18 ธ.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีมีบุคคลหลายกลุ่ม เช่น "นายวัชระ เพชรทอง" อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นคำร้องให้แพทยสภา ที่เป็นองค์กรวิชาชีพด้านการแพทย์-สาธารณสุข สอบสวนการรักษาพยาบาล "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พักรักษาตัวที่รพ.ตำรวจชั้น 14 เป็นเวลาหกเดือน จนถึงกำหนดการพักโทษ ทำให้ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว
ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา "นพ.อมร ลีลารัศมี" กรรมการแพทยสภาในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจ ที่ตั้งโดยมติที่ประชุมแพทยสภาฯ ได้ทำหนังสือของแพทยสภา ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึง แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 3 หน้ากระดาษ มีใจความโดยสรุปว่า
คณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงเฉพาะกิจตั้งขึ้นตามมติของกรรมการแพทยสภาฯ เมื่อ 10 ต.ค. 2567 ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ พรบ.วิชาชีพเวชกรรมพ.ศ. 2525 เพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าวที่เกิดจาก กรณีมีการย้ายผู้ป่วยจากรพ.ราชทัณฑ์มาที่รพ.ตำรวจ
จึงขอข้อมูลเพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวน อันเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาเรื่องจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ จึงขอให้ท่าน(แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งพยานหลักฐานหรือวัตถุพยานเพื่อประโยชน์การแก่การพิจารณาจริยธรรม ดังนี้
1.คำชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาพยาบาล ของผู้ป่วยชาย "นายทักษิณ ชินวัตร" ทั้งหมดโดยละเอียด
2.ขอทราบ ชื่อ สกุลแพทย์ทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย "นายทักษิณ ชินวัตร"รวมถึงเลขใบประกอบวิชาชีพ
รวมถึงคำชี้แจงของบุคคลในข้อ 2 เกี่ยวกับกระบวนการตรวจ การวินิจฉัย การดูแลรักษาในรายผู้ป่วย "นายทักษิณ ชินวัตร" โดยละเอียด
ที่น่าสนใจ หนังสือดังกล่าวยังระบุอีกว่า เนื่องจาก "นายทักษิณ" เป็นผู้ต้องขังที่ส่งตัวไปรักษาตัวนอกเรือนจำเกินกว่าสามสิบวันและหกสิบวัน -หกสิบวันและหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ตามลำดับ ตามที่กำหนดในข้อ 7 ของกฎกระทรวง(กระทรวงยุติธรรม) การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ที่กำหนดให้ผู้บัญชาการเรือนจำ มีหนังสือขอความเห็นจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษา และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวง(ยุติธรรม)และรัฐมนตรีว่าการกระรทวงยุติธรรม ทราบ (ตามลำดับ) ดังนั้นจึงขอความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ที่ก็คือ การขอความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตอนที่แพทย์ทำรายงานสามครั้ง คือถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์-ปลัดกระทรวงยุติธรรมและรมว.ยุติธรรม ในช่วงครบ 30 วัน 60 วันและ 120 วันตามลำดับ โดยให้ส่งรวมมาให้อนุกรรมการฯทั้งหมด
นอกจากนี้อนุกรรมการสอบสวน ของแพทยสภา ยังขอให้ส่งสำเนาใบส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาต่อ สำเนาเวชระเบียน สำนาบันทึกการผ่าตัด สำเนาบันทึกการให้ยาระงับความรู้สึก สำเนาบันทึกการพยาบาล สำเนารายงานทางการแพทย์ และเอกสารหรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล เช่นภาพถ่ายทางรังสีวินิจฉัย ผลการตรวจทางรังสี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเอกสารใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ ชินวัตร โดยให้ระบุหมายเลขหน้าเอกสาร และให้เจ้าหน้าที่ลงนามรับรองเอกสารทุกหน้าด้วย
“ขอตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ผู้ป่วยถูกส่งต่อการรักษาไปที่รพ.ตำรวจ จนกระทั่งผู้ป่วยถูกจำหน่ายออกจากรพ. ตำรวจ ซึ่งถือว่าเกี่ยวข้องกับการพิจารณาจริยธรรมในครั้งนี้ โดยขอให้ท่านทำคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานที่สนับสนุนคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตามประเด็นข้างต้น โดยให้ส่งมาให้คณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจภายใน วันที่ 15 มกราคม 2568 “ เอกสารสำคัญของแพทยสภาดังกล่าวระบุ