svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม "วังตะไคร้" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม "วังตะไคร้" จังหวัดนครนายก ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยวหายไปสายน้ำ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำครั้งใหญ่

หลังจากเกิดเหตุการณ์ระทึกเมื่อช่วงเช้ามืด 05.00 นาฬิกาที่ผ่านมา เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายจุดในพื้นที่ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ส่งผลทำให้ระดับน้ำในลำคลองสายต่างๆ เอ่อล้นตลิ่ง บางจุดสูงเหนือตลิ่งมากกว่า 1-2 เมตร ขณะที่เครื่องส่งสัญญาณโครงการเฝ้าระวังและเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉลับพลัน-ดินถล่มสะพานวังตะไคร้  ได้ร้องแจ้งเตือน น้ำป่าไหลบ่าผ่านคลองวังตะไคร้ ทำให้น้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น (อ่านข่าวย้อนหลัง)

 

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

 

แม้เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่รุนแรง ไม่มีใครเสียชีวิต แต่เมื่อมีข่าวน้ำป่าเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้คราใด หลายคนยังคงฝังใจกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2537 กรณีน้ำป่ากลืน 21 ชีวิตหายไปกับสายน้ำ

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

 

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น ช่วงบ่ายวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2537 น้ำป่าก้อนมหึมา ไหลเป็นคลื่นยักษ์ทะลักเข้าอุทยานแห่งชาติวังตะไคร้ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ขณะที่นักท่องเที่ยวพาครอบครัวลูกหลาน พี่ป้าน้าอามาเที่ยวชมธรรมชาติในวันหยุด ไม่ต่ำกว่า 400-500 คน ทั้งเด็กผู้ใหญ่กำลังสนุกสนานกับการลงเล่นน้ำ ท่ามกลางฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก สุดท้ายกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของไทย มีผู้เสียชีวิตมากถึง 21 คน เพราะหนีน้ำป่าไม่ทัน กระแสน้ำเชี่ยวกรากสีแดงขุ่นคล้ายน้ำผสมดินลูกรังไหลมาไม่ทันตั้งตัว ท่ามกลางเสียงผู้คนตะโกนหากันแบบไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำพัดพาร่างเหยื่อนับร้อยชีวิตหายไปกับน้ำ

 

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

 

ก่อนหน้านั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายต้นน้ำวังตะไคร้บริเวณเขาใหญ่ว่า มีมวลน้ำป่าขนาดใหญ่กำลังตรงไปทางจุดเล่นน้ำตกวังตะไคร้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเป่านกหวีดและเรียกให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งบางคนต่างงงว่าเกิดอะไรขึ้นฉับพลันจากน้ำที่ใสเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่น และน้ำเริ่มไหลเร็ว จนกระทั่งมวลน้ำป่าก้อนใหญ่เข้าปะทะกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว กวาดกลุ่มคนให้ไปติดอยู่ที่ต้นไม้

 

เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยต่างเร่งช่วยเหลือผู้รอดชีวิต หลังเหตุการณ์สงบลงมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 21 คน บาดเจ็บจำนานมาก

 

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

 

จากการตรวจสอบพบว่าต้นตอของการเกิดเหตุน้ำป่าที่วังตะไคร้ มาจากแอ่งน้ำบริเวณเขาใหญ่ ซึ่งมีปริมาณน้ำมาก ทำให้เกิดการพังทลายและเกิดเป็นน้ำป่าขึ้น นับว่าเป็นเหตุการณ์น้ำป่าครั้งร้ายแรงครั้งหนึ่งในประเทศไทย

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

สำหรับวังตะไคร้ เกิดขึ้นด้วยปณิธานการเป็นผู้ให้ของ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร "จุมภฏ - พันธุ์ทิพย์ อุทยาน" มาจากชื่อเจ้าของเดิมคือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต หรือ เสด็จในกรม (พระราชนัดดาในรัชกาลที่ 5) และชายา คือ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร

