จากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน โดย อ.แม่สาย จ.เชียงราย จะเป็นพื้นที่ ที่โดนน้ำป่าท่วมทะลักหนักหน่วงที่สุด ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา แม้ตอนนี้น้ำจะลดแล้ว แต่เศษซากปรักหักพัก รวมทั้งเศษหิน ดิน ทราย ไม้ และขี้โคลน กลับเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้กัน จนต้องระดมหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือฟื้นพู และเยียวยาชาวแม่สายให้กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมจนได้
23 กันยายน 2567 นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานกรรมการมูลนิธิเพชรเกษม เปิดเผยภารกิจกู้ภัยฯ ช่วยเหลือน้ำท่วมแม่สาย และภาคเหนือ-อีสาน ว่า ทางมูลนิธิเพชรเกษมเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้่นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันแรกๆ
โดยมีการแบ่งภารกิจ เป็นทีม
1."ทีมโรงครัว" โดยขณะนี้ใช้พื้นที่ในที่ว่าการอำเภอแม่สายตั้งโรงครัว โดยทำข้าวกล่อง เพื่อแจกจ่ายชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ประมาณวันละ 9,000-10,000 กล่องโดยประมาณ พร้อมร่วมมือกับทางหน่วยงานทหาร นำข้าวกล่องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปหย่อนให้ชาวบ้านที่ยังติดอยู่ในที่พักอาศัยช่วงน้ำท่วมสูง
โดยทางมูลนิธิฯได้สั่งซื้อ เนื้อน่องไก่บีแอล มาปรุงอาหารกว่า 4 เมนูทุกมื้อ โดยสั่งทีละ 10 ตัน ใช้ปรุงอาหารได้ประมาณ 4 วัน ใช้งบซื้อประมาณ 1 ล้านบาท ต่อรอบการสั่ง ซึ่งปัจจุบันทางมูลนิธิฯก็ยังตั้งโรงครัวทำอาหารอยู่ในแม่สาย เพราะยังมีภารกิจอื่นต่อ
2."ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ" ทางมูลนิธิ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 110 นาย จากทางมูลนิธิสาขาท้ัง 16 สาขา ทั่วประเทศ มาช่วยที่แม่สาย ช่วยเหลือชาวบ้านตั้งแต่วันแรก ช่วยตั้งแต่น้ำท่วมหนักๆ ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
3."ทีมฟื้นฟู" หลังจากสถาณการณ์น้ำท่วมหนักๆผ่านไปแล้ว เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ปรับหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน คือ ช่วยนำดินโคลนออกจากบ้านประชาชน และมูลนิธิ มีรถแบคโฮเล็ก 1 คัน และรถลากสไลด์ 1 คัน คอยช่วยเหลือลากรถประชาชน ไปไว้ที่ป่าช้า วัดเหมืองแดง ในแม่สาย
โดยจะต้องใช้แบคโฮตักดินออก เพราะรถส่วนใหญ่ถูกดินโคลนจมทั้งคัน จึงต้องกำจัดดินโคลนก่อน รถสไลด์ถึงจะเข้าไปลากออกมาได้ โดยบริการทั้งหมดเราไม่คิดค่าใช้จ่าย
ช่วงแรกเราลากรถชาวบ้านในช่วงกลางวัน ตอนหลังได้ประชุมร่วมกับตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ปรับมาขุดดินและลากรถชาวบ้านขึ้นรรถสไลด์ในตอนกลางคืนแทน เพราะถนนจะโล่ง ไม่ติดขัดการจราจร
กลางวันรถหลายหน่วยงาน รถบรรทุกจะวิ่งกันเยอะมาก ทำให้ลากรถชาวบ้านได้วันละ 4-5 คัน แต่ทำงานช่วงกลางคืนได้คืนละกว่า 10 คัน และจะเคลียร์และลากรถในถนนเส้นหลัก เพราะหน่วยอื่นจะได้เข้ามาช่วยเหลือได้สะดวก นอกจากนั้นระหว่างรอสไลด์ลากรถไปไว้ที่พัก รถแบคโฮเล็กก็จะช่วยตักดินโคลนออจากถนนและบ้านประชน เพราะยิ่งปล่อยไว้นานโคลนจะแห้งกลายเป็นดินและเอาออกยากกว่าเดิม
4."ทีมบริการและจิตอาสา" โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิจะช่วยเหลือชาวบ้าน และสนับสนุนภารกิจอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือด้านอื่นๆต่อ
ทั้งนี้ทางมูลนิธิเพชรเกษม มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจดทะเบียนมูลนิธิอย่างถูกต้อง และมีสาขา 16 สาขาทั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่กว่า 100 นายทั่วประเทศ พร้อมช่วยเหลือประชาชน ทั่วประเทศ หากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำป่าทะลักอย่างที่ แม่สายเป็นต้น
นอกจากนี้หากประชาชนอย่างร่วมบริจาค เพื่อใช้เป็นทุนในการช่วยเหลือประชาชน สามารถบริจาคเข้า "มูลนิธิเพชรเกษม" ได้ที่ ธนาคาร กสิกรไทย เลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย 272-104-254-8 กระแสรายวัน และธนาคารอื่นๆ ติดตามในเว็บไซต์ของ "มูลนิธิเพชรเกษม" ได้ตลอด