svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด ตรวจแอลกอฮอล์ พุ่ง 127 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซ้ำตรวจเจอฉี่่ม่วง ตร.แจ้งข้อหาหนัก ด้านแม่ ลั่น ไม่ให้อภัย หลังสูญเสียลูกหลานยอดกตัญญู

2 ธันวาคม 2567 จากกรณี เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.2567) เวลา 12.30 น. ร.ต.อ.ประเชิญ อุ่นแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ รับแจ้งเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ที่ถนนบ้านห้วยจันทร์ – บ้านน้ำมุด หมู่ 4 แยกซำปีกา ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ โดยที่เกิดเหตุพบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน จ.ศรีสะเกษ เสียหลักอยู่ข้างทางไปชนกับต้นยางพารา สภาพรถกระโปรงหน้าพังยับ ชิ้นส่วนรถกระบะกระจายทั่วบริเวณ ส่วนคนขับทราบชื่อภายหลังคือ นายลำพึง อุ่นแก้ว อายุ 50 ปี ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวได้หลบหนีไป ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง-ขาว ทะเบียน จ.ศรีสะเกษ สภาพรถพังยับเยิน และพบร่างผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ทราบชื่อ คือนางสาวภัทรารัตน์ อุ่นแก้ว อายุ 22 ปี และ ด.ช.วรพล อุ่นแก้ว อายุ 6 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ คือ ด.ช.ณัฐพัฒน์ อุ่นแก้ว อายุ 7 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำตัวส่งโรงพยาบาลขุนหาญ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่ารถกระบะและรถจักรยานยนต์ ขับมาในทิศทางเดียวกัน จากนั้นเมื่อถึงทางแยก รถจักรยานยนต์ได้ชะลอรถเพื่อที่จะเลี้ยวขวา แต่ปรากฏว่า รถกระบะได้ขับพุ่งชนรถจักรยานยนต์ จนร่างของทั้ง 3 คน กระเด็น โดยที่ นางสาวภัทรารัตน์  และ ด.ช.วรพล กระเด็นไปอีกฝั่ง ส่วนร่างเด็กชายวรพล นั้น ถูกรถกระบะเหยียบทับร่างติดอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ นายลำพึง คนขับรถกระบะได้อาศัยรถซาเล้งชาวบ้านหลบหนีไป 

ต่อมาผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่โรงพยาบาลขุนหาญ พบกับนายแสงระวี อุ่นแก้ว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ ด.ช.วรพล ที่อยู่ในอาการโศรกเศร้าเสียใจน้ำตาคลอ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นางสาววรารัตน์ กำลังเรียน ปวส. ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยการอาชีพขุนหาญ ด.ช.วรพล กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ส่วน ด.ช.ณัฐพัชร์ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อมาซื้อขนมกิน โดยมีนางสาวภัทรารัตน์ เป็นผู้ขับ ก่อนที่จะกลับไปช่วยตนทำสวนต่อ จนกระทั่งมาทราบเรื่องว่าถูกรถชนเสียชีวิต ตนจึงรีบมาดู และได้พูดคุยกับนายลำพึง คนขับกระบะ ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพเมาสุรา ก่อนที่จะมาเกิดเหตุในครั้งนี้ ซึ่งตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายอย่างเต็มที่ 

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด

จากนั้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ ได้พบกับ นางสมจิตร ชาวบ้านขายแตงโม และเห็นเหตุการณ์ ซึ่งได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ และเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เป็น ผู้หญิง1 คน และ ด.ช. 2 คน กำลังขับรถจักรยานยนต์มาจากซื้อของที่ร้านค้า กำลังจะเลี้ยวขวาเข้าไปตรงจุดรับซื้อยางพารา ซึ่งรถได้เปิดไฟเลี้ยว แต่อยู่ดีๆรถกระบะก็ขับมาจากด้านหลังด้วยความเร็วชนท้ายรถจักรยานยนต์ของทั้ง 3 คน ตอนแรกตนคิดว่ายางรถระเบิดพอหันไปมองเห็นรถชนกันอย่างจัง ตนและลูกจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ น้องผู้หญิง อายุ 22 ปี กับเด็กชาย อายุ 6 ปี เสียชีวิตคาที่ พอชนเสร็จคนขับรถกระบะลงมายืนดูแต่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร สักพักเห็นคนเยอะ คนขับกระบะจึงหายตัวกลับไปบ้าน ก่อนที่ตำรวจตามไปควบคุมตัวที่บ้าน เบื้องต้น ตนรู้จักกับคนขับรถกระบะที่ชนดี  เขาเป็นคนชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และเป็นคนชอบขับรถเร็ว แถวนี้จะรู้พฤติกรรม และรู้จักกันดี 

และเมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถาม นายลำพึง ผู้ขับกระบะคันก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาวกไปวนมา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับประทานอาหาร และตั้งวงดื่มสุราขาวกับเพื่อน โดยจำไม่ได้ว่าดื่มหมดไปกี่ขวด หลังจากทานอาหารเสร็จ ได้ขับรถออกมาเพื่อไปทำธุระ แต่ในขณะที่เกิดเหตุนั้นไม่มีสติ และจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหักที่บริเวณไหล่ขวา และขณะนี้ตนอยู่ในอาการเมามาก จึงไม่สารมารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ 

ทั้งนี้ ภายหลังตำรวจไปควบคุมตัวคนขับรถกระบะคันที่เกิดเหตุ ได้นำตัวมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งผลการตรวจมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงถึง 127 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด อีกทั้งได้ทำการตรวจหาสารเสพติด พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย โดยในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถในขณะเมาสุรา และเป็นผู้ขับขี่เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย 

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด

สำหรับความคืบหน้า ช่วงเช้าวันนี้ ( 2 ธ.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านผู้เสียชีวิต ที่บ้านจะเนียว ตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศที่บ้านได้มีการนำโลงศพของทั้ง 3 คน มีตั้งเรียงกัน และมีการนำสิ่งของเครื่องใช่ของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย มาวางไว้ที่หน้าโลงศพ อาทิ ตุ๊กตา เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด

โดย นางสดใส ชัยนา อายุ 53 ปี แม่ของ นางสาวภัทรารัตน์ หรือ "น้องใหม่" ผู้เสียชีวิต และ มีศักดิ์เป็นย่าของหลานชายทั้ง 2 คน ที่เสียชีวิตด้วย เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน คนที่เสียชีวิต ชื่อ นางสาวภัทรารัตน์ ชื่อเล่น(น้องใหม่) น้องใหม่ เป็นคนที่ 3 (คนสุดท้อง) น้องใหม่มีพี่ชายอีก 2 คน ซึ่งเป็นพ่อของเด็กทั้งสองที่เสียชีวิต น้องใหม่มีศักดิ์เป็นอาของหลานทั้ง 2 ที่เสียชีวิตด้วยกันจากอุบัติเหตุครั้งนี้ น้องใหม่เป็นคนนิสัยดีพูดน้อย ช่วยเหลือแม่ทำงานได้ทุกอย่าง  น้องใหม่เรียนอยู่ชั้น ปวส.ปี 2 น้องใหม่เป็นคนเรียนเก่ง และตั้งใจเรียน น้องใหม่ตั้งใจไว้ว่าในอนาคตน้องใหม่เรียนจบ ก็จะได้ไปทำงานหาเงิน เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระช่วยพ่อแม่ เพราะฐานะครอบครัวยากจน 

ตนไม่ขอให้อภัยคนที่ขับรถชนลูกและหลานตนตาย และฝากอยากบอกคนที่ขับรถชนลูกหลานตนให้มีจิตสำนึกบ้าง ตอนนี้หัวใจตนแทบแตกสลายเพราะสูญเสียคนในครอบครัวไปถึง 3 คน เพราะทั้ง 3 คนเป็นครอบครัวเดียวกัน และใช้ชีวิตมาด้วยกันอย่างอบอุ่น

ลุงวัย 50 เมา ซิ่งกระบะชน 3 พี่น้อง ดับสลด

ด้าน ร.ต.อ.ประเชิญ อุ่นแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้ต้องหาหายเมาแล้ว และรู้สึกตัวดีสามารถพูดคุยรู้เรื่อง ญาติได้เข้ามาเยี่ยมนำอาหารมาส่งให้รับประทาน ทางตำรวจยังไม่ได้นำผู้ต้องหามาสอบสวนในวันนี้ เนื่องจากร้อยเวรติดภารกิจศาล แต่จะนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนในวันพรุ่งนี้พร้อมกับฝากขังที่ศาลกันทรลักษ์ ส่วนเรื่องที่จะนำผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนนั้น จะต้องรอสอบถามความประสงค์ของผู้ต้องหาว่าจะไปชี้จุดเกิดเหตุหรือไม่