ชื่อ "วังตะไคร้" นั้นเป็นชื่อเดิมที่ชาวบ้านแถบนั้นเรียกกันมาเนื่องจากลำห้วยบริเวณนั้นเป็นวังน้ำกว้างมีต้นตะไคร้หางนาคหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นตะไคร้น้ำ" ขึ้นเต็มริมฝั่งห้วย ทั้งสองพระองค์ทรงโปรดปรานธรรมชาติและการท่องเที่ยวตามขุนเขาลำเนาไพร เมื่อได้มาพบวังตะไคร้จึงขอซื้อที่ดินและปลูกตำหนักเพื่อเป็นที่ประทับพักผ่อนส่วนพระองค์และญาติมิตร เสด็จในกรม คือผู้เป็นแรงบันดาลใจของ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ในการสร้างสรรค์และบุกเบิกวังตะไคร้ เพราะทรงทราบดีว่าวังตะไคร้เป็นสถานที่ที่ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร สร้างขึ้นจากความฝันที่มีมาแต่วัยเยาว์

 

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว


และด้วย ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์แด่เสด็จในกรม จึงได้ทุ่มเทเวลากว่า 10 ปี ดำเนินงานอย่างหนักในการวางแผนจัดสถานที่และปรับสภาพพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยต้นอ้อ และหญ้าคาจนกลายมาเป็นสนามหญ้าเขียวชอุ่ม รวมถึงได้นำพันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาปลูกในวังตะไคร้โดยหวังให้เป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์

 

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

 

ด้วยความที่ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ต้องการให้บุคคลอื่นๆ ได้เห็นความงดงามของวังตะไคร้เช่นเดียวกับท่าน จึงให้เปิดวังตะไคร้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 บ้านพักบางหลัง อาทิ บ้านธารทิพย์ บ้านแก่ง บ้านเกาะ บ้านใหญ่ ฯลฯ มีรูปแบบใกล้เคียงกับตำหนักของท่านในที่อื่นๆ ซึ่งมีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยเสน่ห์ของความเป็นบ้านไทยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างประเภทไม้และหินน้ำตกซึ่งเข้ากับสถานที่ตั้งได้เป็นอย่างดี มีหน้าต่างรอบบ้านทำให้อากาศ ภายในบ้านเย็นสบาย การจัดให้มีระเบียงกว้างเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่

 

ย้อนรอยเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม \"วังตะไคร้\" ปี 37 คร่า 21 ชีวิตนักท่องเที่ยว

 

เว็บไซต์ไปด้วยกัน เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังให้ข้อมูลว่า อุทยานวังตะไคร้ มีเนื้อที่ 1,400 ไร่ มีธารน้ำที่ไหลมาจากซอกซอน ผ่านโขดหินน้อยใหญ่ เหมาะในการเล่นน้ำ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของลำธาร 2 ลำธารลำธารหนึ่งชื่อคลองมะเดื่อจากน้ำตกเหวกระถิน กับอีกลำธารหนึ่งชื่อคลองตะเคียน จากน้ำตกแม่ปล้อง ลำธารทั้ง 2 นี้ ไหลมาบรรจบกันเป็นธารเดียว มีแอ่งน้ำขัง เป็นวังน้ำอยู่เป็นตอน ๆ ไหลลงสู่แม่น้ำนครนายกและมีต้นตะไคร้ น้ำตะไคร้หางนาค นับเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ชอบขึ้นอยู่ตามห้วยลำธารทั่วไป เป็นต้นไม้ที่ เหนียวมากมีก้านสีดำและมีดอกสีชมพูน่ารักมาก ภายในอุทยานแห่งนี้จะออกดอกสะพรั่งตัดกับ ท้องฟ้าสีน้ำเงิน ทำให้เกิดทัศนียภาพงดงาม ทุกฤดูกาลโดยเฉพาะในฤดูฝน และเนื่องจากวังตะไคร้นี้เป็นด้านที่รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม จึงทำให้มีฝนตกชุก หุบเขา บริเวณนี้จึงมีพรรณไม้ใหญ่น้อยมากมาย ลำธารน้ำจะมีน้ำเต็มฝั่งไหลเชี่ยวจัด จึงเป็นที่เล่นกีฬาล่องแก่งด้วยแพยาง หรือชูชีพกันอย่างสนุกสนาน