วันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการระบายน้ำโขงมาจากทางจีน ทางลาว รวมถึงมวลน้ำที่ไหลมาจากภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้ชางบ้านในพื้นที่ภาคอีสานที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง ต้องเผชิญกับมวลน้ำโขงที่ท่วมมากที่สุดในรอบ 50 ปี และหลังจากที่มวลน้ำได้เอ่อเข้าท่วมหนักในพื้นที่ จ.หนองคาย ได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน น้ำได้เริ่มทะลักเข้าสู่พื้นที่ จ.นครพนม ขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรที่ติดกับแม่น้ำโขง ในพื้นที่ชายแดน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม นอกจากนี้ มีบ้านเรือนที่มีปลูกสร้างติดแม่น้ำโขงได้รับผลกระทบแล้ว โดยพื้นที่อำเภอบ้านเเพงล่าสุด ถูกน้ำท่วมเเล้ว 3 หมู่บ้าน คือ หมู่7 หมู่9 หมู่ 12 รวมกว่า 50 หลังคาเรือนที่ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ ต้องอพยพออกไปนอนข้างนอก
ต่อมา ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้เข้าไปสำราจประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งบอกว่า อยู่กับน้ำมา 7 วันเเล้ว ตอนนี้ ยังพอรับมือไหวอยู่ โดยนายวศิน ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านดอนเเพง นครพนม มีความกังวลเรื่องพายุ กังวลเรื่องฝน ที่จะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ นายอภิวัฒน์ ราชนาวี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านดอนเเพง เปิดเผยว่า ปีนี้ น้ำมา 2 ระลอก ประเมินสถานการณ์ว่า ไม่น่าจะวิกฤตไปกว่านี้ ตอนนี้มีการเตรียมรับมือเฝ้าระวังจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย ทั้งเรื่องการอพยพ เเละการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย รวมถึงการรับมือพายุ โดยปกติ เมื่อมีพายุ นครพนมก็จะได้รับทุกรอบ เเต่ครั้งนี้คาดว่า พายุจะมีเส้นทางต่ำลงไป เพราะปกติเวลานี้ จะต้องหมดฝนเเล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อปี พ.ศ. 2561 สถานการณ์หนักกว่านี้ เวลามีการเเจ้งเตือน มีความเป็นห่วงเรื่องพายุ ถ้ามีพายุ นครพนม ไม่มีผิดพลาดเลย เเต่ตอนนี้ต้องเฝ้าระวังกันตลอดจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย
สำหรับบ้านดอนเเพง ส่วนใหญ่มีอาชีพการเกษตร ปลูกใบยา ปลูกมะเขือเทศ ตามริมฝั่งเเม่น้ำโขง ซึ่งพื้นที่นี้ รับน้ำจากบึงกาฬ เเละ เทือกเขาภูลังกา ลาว จะไปรวมกันผ่านเมืองนครพนม ขณะเดียวกัน ทางอำเภอได้เตรียมสถานที่ศูนย์พักพิงไว้รองรับผู้ประสบภัยแล้ว เเม้ว่าน้ำจะเริ่มลด ในเขตเมืองทรงตัว เเต่ สทนช.ยังให้เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงไปจนถึง 21 กันยายน นี้ ที่ระดับน้ำโขงเคลื่อนตัวผ่าน จ.บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
จ.นครพนม ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่งสูงสุด 50 เซนติเมตร
สำหรับ เส้นทางพายุ "ดีเปรสชั่น" อุตุฯไทย ใช้โมเดล ฮ่องกง คาดการณ์ ศูนย์กลาง ผ่านลาวตอนกลาง เข้า นครพนม สกลนคร หนองคาย เเละ
อาจสลาย บึงกาฬ - ส่วนเเบบจำลอง ECMWF ที่คาดการณ์เส้นทาง "ยางิ" เเม่นที่สุดก่อนหน้านี้ ให้เส้นทางเข้าอีสาน นครพนม เชิดหัวขึ้นลาวตอนบน เเล้วหัก หัวกลับลงมา จ.เลย น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก อาจสลายเเถวๆ สุโขทัย และวันที่ 20 ก.ย.นี้ ฝนจะเเช่ทื่พื้นที่ภาคเหนือ เเละจะมีฝนยาวจากร่องมรสุมไปจนถึง 25 กันยายน 2567
ยืนยันว่า ขณะนี้ ในเขตเศรษฐกิจเมืองนครพนม ยังไม่ได้รับผลกระทบ ผู้ประกอบการฝากย้ำมาว่า ยังสามารถท่องเที่ยวได้