svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

ป.ป.ช.ตรัง บุก รร.ดัง พบเบิกงบแต่เด็กกินข้าวกับถั่วงอก แถมโผล่ชื่อ นร.ทิพย์

ป.ป.ช.ตรัง บุกตรวจ รร.ชื่อดัง พบรายชื่อ นร.ทิพย์โผล่ แยกเด็กเรียนศาสนา 5 วัน ซ้ำร้ายอาหารกลางวันไร้เนื้อสัตว์ ขณะที่การจ่ายเงินเดือนครูไม่โปร่งใส จี้ ศธ.ตั้งคณะกรรมสอบข้อเท็จจริงด่วน ส่อดำเนินการผิดระเบียบกฏหมายหรือไม่

12 กันยายน 2567 ที่ จ.ตรัง นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการ จ.ตรัง และเครือข่ายภาคประชาชน ชมรมตรังต้านโกง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบการบริหารจัดการ ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ในหมู่ 1 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็น 1 ในโรงเรียนเอกชนใน จ.ตรัง ที่ได้รับเงินอุดหนุน สนับสนุนจากภาครัฐ 

ภายหลังจากที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง พบเบาะแสว่า โรงเรียนดังกล่าว 1.มีนักเรียนไร้ซึ่งตัวตน แต่มีรายชื่อขอเบิกงบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐ 2.การบริหารจัดการการเรียนการสอน 3.การจ่ายเงินเดือนครู ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงฯ รวมทั้ง 4.อาหารกลางวันไม่เป็นไปตามหลักโภชนาการ โดยโรงเรียนดังกล่าวเปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบ่งจำนวนนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 31 คน ระดับชั้นประถม 101 คน และระดับชั้นมัธยม 422 คน มีคณะครูทั้งหมด 40 คน ครูที่ได้รับเงินเดือนสนับสนุนจากภาครัฐจำนวน 24 คน และโรงเรียนจัดจ้างเอง 16 คน 
ป.ป.ช.ตรัง บุก รร.ดัง พบเบิกงบแต่เด็กกินข้าวกับถั่วงอก แถมโผล่ชื่อ นร.ทิพย์
 

จากการสุ่มตรวจสอบอาหารกลางวันนักเรียนระดับชั้นอนุบาล หรือปฐมวัย และประถมศึกษาของโรงเรียนรวมแล้วจำนวน 132 คน ที่ทางภาครัฐได้ให้เงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน อยู่ที่หัวหรือรายละ 22 บาทต่อวัน โดยในรายชื่อเมนูอาหารของวันนี้ที่ทางโรงเรียนได้ติดระบุไว้มีเมนู ไข่พะโล้ , องุ่นเขียว , ปูอัดทอด แต่กลับปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมนูอาหารไม่ตรงไปตามที่โรงเรียนได้ระบุไว้ โดยนักเรียนระดับชั้นปฐมวัยได้รับเพียงแค่ ข้าวสวย ผัดถั่วงอกใส่เต้าหู้และแครอท ซึ่งไม่ปรากฏพบเห็นเนื้อสัตว์ กับขนมอบกรอบไส้ช็อกโกแลตคนละ 1-2 แท่ง 
ป.ป.ช.ตรัง บุก รร.ดัง พบเบิกงบแต่เด็กกินข้าวกับถั่วงอก แถมโผล่ชื่อ นร.ทิพย์

ส่วนเมนูอาหารนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ตามที่ติดระบุไว้มีเมนู ไข่พะโล้ , ผัดเผ็ดลูกชิ้น ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบถึงภายในครัวกลับพบว่า มีเมนูไข่พะโล้ แต่ไม่ได้มีการนำมาให้เด็กระดับชั้นอนุบาลหรือปฐมวัยได้รับประทานด้วย 

ภายหลังจากนั้นได้มีการสุ่มตรวจภายในห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา เป็นห้องระดับชั้น ม.2/3 มีนักเรียนซึ่งเรียนอยู่เป็นประจำภายในห้องเรียนเป็นหญิงล้วน จำนวน 15 คน ขาดลา 3 คน แต่กลับพบว่า รายชื่อของนักเรียนทั้งหมดห้องดังกล่าว ที่มีการส่งชื่อของบอุดหนุนจากภาครัฐจริงมีจำนวนถึง 30 คน ส่วนห้องเรียนระดับชั้น ม.2/2 มีนักเรียนที่เรียนอยู่เป็นประจำจำนวน 13 คน แต่มีรายชื่อในระบบจริงจำนวน 31 คน และระดับชั้น ม.1/2 มีนักเรียนเรียนจริงอยู่จำนวน 14 คน แต่ในรายชื่อกลับมีถึง 31 คน 

