"เจ๊อ้อย" น.ส.จตุพร เศรษฐีนีคนไทย ที่ใช้ชีวิตที่ประเทศฝรั่งเศส แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ฉ้อโกงเงินไปกว่า 71 ล้านบาท จนเป็นข่าวดังทั่วประเทศ
5 พฤศจิกายน 2567 ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราม "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่ "เจ๊อ้อย" แจ้งความโกงเงินไปกว่า 71 ล้านบาท
โดย ทนายตั้ม ว่า หากทางตำรวจต้องการให้ตนมาให้ข้อมูล ตนรอมาตั้งนานแล้ว ที่ผ่านมาอยากให้ฝ่ายเจ๊อ้อยให้การให้เต็มที่ ตนเคยทำหนังสือมาครั้งหนึ่งตั้งแต่คดีโอนมาที่นี่ใหม่ๆ ซึ่งตนบอกว่าขอให้สอบผู้กล่าวหาอย่างละเอียดกับพยานโดยแยกกัน ไม่ได้อยากให้มีทนายความด้วย
เรื่องเงิน 39 ล้าน พี่อ้อยคุยกับโปรแกรมเมอร์มาเป็นปีแล้ว ไม่แน่ใจว่าเคยโอนแล้วทางฝรั่งเศสไม่โอนให้หรือไม่ พี่อ้อยมาบอกว่าต้องการจ้างเฉิน คุน นักแสดงชาวจีนชื่อดังมาประเทศไทย โดยฝั่งดาราต้องการให้โอนเป็นบิทคอยน์ ซึ่งผมโอนไม่เป็น
จึงให้น้อง “ชื่อนุ” โอนให้ ครั้งแรกโอนไปแล้ว ดาราก็ยังไม่มา บอกให้โอนรอบ 2 ผมจึงเอะใจว่าเป็นสแกมเมอร์หรือไม่ จึงให้น้องโอนไปรอบ 2 จึงเริ่มสืบว่าดาราจีน "เฉิน คุน" ที่พี่อ้อยติดต่อเป็นตัวจริงหรือไม่ พี่อ้อยบอกว่าไปกดไลก์ในไอจี แล้วเขาก็ทักแชตมาบอกเป็นดาราจีนคนดังกล่าว
ซึ่งตนพยายามเช็กกับทางจีน ผมก็โทรไปถามคนที่เขารู้ ซึ่งเขาบอกว่า ดาราจีนไม่มีการคุยกับเอฟซีแบบนี้ ผมก็ทำทุกอย่างให้พี่อ้อยรู้ความจริงว่ามันเป็นสแกมเมอร์ แต่พี่อ้อยก็ยังไม่เชื่อ เลยมีการโอนอีก 5 ล้าน แต่ผมไม่อยากยุ่งแล้ว เพราะเขาพูดว่ามันเป็นเงินของพี่ โอนเงินให้ใครก็เป็นเงินพี่ ผมเลยพูดไม่ถูก เรื่องนี้ผมเป็นคนบอกพี่อ้อยเองว่าต้องไปแจ้งความ เรื่องทั้งหมดมีแค่นี้ ผมมีหลักฐานอ้างอิงได้ทั้งหมด
ความจริงมีอยู่นิดเดียว ไม่กังวล พร้อมให้ข้อมูลตำรวจ ผมทำคดีฉ้อโกงมาเยอะ ฉ้อโกงเป็น 10 คดี ก็ยังไม่ใช่ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ กรณีนี้ทำใบส่งมอบงาน เขาตกลง OK ทุกอย่าง จะเป็นการฉ้อโกงได้อย่างไร ทุกโครงการที่ทำ ผมส่งมอบงานทั้งหมด จะเป็นฉ้อโกงได้อย่างไร ตอนแรกรัก ให้ทำหมดทุกโครงการ พอเลิกรักก็ทำแบบนี้
เมื่อมีข่าวออกมาใครจะเชื่อว่าเขาโอนเงินให้ 71 ล้าน เขามีเงินเป็นหมื่นล้าน กับเงิน 71 ล้าน เขาพาครู พานร.ไปเที่ยวต่างประเทศรอบเดียวหมดหลายล้าน ปีหนึ่งไปหลายครั้ง เหมือนเอาเงินดอกเบี้ยมาดูแลคนใกล้ตัว
จริงๆ อยากรอหมายเรียกจากตำรวจ ซึ่งมีความพร้อมมาก และรอนานมากแล้วด้วย แต่ก็ยังไม่มีหมายเรียกส่งมา กระทั่งพบว่ามีตำรวจกองปราบฯ ประมาณ 6 นาย ไปเฝ้าอยู่ในละแวกบ้าน จึงเกิดความไม่สบาย ตัดสินใจเข้ามาพบเจ้าพนักงาน ตอนนี้มีตัวแปรเยอะ ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่อ้อย และไม่อยากทำให้พี่อ้อยหนักใจ
