จากกรณีเพจ "คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี" โพสต์ข้อความ พร้อมภาพประกอบพระปลัดรูปหนึ่ง ที่มีตำแหน่งเป็นถึงรองเจ้าอาวาส วัดดังของจังหวัดมหาสารคาม โดยข้อความระบุว่า "พระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ซุกเลี้ยงอยู่หรู ขอเงินได้เงิน ขอรถได้รถ โอนแล้วแถมเงินสดใจป๋าสุดๆ" พร้อมระบุชื่อ พระปลัดทินพล ชยาภิภู รองเจ้าอาวาสวัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม ประชาชนและคณะศรัทธา ที่เห็นถึงการกระทำของรองเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว รู้สึกถึงความไม่สบายใจต่อพฤติกรรมชู้สาวระหว่างพระปลัดทินพล กับสีกา มีภาพออกตามสื่อ social เกรงว่าจะทำให้ทางวัดป่าวังน้ำเย็นเสียหาย จึงอยากให้พระผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจ ช่วยตรวจสอบถึงพฤติกรรมความเหมาะสม เกรงว่าจะเสียถึงพระอาจารย์สุริยันต์
นอกจากนั้นศรัทธาหลายกลุ่มเห็นถึงความไม่โปร่งใส ถึงการเปิดจองวัตถุมงคลต่างๆว่าถูกต้องหรือไม่ มีการทุจริตเงินทอนหรือไม่ จึงอยากให้มีการตรวจสอบค้นหาความจริง สีกาจะโพสต์ใน instragam ปัจจุบันตั้ง private เรียบร้อย ชาวบ้านรู้ พ่อแม่รับรู้ คนในหมู่บ้านรู้ อื้อฉาวมานานแล้วค่ะ อย่าอ้างหลักฐานปลอมนะคะ เพราะสีกาแสดงตัวมาตลอดค่ะ พร้อมกับติดแฮชแทค #วัดป่าวังน้ำเย็น #รองเจ้าอาวาส
ทั้งนี้ ภายหลังโพสต์ดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไป ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่วัดพุทธวนาราม หรือ "วัดป่าวังน้ำเย็น" โดยพบว่าภายในวัดยังคงมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้องค์ท้าวเวสสุวรรณ และสักการะองค์เจดีย์ศรีมหาสารคาม กันอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้า วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นายสมพร จันอุด ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดมหาสารคาม ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า ภายหลังทราบเรื่อง ก็ได้ลงพื้นที่มายังวัดที่พระที่ปรากฏในข่าวสังกัดอยู่ ซึ่งอยู่ในภายเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยทางสำนักพุทธฯ ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นแจ้งให้กับทางคณะสงฆ์ต้นสังกัดของพระรูปดังกล่าวได้ทราบถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น โดยได้ตามกระแสข่าวตั้งแต่เช้า ที่ทราบมาจาก Social Media
เบื้องต้น ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เป็นกระแสข่าวนั้นเป็นใคร เป็นพระวัดไหน จึงมาปฏิบัติตามหน้าที่ แจ้งเจ้าคณะปกครองทราบ และดำเนินการตามพระธรรมวินัยต่อไป ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะปกครองในปัจจุบัน และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาให้ได้มีโอกาสได้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ท่ามกลางคณะสงฆ์ ทางคณะสงฆ์จะได้รวบรวมข้อมูล พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้ว ทางคณะสงฆ์ก็จะได้แจ้งกลับมาให้ทางสำนักพุทธฯ ทราบต่อไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม หรือ "วัดป่าวังน้ำเย็น" โดยทางพระอาจารย์สุริยันต์ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ทางวัดป่าวังน้ำเย็นไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงก็คือ ทางพระรูปนั้นเคยเป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็นจริง แต่ได้ลาออกไปแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วพระรูปนี้ไม่ได้จำวัดอยู่ที่วัดป่าวังน้ำเย็น ไปจำวัดอยู่อีกวัดหนึ่ง
ส่วนคนที่เอาไปพูด ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ทำให้วัดวาเสียหาย พูดแต่เรื่องที่ไม่ดี ทำไมถึงไม่พูดเรื่องดี ๆ ตอนรู้ข่าวหลวงพ่อก็เฉย ๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้ตกใจ เพราะพระรูปนั้นลาออกไปแล้ว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทางวัดแม้แต่นิดเดียว แต่คนเอาไปพูด เอาไปพูดอีกอย่าง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไปห้ามใครไม่ได้ มันเป็นเรื่องของเขา เราได้ฟังแต่หู ดูแต่ตา ซึ่งพอเวลามีงานพระรูปนี้ก็มาช่วยงานตามปกติ เรื่องที่เป็นข่าวก็เป็นเรื่องส่วนตัว จะมาเหมารวมว่าวัดดังได้ กฐิน 91 ล้าน แล้วมาทำอย่างนั้นอย่างนี้
หลวงพ่อก็อยากฝากไว้ว่ามันเป็นภัยศาสนา เป็นภัยต่อวัดวาอาราม มันไม่ดี อย่าไปหาพูด ซึ่งเรื่องที่ออกมาก็ต้องไปพิสูจน์ว่ามันจริงหรือเท็จ ก็ต้องว่ากันไป ตัวหลวงพ่อก็ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อเป็นแค่พระลูกวัด อย่าเป็นคนตื่นข่าว ต้องฟังหูไว้หู ยืนยันว่าทางพระรูปนั้นกับทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เขาลาออกจากตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็นไปแล้ว
ขณะที่ พระรูปหนึ่ง(สงวนนาม) ที่รู้จักกับพระปลัดทินพล เล่าว่า พระทินพลเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถ และทำงานให้ทั้งวัดมหาชัยพระอารามหลวงและวัดพุทธวนาราม(วัดป่าวังน้ำเย็น)มาหลายปี ตลอดจนอาสาทำงานตามที่เจ้าคณะผู้ปกครองได้สั่งการอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นพระที่ขยันและมีความรู้ความเข้าใจในพิธีการต่าง ๆ ดี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องประพฤติตนเสื่อมเสียใด ๆ และไม่ทราบว่าขณะนี้พระที่ทินพล ไปไหนเพราะไม่ได้เจอกัน มาสักพักใหญ่แล้ว