ซึ่งรวมๆ แล้วในแต่ละห้องแล้วมีนักเรียนที่มีรายชื่อ แต่ไม่ได้เรียนในโรงเรียนหายไปจำนวนกว่าครึ่งห้องเรียน โดยเจ้าหน้าที่พยายามขานชื่อและให้นักเรียนยกมือหากปรากฏชื่อตัวเอง ส่วนที่มีรายชื่อแต่ไม่มีตัวตนนั้น นักเรียนที่เรียนประจำอยู่ภายในห้องเรียน บอกว่า ไม่เคยพบเจอ ไม่ทราบชื่อ ไม่รู้จัก หรือเห็นหน้านักเรียนเหล่านั้นมาก่อน 
ป.ป.ช.ตรัง บุก รร.ดัง พบเบิกงบแต่เด็กกินข้าวกับถั่วงอก แถมโผล่ชื่อ นร.ทิพย์
 

โดยทางโรงเรียนฯ อ้างเหตุผลว่า นักเรียนที่มีชื่อแต่ไม่อยู่ในห้องเรียนนั้น ได้ไปเรียน “ฮาฟิร” ซึ่งเป็นการเรียนการสอนของศาสนาอิสลาม รวมทั้งโรงเรียนจำนวนประมาณ 150 คน ที่ สถาบันมัดรอซะฮ์ อารอบียะห์ ชัมซุลอูลูม พื้นที่ หมู่ 1 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ส่วนวันเสาร์ และอาทิตย์จะมาเรียนสายสามัญที่โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนยังอ้างเหตุผลว่า เป็นเจตนารมณ์ของผู้ปกรองนักเรียนเอง ที่จะเน้นให้นักเรียนได้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนาโดยตรง ส่วนนักเรียนที่ยังคงเรียนอยู่ภายในห้องเรียนก็เรียนเฉพาะวิชาสามัญ 

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่ สำนักงานศึกษาธิการ จ.ตรัง ได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่โรงเรียนอ้างเหตุผลว่า ได้ส่งนักเรียนไปเรียน “ฮาฟิร” ซึ่งระยะทางห่างกับโรงเรียนไปกว่าประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนจะพบว่า สถานที่ดังกล่าวถูกปลูกสร้างอยู่ติดกับมัสยิด ลักษณะเป็นคล้ายๆ ห้องแถวถูกปลูกติดกันจำนวนหลายห้อง มีทั้งห้องพักนักเรียน ห้องพักครู ห้องเรียน มีห้องโถง มีสนามหญ้า ลานกิจกรรมกลางแจ้ง และพบว่า มีการแขวนชุดเสื้อผ้าทั้งกลางแจ้งและในที่ร่ม 

เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ที่ระบุว่า ตนเองเป็นครูผู้สอนศาสนาอิสลามในสถานที่ดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ครูใหญ่ของที่นี่ได้ไปแสวงบุญที่ต่างประเทศ นักเรียนที่มาเรียนที่นี่ ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด ส่วนหนึ่งมาจากโรงเรียนดังกล่าว เป็นผู้ส่งมา เมื่อสอบถามว่าการเปิดสถานที่แห่งนี้ มีการรับรองจากหน่วยงานใด การจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน 

ขณะเดียวกันยังพบว่า ทางสถานที่แห่งนี้ไม่ได้รายชื่อ สกุลจริงของนักเรียน มีเพียงแค่เลขประจำตัว และชื่อเล่นอิสลามเท่านั้น และยังไม่พบหลักฐานเอกสารการส่งตัว จากทางโรงเรียนดังกล่าวแต่อย่างใด และเมื่อได้มีการสุ่มเรียกรายชื่อนักเรียน พบว่านักเรียนที่มีอยู่ประมาณ 90-100 คน บางส่วนมีชื่อตรงกับทางโรงเรียน บางส่วนอ้างว่ากลับบ้านไปแล้ว และบางส่วนก็กลับไม่มีตัวตนอยู่จริงทั้งสองสถานที่ 

โดยนักเรียนให้ข้อมูลว่า มาเรียนที่แห่งนี้วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ส่วนวันเสาร์ และอาทิตย์ จะกลับไปเรียนวิชาสามัญที่โรงเรียนดังกล่าว แต่บางส่วนก็ไม่ได้กลับไปเรียนแต่อย่างได ส่วนการเดินทางก็จะนั่งไปกับรถครูบ้าง ชาวบ้านบ้าง 

