12 มกราคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568)ฉบับที่ 9 (9/2568)
ในช่วงวันที่ 12-13 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนได้แผ่
ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
จากนั้น เตรียมพร้อมรับฤดูร้อนต่อไป หลายคนสนใจว่าฤดูร้อนปี จะร้อนแรง ละจะแห้งแล้งขนาดไหน น้ำดื่ม น้ำใช้จะเพียงพอ หรือน้ำในเขตชลประทานยังจะสามารถทำการเกษตรเพียงพอไปถึงฤดูฝนไหม และฝนจะพอมีเกิดขึ้นไหม จากนี้เป็นต้นไป
เนื่องจากสถานการณ์ของปรากฎการณ์ใหญ่อย่าง เอนโซ บ่งชี้ว่าในช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. 68 ยังมีโอกาสเป็นลานีญาอ่อนๆ หรือเป็นกลาง จึงมีผลต่อกระแสลมที่พัดปกคลุมซึ่งจะเปลี่ยนเป็นลมใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
ช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. 68 จึงยังพอมีความชื้นอยู่บ้าง ทำให้ยังมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง เป็นระยะๆ แม้ในเดือน มี.ค.-เม.ย.68 จะเป็นช่วงฤดูร้อน (อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยมากที่สุดในช่วงนี้)
แต่ปีนี้คาดว่าจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากมีฝนฟ้าคะนอง และมีความชื้นสูง แต่บางวันอาจจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดได้เป็นช่วงๆ (ไม่ร้อนจัดติดต่อกันเหมือนปีที่แล้ว)
โดยฝนคาดการณ์ให้สูงกว่าค่าปกติ ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. แต่จะต่ำกว่าค่าปกติในเดือน มิ.ย.67 (มีฝนทิ้งช่วงได้) ต้นปีฝนยังพอมี แต่กลางปียังต้องลุ้นและติดตามเป็นระยะๆ
(ข้อมูลนี้ใช้เป็นแนวทางประการตัดสินใจ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลนำเข้าใหม่ เนื่องจากเป็นการพยากรณ์ระยะนาน ค่าความคลาดเคลื่อนสูง)
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคเหนือ
อากาศหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 24-27 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ทางตอนบนของภาค : อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย
ส่วนทางตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร