7 พฤศจิกายน 2567 ที่ จ.อุดรธานี น.ส.นิภารัตน์ หรือนินิว นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาว จ.หนองคาย อดีตภรรยานักร้อง และนักแต่งเพลง "เพชร สหรัฐ" นายธีรศักดิ์ ทองทรวง พร้อมด้วยทนายความ และนายภานุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ร่วมแถลงข่าว กรณีนักร้องดังปลอมลายมือชื่อ น.ส.นิภารัตน์ อดีตภรรยา ค้ำประกันเงินกู้ให้พี่ชาย สร้างโรงงานน้ำปลาร้า วงเงิน 80 ล้านบาท จำนวน 4 สัญญา ในวันที่ทั้งสองจดทะเบียนหย่ากัน โดยที่อดีตภรรยาไม่รู้มาก่อน
จนกระทั่งธนาคารได้มีหนังสือทวงเงิน เนื่องจากผิดนัดจ่ายเงินกู้ไปหาอดีตภรรยา ทำให้รู้ว่าโดนอดีตผัวนักร้อง ปลอมลายเซ็นและนำเอกสารทางราชการ ไปใช้ค้ำประกันเงินกู้ เมื่อติดต่อสอบถามผู้จัดการส่วนตัวกลับนิ่งเฉย จึงได้ติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่ของธนาคาร ก่อนจะมีหนังสือถอดชื่อจากการค้ำประกันจากธนาคารส่งมาที่บ้าน โดยมีบริษัทดาวตลกดังเป็นผู้ค้ำประกันแทน
แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะอดีตภรรยาไม่สามารถกู้เงินจากธนาคาร เพื่อขยายกิจการ และกู้เงินมาหมุนเวียนธุรกิจได้ แถมยังโดนอดีตสามีคุกคาม และธนาคารขู่ฟ้องถ้าทำให้ชื่อเสียหาย ส่วนความเสียหายของอดีตภรรยากลับไม่ได้รับการเยียวยา จึงให้ทนายฟ้องค่าเสียหาย 20 ล้านบาท และดำเนินคดีอาญากับอดีตสามีนักร้องกับพวก ฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม
นินิว เล่าว่า ครอบครัวตนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บ้านจัดสรร และโรงงานน้ำปลาร้า รู้จักและแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับ เพชร สหรัฐ เมื่อปี 2561 - 2565 รวมเวลา 5 ปี ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แรกๆ ก็จะได้รับการเอาใจใส่ดี และมักจะมีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ที่โรงงาน ตนในฐานะภรรยาก็ได้ชดใช้หนี้ให้รวมประมาณ 20 ล้านบาท แต่หลังจากตนชดใช้หนี้หมด สามีก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ตนและสามีนักร้องได้ตกลงแยกทางกัน เมื่อเดือนมีนาคม 2566 แต่อดีตสามีเยื้อเวลาจดทะเบียนหย่าเป็นวันที่ 18 เมษายน 2566 และได้หย่าจริงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่พี่ชายนักร้อง ไปกู้เงินแบงก์มาลงทุนเปิดโรงงานน้ำปลาร้า ที่ จ.หนองคาย
น.ส.นินิว เล่าต่อว่า วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ตนได้รับหนังสือทวงเงินจากธนาคารสาขา จ.สกลนคร เนื่องจากผู้กู้ผิดนัดจ่ายเงินกู้วงเงิน 7 ล้านกว่าบาท ตนซึ่งอยู่ในฐานะเจ้าของบริษัทจำกัดแม่อรุณ ฟู้ดส์ เป็นผู้เซ็นค้ำประกันต้องรับผิดชอบ ทำให้ตนรู้ว่าอดีตสามีนักร้อง ยินยอมให้คู่สมรสค้ำประกันเงินกู้ โดยการปลอมลายเซ็นในการค้ำประกันเงินกู้ ให้กับพี่ชายตัวเอง (นายเดช ขามรัตน์) ในนามบริษัทวงเงิน 80 ล้านบาท 4 สัญญา 8 ล้าน 7 ล้าน 25 ล้าน และ 40 ล้าน
