16 ธันวาคม 2567 แหล่งข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่า วันนี้ศาลจังหวัดเกาะสอง ได้ตัดสินคดีความของ 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกจับกุมตัวพร้อมกับลูกเรือชาวเมียนมาอีก 27 คน และยึดเรือประมงไว้ที่เกาะย่านเชือก จังหวัดเกาะสอง เมื่อ 30 พ.ย. 67 ในขณะที่กำลังทำประมงในพื้นที่ทับซ้อน
โดยศาลจังหวัดเกาะสอง ได้ตัดสินจำคุกเจ้าของเรือไทย เป็นเวลา 5 ปี ในข้อหาลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย หรือการรุกล้ำน่านน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต และตัดสินจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมจำคุก 6 ปี และปรับเงิน 20,000 จ๊าด (คิดเป็นเงินไทย ราว 320 บาท)
ส่วนลูกเรือไทยอีก 3 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 3 ปี ในข้อหาลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย และตัดสินจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมจำคุก 4 ปี และปรับคนละ 30,000 จ๊าด (คิดเป็นเงินไทย ราว 320 บาท)
ขณะที่ลูกเรือชาวเมียนมา 27 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า จะช่วยให้คนไทยกลับประเทศได้เมื่อใด หรือต้องจำคุกจนกว่าจะครบนั้น แหล่งข่าวจากกองทัพบก บอกว่า ต้องมีการประสานงานกันอีกครั้ง และต้องดูว่าระดับ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา จะทำอะไรได้แค่ไหน หรือในที่สุดอาจต้องให้ระดับบน ดำเนินการแทน เพราะถือเป็นปัญหาระดับประเทศแล้ว
ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า การตัดสินคดีดังกล่าวของศาลจังหวัดเกาะสอง ถือเป็นการช่วยเหลือลูกเรือไทยเป็นกรณีพิเศษแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดคำครหา เพราะตามธรรมเนียมของกฎหมายเมียนมา ผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษ การตัดสินครั้งนี้เป็นการตัดสินตามอัตราโทษที่ต่ำสุด เพื่อให้จบกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกว่า คาดว่าฝ่ายเมียนมา จะอภัยโทษปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทย ในวันชาติเมียนมา คือ 4 ม.ค. 68 ซึ่งก็ต้องดูกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 "พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง" โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้สั่งการให้ รองนายกฯ ภูมิธรรม ติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมชื่นชมทุกฝ่ายโดยเฉพาะกระทรวงต่างประเทศ และ คณะกรรมการชายแดนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา หรือ TBC ที่ได้ช่วยประสานงาน จนสถานการณ์คลี่คลายขึ้น