4 กรกฎาคม 2566 อีกความคืบหน้าจากทางด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวัง ในช่วงบ่ายวันนี้ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เรื่อง ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ ซึ่งรัฐบาลไทยได้นำช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับจากประเทศศรีลังกา มาทำการรักษาอาการป่วย ณ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2566
โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งสำนักพระราชวัง ได้แจ้งเรื่องมายังผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ เพื่อนำส่งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาให้กับสำนักพระราชวังต่อไป พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ยังความปลาบปลื้มปีติแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเป็นกำลังใจสำคัญแก่เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการสนองพระราชดำริรักษาช้างพลายศักดิ์สุรินทร์อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป
อัปเดตอาการ "พลายศักดิ์สุรินทร์" "วราวุธ" เผย คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมมากขึ้น ส่วนจะกลับไปศรีลังกาอีกหรือไม่ คงไม่ต้องพูดถึง เพราะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์แล้ว
5 กรกฎาคม 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของ "พลายศักดิ์สุรินทร์" หลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศศรีลังกาว่า ขณะนี้พลายศักดิ์สุรินทร์อารมณ์ดี ส่ายหัวไปมาและมีความคุ้นเคย กลับสภาพรอบด้านมากขึ้น รับประทานอาหาร ทานน้ำ และขับถ่ายเป็นปกติ แค่จะต้องได้ดำเนินการรักษาตรวจสอบภายในอย่างละเอียดมาก
ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคน ที่ได้ติดตามข่าวของ "พลายศักดิ์สุรินทร์" ได้เดินทางกลับมารักษาตัวในประเทศไทยและตอนนี้ เป็นข่าวที่ดีที่สุด และบุญของคนไทย เมื่อวานนี้(4 ก.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับพลายศักดิ์สุรินทร์ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นบุญของพลายศักดิ์สุรินทร์และพสกนิกรชาวไทย ไม่มีองค์พระมหากษัตริย์ที่ให้ความสำคัญกับทุกชีวิตที่อยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะพลายศักดิ์สุรินทร์ที่ไปอยู่ต่างประเทศถึง 22 ปี ซึ่งมีงาสวยและยาวที่สุดในประเทศไทย เกือบประมาณ 2 เมตร เป็นงาที่โค้งและมีสัญลักษณ์ที่สวยงาม
ดีใจที่ได้ "พลายศักดิ์สุรินทร์" กลับมาประเทศไทยได้ และเมื่ออยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์แล้ว กรณีที่ต้องส่งกลับประเทศศรีลังกาหรือไม่ คงไม่ต้องพูดถึง
อย่างไรก็ตาม สำหรับช้างเชือกอื่นๆ ที่ยังคงอยู่ในประเทศศรีลังกา หลังจากที่นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา เดินทางไปประเทศศรีลังกา พบว่ายังอยู่เป็นปกติสุขดี อาจจะมีบาดเจ็บบ้าง แต่อยู่ในวิสัยที่ประเทศศรีลังกาสามารถดูแลได้
ทราบว่ามหาวิทยาลัยในประเทศศรีลังกาหลายมหาวิทยาลัย ได้ติดต่อ กรมอุทยานสัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ผ่านกระทรวงการต่างประเทศว่า แต่ละมหาวิทยาลัยมีศักยภาพในการดูแลช้างได้มากพอสมควร โดยไทยจะประสานกับแต่ละมหาวิทยาลัยในศรีลังกาดูแลช้างที่เหลืออยู่ แต่จะนำช้างไทยกับคืนมาหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ในอนาคต หากมีการบาดเจ็บหรือ ความเป็นอยู่ เหนือศักยภาพที่ประเทศศรีลังกาจะดูแลได้ ประเทศไทยจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