โซเชียลด่ายับ! 2 โจ๋ไม่กลัวบาป คึกคะนอง เต้นลูบหัว "หลวงพ่อโต"

15 เมษายน 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ลงในกลุ่มสาธารณะข่าวถึงชาวรังสิต ชื่อ "เนส เนส" ระบุข้อความว่า 

 

 

 

 

 

"ลูกหลานใครดูด้วยนะครับว่าสมควรหรือเปล่า" 

พร้อมโพสต์คลิปวีดีโอ เด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 11-12 ปี 2 คน เปิดเพลงเต้นลูบหัวรูปหล่อ "สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี" ที่ตั้งอยู่บริเวณเลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ บริเวณสะพานแดงคลอง 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 

 

หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้คนมาคอมเม้นมากมาย เช่น

 

"พ่อแม่มันอยู่ในกลุ่มนี้แหละเชื่อผมดิถ้าเห็นก็มาดูเม้นหน่อย"

"ลูกผมเป็นเด็กดีลูกฉันเป็นเด็กดี"

"บางคนคอมเม้นบาปมากๆ"

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ อาสากู้ชีพเทศบาลนครรังสิต มาอำนวยความสะดวก ที่ประชาชน เข้า-ออก เล่นน้ำสงกรานต์ 

 

 

 

 

 

โดยมีโดมปล่อยน้ำให้ประชาชนที่มาเล่นสงกรานต์เปิดเพลงเต้นอย่างสนุกสนานอย่างเมามัน และมีผู้คนมาเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมากไม่แพ้ที่ไหนๆ

 

ใกล้กันก็ยังมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต และเกจิดัง ตั้งเรียงกันอยู่ด้านหลัง 5 รูป เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระและปะแป้งเพื่อเป็นสิริมงคล ในช่วงเทศกาลในวันสงกรานต์ 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม กลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวงาน เล่นน้ำสงกรานต์ว่า ได้เห็นคลิปวีดีโอที่มีน้องเยาวชนเต้นลูบหัว หลวงพ่อโตหรือไม่ 

 

โดยกลุ่มชาวบ้าน บอกว่า รู้สึกไม่สบายใจ หดหู่เป็นอย่างมากไม่ เพราะไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง บางคนบอกเคยเห็นและเป็นเพื่อนเขาเอง ไม่ได้เรียน แต่เรียนจบแล้ว พักอยู่แถววัดลาดสนุ่น จำหน้าได้ชัดเจน เห็นแล้วก็ไม่น่าทำแบบนี้เลย มันไม่ดี 

 

 

 

จากการสอบถาม นายชูศักดิ์ อายุ 39 ปี บอกว่า หลังจากที่มีคลิปวีดีโอโพสต์ออกไปกำลังจะหาตัวอยู่ว่าใครคนไหน รู้สึกว่าไม่ดีเอามากๆ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี อยากบอกน้องๆที่ทำแบบนี้ มันไม่ดี

ทำแบบนี้มันทำให้เสื่อมเสียศาสนาด้วย ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและเสียภาพลักษณ์ และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง หลวงพ่อที่มาตั้งตรงนี้ก็เอามาตั้งช่วงสงกรานต์ เพื่อรดน้ำขอพร 

 

ด้านนายโสฬส อายุ 39 ปี เล่าว่า ไม่เหมาะสมมากๆ หากประชาชนเห็นก็อยากจะขอโทษที่เป็นแบบนี้ อยากให้น้องๆเล่นและเล่นให้สนุกสนาน และไปเล่นลูบหัวหลวงพ่อ ถ้าเจอก็อยากจะตักเตือน อย่าทำแบบนี้ เพราะทำแล้วมันไม่เหมาะสม