ทั้งนี้ขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจนิดหนึ่ง การที่ไปเอาตัวพยานไปโดยที่ไม่มีหมาย ที่จริงถ้าไปอย่างถูกต้อง เอาหมายไป เขาก็ยินยอมไปทุกคน หมายมาที่ตน ตนก็ยินยอม หรือว่าพยานที่อ้างเป็นลูกน้องเก่าของตน แต่นี่คุณเล่นเอาตำรวจ 2-3 คนไป
หลังเข้าพนักงานสอบสวนประมาณ 10-15 นาที ทนายตั้มปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์อีก บอกับกสื่อไม่ให้ตามมาทำข่าวแล้ว เพราะพูดไปเยอะแล้ว เบื้องต้นได้นัดวันกับตำรวจแล้ว
"เจ๊อ้อย" เข้าให้ปากคำตำรวจเป็นวันที่ 4 เชื่อทนายตั้มเก็บตัวเตรียมสู้คดี
ขณะเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) "เจ๊อ้อย" นางจตุพร พร้อมด้วย นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ. สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่แจ้งความเอาผิด "ทนายตั้ม" หลอกลวงเงิน เป็นวันที่ 4
โดย นายสมชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ๊อ้อยให้ปากคำตำรวจไปทุกประเด็นแล้ว แต่วันนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมลงไปในรายละเอียดเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากขึ้น ส่วนไหนที่ยังตกหล่นอยู่ก็จะส่งต่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นปมเงิน 71 ล้าน ทั้งในส่วนของพฤติการณ์และเส้นทางการเงิน
สำหรับภาพรวมสอบปากคำไปแล้ว 80% ที่เหลืออีก 20% ซึ่งคาดว่าหากให้ปากคำเสร็จสิ้นภายในวันนี้ ก็น่าจะมีความชัดเจนเรื่องการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนจะเป็นใครบ้าง จำนวนกี่คน และในข้อหาใดบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนจะพิจารณา
เพราะปมเงินที่แจ้งความมีหลายยอด ทั้งเงิน 71 ล้านบาทเพื่อนำไปลงทุนธุรกิจลอตเตอรีออนไลน์ , ค่าจ้างศิลปินชาวจีนมาแสดงในไทย 39 ล้านบาท
แต่กลับไม่มีการว่าจ้างเกิดขึ้นจริง ซึ่งเส้นเงินนี้เชื่อมโยงกับ ส. ด้วย , ค่าออกแบบสร้างโรงแรม 9 ล้านบาท , ค่ารถเบนซ์ 13 ล้านบาท ,และค่าออกแบบบ้านสามีของเจ๊อ้อย 3 ล้านบาท ซึ่งแต่ละยอดต่างกรรมกัน ก็อาจมีการแจ้งข้อหาแตกต่างกันได้ตามพฤติกรรมการกระทำผิด
ทั้งนี้จากที่พูดคุยกับเจ๊อ้อย ก็ยืนยันว่าเจ้าตัวไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัย และเชื่อมั่นในตำรวจ และยืนยันว่าเจ๊อ้อยไม่เคยบอกทนายตั้มว่าเป็นการให้โดยเสน่หาแน่นอน ส่วนด้านทนายตั้ม ส่วนตัวเชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย แต่ที่ยังเก็บตัวเงียบหลายวัน ก็อาจจะกำลังเตรียมตัวต่อสู้คดีอยู่