svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

ปธ.มูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ แจงดราม่า "การดูแลช้าง-การฝังกลบ"

"แสงเดือน" ประธานอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม แจงดราม่า "การดูแลช้าง-การฝังกลบ" ยืนยันเลี้ยงดูช้างด้วยความรัก เผยยังฝันร้ายแต่ต้องเดินหน้าต่อ เตรียมวางแผนย้ายศูนย์ฯ หวั่นน้ำท่วมซ้ำ พร้อมนำคำวิพากษ์วิจารณ์ไปแก้ไข ส่วนไหนที่ไม่เป็นความจริงก็อโหสิกรรมให้

จากเหตุสะเทือนใจผู้คนกรณี "พังฟ้าใส-พังพลอยทอง" ช้างของศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกพบว่าล้ม (ตาย) หลังจากถูกน้ำป่าพัดถล่มศูนย์บริบาลช้าง และถูกน้ำป่าพัดหายไป ก่อนจะมีการพบร่างในพื้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งริมแม่น้ำแม่แตง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

6 ตุลาคม 2567 นางแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง แม่แตง-เชียงใหม่ และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงช้างมาแบบนี้ตั้งแต่ตัวแรกช้างทุกเชือกที่ทางเราช่วยไว้เป็นช้างถูกทารุณกรรมอยู่กับล่ามโซ่และถูกบังคับใช้ตะขอมาทั้งชีวิต

พอช้างมาอยู่กับเรา เรารู้เลยว่าปากเกือบทั้งหมดมีสภาพที่สภาพจิตใจย่ำแย่ เราก็อยากจะเยียวยาเขาด้วยความรักความเมตตา  การเลี้ยงดูเราจะไม่บังคับเขาอีกต่อไป เป็นสิ่งที่เราทำมา 20 กว่าปี ซึ่งในที่อำเภอแม่แตงช้างสุขภาพดีและมีความสุขทุกตัว

นางแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้าง แม่แตง-เชียงใหม่ และประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม
นางแสงเดือน กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นคนที่บอกว่า ทำไมปางอื่น ๆไม่ท่วมเหมือนเท่าเราก็อยากจะให้มาดูสภาพพื้นที่ของเรา ตนเจ็บปวดมากจากความสูญเสียมันเกินเยียวยา เกินจะรับได้ แต่สิ่งที่เขาว่ามาว่าเราหากเป็นความสุขของเขา ตนขอบอกว่าไม่เป็นไร แต่ตนก็อยากจะให้เห็นใจคนอื่นบ้าง เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

มีคนโจมตีเรามาตลอด 20 ปี  เรื่องของโซ่และตะขอมีการนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภาเพื่อเล่นงานตนว่าเป็นกลุ่มสุดโต่งที่พยายามจะพยายามทำลายวัฒนธรรมไทย จนกระทั่งมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาเล่นงานตนหลายรูปแบบ จนกระทั่งตนทนไม่ได้ก็นำเรื่องเข้าสู่ศาลและศาลได้สั่งให้ยกเลิกกลุ่มนั้น

เรื่องต่าง ๆที่ผ่านมาตนไม่เคยดราม่า  เรายืนยันคำเดิมว่าเราจะเลี้ยงช้างแบบนี้ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

นางแสงเดือน กล่าวอีกว่า ดราม่าที่เกิดขึ้น สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์มาสิ่งไหนที่เราแก้ไขได้ก็จะแก้ไข ในส่วนไหนที่ไม่เป็นความจริงก็อโหสิกรรมให้ อยากขอให้ว่ารู้จักเมตตา ใครที่ไม่เคยสูญเสียจะไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันเจ็บปวดขนาดไหน การที่ตัวเองเห็นสัตว์ที่รัก ดูแลมาตายไปต่อหน้า ใจมันแตกสลายเป็นชิ้นๆ เพราะฉะนั้นอยากฝากบอกว่า ถ้าคุณมาสูญเสียแบบเราบ้างคุณจะรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่วันนี้จะไม่ต่อต้านต่อสู้กับดราม่าเหล่านี้

ทั้งนี้อุทกภัยไม่มีใครคาดคิด  ตอนที่น้ำท่วมเราไม่เคยมีประวัติศาสมาแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้หนักที่สุด เราไม่เคยท่วมถึงขนาดนี้ เราได้ อพยพ 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่ใกล้น้ำก็ต้องอพยพหมดเลย อีกส่วนหนึ่งก็คือส่วนที่ไม่เคยท่วมเลยเราให้เค้าอยู่ตรงนั้นตรงนั้น  และส่วนที่อยู่ของหมูและควายเป็นส่วนของหมู่บ้านที่ติดเขาซึ่งส่วนนี้อยู่ไกลแม่น้ำจึงไม่คิดว่ามันจะไปถึง ตอนที่ตนไปถึงตนเห็นว่าน้ำท่วมสูงมาก เห็นกระแสน้ำ ตนรู้เลยว่าลูกๆ ของตนอยู่ใต้น้ำ

ส่วนประเด็นกานฝั่งกลบนั้น เราทำอย่างเต็มที่ ตอนที่เราฝังเรามีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้ามาดูแลด้วย ตนไม่ได้ไปชี้ว่าฝังตรงไหนเพราะที่ตรงนั้นเจ้าของรีสอร์ทอนุญาต  แต่ตอนแรกตนอยากจะเอาทั้ง 2 เชือกกลับมาฝังที่ปาง แต่มันไม่สามารถนำเอาข้ามมาได้ จุดที่ฝังทางเจ้าของรีสอร์ทก็เห็นแล้ว และอนุญาตให้ฝังในพื้นที่ของเขาซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารที่ครบถ้วน 

"ตอนนี้ตนยังฝันร้าย ภาพน้ำยังติดตาอยู่  แต่ต้องอยู่ให้ได้เพื่อสัตว์อีกกว่า 5,000 ชีวิต ต่อไปตนจะไม่ให้ลูกของตนเผชิญกับแบบนี้อีก เพราะภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้นทุกวัน  จึงได้คิดวางแผนที่จะย้ายไปอยู่พื้นที่อื่นที่ปลอดภัย" นางแสงเดือน กล่าว