จากกรณีเพจเฟสบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6" ได้โพสต์เรื่องราวของชายหนุ่มรายหนึ่ง แชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย
หลังจอดรถที่ศูนย์การค้าฯแห่งหนึ่งในย่านบางใหญ่ แล้วถูกคนร้าย ค้นรถโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย และอาจมีทีมงานช่วยระวังหน้า-หลัง ลักษณะเป็นขบวนการ
2 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายอรรณพ อายุ 30 ปี อาชีพ เจ้าของรถคันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย.67 เวลาประมาณ 18.30 น. ตนขับรถมาทานข้าวกับคุณแม่ในศูนย์การค้าฯแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ซึ่งรถยนต์ Tesla ของตนเป็นระบบล็อคอัตโนมัติ
ระหว่างนั้นมีคนเดินสวนทางกับตนออกมาจากศูนย์การค้าฯ ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรกับรถตน เพราะไม่ได้สังเกตและไม่ทันระวังตัว เท่าที่ดูจากกล้องในรถเห็นคนร้ายเดินอ้อมตัวรถและกดเปิดประตูด้านหลังเพื่อไม่ให้ประตูรถล็อค และเดินหายไป 4-5 นาที ก่อนจะเดินกลับมาแล้วเปิดประตูด้านหลังฝั่งคนขับ เข้าไปค้นรถของตน ซึ่งในนั้นมี MacBook ราคา 4 หมื่นกว่าบาท วางอยู่ 1 เครื่อง
คาดว่าคนร้ายคงไม่ทันเห็น จึงย้ายมาค้นคอนโซลตรงกลางรถ คาดว่าคงมีของมีค่าแต่ไม่มี จากนั้นคนร้ายได้เผลอไปปิดประตูรถทำให้ไม่สามารถเข้าไปในรถได้ และรีบ ทำให้ขวดน้ำดื่มที่ถือมาด้วยเผลอวางไว้ที่เบาะของคนขับ จากนั้นเดินหายไปจากตัวรถ
หากตนไม่เห็นขวดน้ำดื่มที่คนร้ายว่าทิ้งไว้ตนก็ไม่สามารถรู้เลยว่ารถตนกำลังถูกโจรกรรม จากนั้นตนจึงแจ้งให้กับทางรปภ.ของศูนย์การค้าฯทราบ และลองดูวงจรปิด ว่าคนร้ายรายนี้ได้ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับรถลูกค้าคันอื่นหรือไม่ เพราะดูจากลักษณะแล้วน่าจะทำเป็นกระบวนการ
คนร้ายมีการถือโทรศัพท์มือถือและพูดคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา คาดว่าคงมีคนช่วยดูต้นทางให้และร่วมก่อเหตุด้วย อาจจะไม่ใช่รถของตนคันเดียวที่โดน ตนจึงอยากเตือนภัยให้กับทางศูนย์การค้าฯทราบด้วยว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
จากที่ตนดูในกล้องของรถจับภาพคนร้ายลักษณะเป็นวัยรุ่น สวมหมวก และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ดูตั้งใจมาก่อเหตุ ใส่เสื้อผ้ามียี่ห้อและแต่งตัวดี น่าจะมีทักษะความรู้กับตัวรถ เพราะรถยนต์รุ่นใหม่จะมีระบบ Walk Away Lock รถจะล็อคให้อัตโนมัติเมื่อเดินห่างจากตัวรถ เดินเข้าไปใกล้หรือจับตัวรถก็จะเปิดให้อัตโนมัติตนดูว่าคนร้ายน่าจะมีความเชี่ยวชาญ หากเจ้าของรถไม่ทันระวังตัวก็จะทำให้เป็นช่องว่างที่คนร้ายสามารถมาก่อเหตุได้ ตนคิดว่าคนร้ายเลือกจากยี่ห้อรถ เลือกประเภทรถในการก่อเหตุ
จึงได้ออกมาโพสต์คลิปเตือนภัยกับทุกคน อยากให้ทุกคนระวังตัวมากขึ้น สมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาเพิ่มมากขึ้น คนร้ายก็พัฒนาทักษะในการก่อเหตุมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน โชคดีที่ตนได้ที่จอดที่ติดกับทางเข้า-ออก และคนพลุกพล่านมาก ทำให้คนร้ายต้องรีบใช้เวลาในการก่อเหตุ ทำให้ระแวงและไม่สามารถได้ทรัพย์สินมีค่าของตนไป
หลังจากที่ตนได้โพสต์เตือนภัยตามโซเชียลต่างๆก็มีหลายคอมเม้นต์เข้ามาพูดคุยว่าหลายๆคนไม่ทันได้ระวังตัวกับเรื่องนี้ ตนก็คิดไปไกลว่าหากคนร้ายยังอยู่ในรถและจี้ตน อาจจะทำให้สูญเสียมากกว่านี้
จึงอยากออกมาเตือนภัยเพื่อให้ทุกคนระมัดระวังตัวมากขึ้น และเรื่องนี่ตนอยากทราบว่าหากทรัพย์สินของตนไม่ได้หายไป จะสามารถแจ้งความเอาผิดกับคนร้ายรายนี้ได้หรือไม่ หากเอาผิดได้ตนก็จะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินขั้นตอนตามกฏหมายต่อไป เพราะไม่อยากให้มีเหยื่อรายต่อไปอีก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามคดีความกับทางด้าน พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ เปิดเผยว่า แม้ว่าผู้ร้องเรียนจะไม่ได้สูญเสียทรัพย์สิน แต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในตัวรถยนต์เบื้องต้นถือว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจอยากแนะนำให้ผู้ร้องเรียนเดินทางมายัง สภ.บางใหญ่ เพื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวน
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากจากหลักฐานที่มีนั้นแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะกระทำการลักทรัพย์
ดูคลิป