6 ธันวาคม 2567 จากกรณีสอบติดแต่ชื่อหาย โดยในการประกาศผลสอบครั้งแรก น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม หรือ “ครูเบญ” สอบติดอันดับ 1 พนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน เอกวิทยาศาสตร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว (สพม.)
กระทั่งผ่านไป 3 วัน สพม.สระแก้ว ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ครั้งที่ 2 ปรากฏชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้สอบได้ในลำดับที่ 1 แทน ส่วนชื่อ น.ส.เบญญาภา หายไปจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป กระทั่งเข้าร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงศึกษาธิการ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี น.ส.เบญญาภา
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นำโดยนายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน พบข้อเท็จจริงว่า ความผิดพลาดเกิดจากเจ้าหน้าที่ สพม.สระแก้ว จัดทำประกาศรายชื่อโดยไม่แนบเอกสารประมวลผลคะแนน และไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง ประกอบกับพบข้อสอบผิด จึงมีการตรวจคำตอบใหม่ พบว่า น.ส.เบญญาภา ได้คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ในบางภาควิชา
นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า ไม่พบการทุจริต หรือเรียกรับผลประโยชน์ จากการตรวจสอบลายมือชื่อและร่องรอยการแก้ไขกระดาษคำตอบโดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ โดย น.ส.เบญญาภา ได้ยืนยันว่าเป็นกระดาษคำตอบของตนและไม่ติดใจผลคะแนน
อย่างไรก็ตาม สพฐ. ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการสรรหาและเลือกสรรรายใด มีพฤติการณ์เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใด เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขผลการสรรหาและเลือกสรร อันเป็นการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้ารับการสรรหาหรือเลือกสรรรายหนึ่งรายใด ที่ส่อไปในทางทุจริต
“การประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรผิดพลาด เกิดจากการกระทำด้วยความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่แนบเอกสารประมวลผลคะแนนการสอบ ตอนนี้ สพฐ.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว” นายสิริพงศ์ ระบุ