็คงเป็นงานเล็กๆ ทั่วไปที่รับค้างคากันไว้แต่แรก แต่ก็ไม่กี่งานครับ
จะว่าไปแล้วช่วงหลังมานี้ เราก็ขึ้นเวทีแบบไม่ครบองค์ประชุมมาหลายงานแล้ว ผมเองปีที่แล้วก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งทุกวันนี้ก็ต้องใช้ชีวิตแบบ สว. เต็มรูปแบบ คือเลิกดื่มพร่ำเพรื่อ หันมาดื่มเท่าที่จำเป็นจริงๆ อิ อิ
ชีวิตก็คงดำเนินต่อไปแหละเนาะ ดั่งที่ผมเคยเรียนท่านแล้วว่า พวกเราไม่ใช่ไม้ใกล้ฝั่ง แต่เป็นไม้ใกล้โรงเลื่อย รอแปรสภาพเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ต่อไปครับ
นั่นหมายความว่า ต่อไปนี้ท่านจะได้ฟังงานเดี่ยวของพวกเรามากขึ้น และเรื่องราวชีวิตหลังการเดินทางกับเพื่อนพ้องน้องพี่มาอย่างยาวนานครับ
สวัสดีครับ