อดีตภรรยานักร้องดัง เล่าต่อไปว่า ตนจึงส่งข้อความทางไลน์ สอบถามไปหาผู้จัดการส่วนตัวของอดีตสามี ผู้จัดการเปิดอ่านแต่ไม่ตอบกลับ ตนได้เดินทางไปพบผู้จัดการและผู้การธนาคาร ทั้งสองไม่เคยเห็นหน้าตน จึงได้เขียนคำร้องขอดูสัญญากู้ ผ่านไป 1 สัปดาห์ ธนาคารได้ส่งสัญญากู้ทั้ง 4 ฉบับ มาให้ดูก็พบว่า ลายเซ็นของตน เป็นลายเซ็นปลอม จากนั้นตนได้ไปร้องสื่อ จากนั้น 2 สัปดาห์ต่อมา ธนาคารได้ส่งหนังสือปลดตนจากผู้ค้ำประกันเงินกู้ โดยมี 2 บริษัทมาค้ำประกันแทนบริษัทตน
น.ส.นินิว เล่าต่อไปว่า หลังได้รับหนังสือสัญญาเงินกู้ ก็ได้ปรึกษาทนายความ เพราะตนได้รับผลกระทบทางธุรกิจ และสภาพจิตใจ ไม่สามารถไปขยายวงเงินกู้ได้ในตอนนี้ จึงอยากให้อดีตสามีออกมารับผิดชอบในส่วนที่ทำไป ยืนยันว่าตัวไม่ได้เซ็น อยากให้ออกมาอธิบายรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นในขั้นตอนไหน เวลาใดเพราะตนยินดีจะให้ข้อมูลว่า ตนอยู่ที่ไหน ณ วันที่ทำสัญญากัน
น.ส.นินิว เล่าต่ออีกว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากอดีตสามี บทเรียนครั้งนี้แพงมาก ธนาคารมีการแจ้งว่า จะมีการฟ้องด้วย เพราะแจ้งชื่อธนาคารทำให้ธนาคารเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ ตอนที่รักกันก็เกิดจากความเชื่อใจ ความไว้ใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่ไปกันไม่ได้แล้ว ก็อยากให้ผู้หญิงมีสติ และอยากให้รักตัวเองมาก เพราะวันที่ไม่ได้รักกัน ตัวเราเองจะถูกทำร้าย ตอนนี้มีความกังวล และสภาพจิตใจแย่มากๆ
ด้าน นายภานุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ตั้งข้อสงสัยสิ่งผิดปกติว่า เมื่อสองสัปดาห์ก่อน คุณนินิว เคยมีการร้องสื่อ เมื่อเจ้าหน้าที่แบงก์รู้ว่า คุณนินิวมาร้องสื่อ ได้มีเอกสารส่งมา 4 ฉบับ ระบุการปลดภาระหนี้จากผู้ค้ำประกันออกทั้ง 4 วงเงิน จึงเป็นข้อสงสัย 1.โดยปกติการจะเซ็นเงินกู้ในวงเงินเกือบ 100 ล้าน ผู้กู้และผู้ค้ำควรจะต้องเซ็นต่อหน้าเจ้าหน้าที่หรือไม่ ซึ่งคุณนินิวยืนยันว่าไม่ได้เซ็นต่อหน้า และเปรียบเทียบลายเซ็นปลอมกับลายเซ็นจริง ที่คุณนินิวทำธุรกรรมกับแบงก์ ก็มีความแตกต่างกัน
ส่วน นายธีรศักดิ์ ทองทรวง ทนายความ เปิดเผยว่า ได้มีการยื่นฟ้องทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา ที่ จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ส่วนการฟ้องอาญาเรื่องร่วมกันปลอมลายมือชื่อ ปรากฏลายมือชื่อบนสัญญาการค้ำประกันเงินกู้ 4 สัญญา วงเงิน 80 ล้านบาท คุณนินิวยืนยันว่า ไม่ได้ลายมือตัวเอง ไม่เคยพบเจอกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก่อนที่จะมีการทำสัญญา จึงมอบหมายให้ทนายทำการฟ้องจำเลยทั้งหมด 5 คน ที่ร่วมกัน เป็นทั้งบริษัทและบุคคลธรรมดา รวมทั้งอดีตสามี
ส่วนคดีแพ่ง ฟ้องทั้งธนาคาร และตัวบุคคลที่มีลายมือชื่อเกี่ยวข้อง ที่ปรากฏตามสัญญา เพราะสัญญาเมื่อมีคนค้ำประกัน ก็มักจะมีพยาน ลงลายมือชื่อรับรองว่า “ในฐานะคู่สมรส” เท่ากับบุคคลเหล่านี้รู้เห็นว่า ลายมือชื่อที่ปรากฏมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท เหตุที่จำเป็นต้องเรียกค่าเสียหาย เพราะคุณนินิวได้รับความเสียหายในการทำธุรกิจต่างๆ ศาลจะพิจารณาในวันที่ 23 มกราคม 2568”
ผู้สื่อข่าวได้ถาม น.ส.นินิวว่า หากมีรายการติดต่อให้ไปออกรายการทางทีวีพร้อมกับอดีตสามี เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมจะไปหรือไม่ ซึ่ง น.ส.นินิว ตอบอย่างมั่นใจว่า กล้าและพร้อมไปออกทุกรายการ