นายอดิศร แก้วเซ่ง รองศึกษาธิการ จ.ตรัง กล่าวว่า ในฐานะของสำนักงานศึกษาธิการ จ.ตรัง ซึ่งรับผิดชอบดูแลโรงเรียนเอกชนในจังหวัด วันนี้ได้ลงมาดูโรงเรียนแห่งนี้ พร้อมกับ ป.ป.ช.ตรัง ซึ่งพบว่า นักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนที่ถูกตรวจสอบ มีบางส่วนที่มาเรียนกับศูนย์การเรียนข้างนอก ก็คิดว่าโรงเรียนในระบบ จริงๆ แล้ว ก็สามารถที่จะเปิดการเรียนการสอนได้ 3 ระบบ ด้วยกัน 1.ในระบบโรงเรียน 2. นอกระบบโรงเรียน 3.ตามอัธยาศัย คิดว่านักเรียนบางส่วนที่มาเรียนอยู่ที่ศูนย์การศึกษาที่ อ.ปะเหลียน ก็น่าจะเป็นการเรียนนอกระบบ โดยเฉพาะในเรื่องของศาสนา 

แต่ตามที่สอบถามคุณครูอยู่ที่ศูนย์การเรียน ที่ อ.ปะเหลียน ก็พบว่า เด็กมาเรียนศาสนาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ส่วนวันเสาร์ และอาทิตย์ จะกลับไปเรียนสายสามัญที่โรงเรีย ทางสำนักงานศึกษาธิการ จ.ตรัง ก็จะไปศึกษารายละเอียดอีกรอบว่าจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ว่า มาเรียนที่ศูนย์ข้างนอกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ กลับไปเรียนในระบบวันเสาร์ วันอาทิตย์จะได้หรือไม่ จะไปดูรายละเอียดของข้อกฎหมายอีกรอบหนึ่ง ในส่วนหลักเกณฑ์หลักการเรื่องจำนวนเด็กที่หายไป จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไปว่า นักเรียนที่หายไปเป็นอย่างไร 

ขณะที่ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบและพบข้อมูลในประเด็นต้องสงสัยต่างๆ จะต้องให้ทางศึกษาธิการจังหวัดตรวจสอบต่อไป ซึ่งหากพบมีการทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติ ก็ต้องมีการเรียกเงินคืน หรือดำเนินการทางอาญาต่อไป 

ด้าน ว่าที่พันเอกหญิง ดร.ส้าหลี้เฝาะ ผู้รับใบอนุญาต และผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ชี้แจงว่า กรณีมีรายชื่อเด็กนักเรียน แต่ไม่ปรากฏตัวตนนั้น ตามปกตินักเรียนอยู่กันครบ และนักเรียนไปเรียนวิชาศาสนาไปเข้าคอร์สเหมือนกับเราไปเรียนสารพัดช่างหรือการอาชีพ แต่ทางโรงเรียนให้เรียนชดเชย เสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้เวลาได้ครบและได้สอบได้เป็นนักเรียนปกติ แต่นักเรียนอยู่ปกติที่นี่ ซึ่งเด็กนักเรียนมาอยู่ที่นี่ประจำ แต่ไม่ได้เรียนร่วมกับเพื่อนร่วมชั้น คนที่ไปเรียนศาสนาจะมาเรียนอีกห้อง เฉพาะพวกที่ไปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพื่อนร่วมชั้น และครูที่สอนนักเรียนเหล่านี้เป็นครูต่างหาก 

ส่วนรายชื่อนักเรียนที่มีไม่ใช่นักเรียนทิพย์มีตัวตนจริงๆ วันไหนที่เด็กไม่ไปเรียนจะอยู่ครบ ส่วนเด็กที่มีรายชื่อเรียนจริง ๆ ที่โรงเรียนตอนแรกเขาก็มาสมัครเรียนที่โรงเรียนอยู่ปกติ แต่มีช่วงหนึ่งที่ผู้ปกครองเขาต้องการให้ลูกได้ศาสนาเยอะ เลยส่งไปเรียนคอร์สพิเศษ 

อยากให้สบายใจว่า โรงเรียนจะโปร่งใสทุกอย่าง หากบกพร่องส่วนไหนพร้อมยินดีแก้ไข ส่วนประเด็นโครงการอาหารกลางวัน ตรงนี้ปกติ ไม่ได้แก้ตัว วันอื่นที่ไปดูมันมีพร้อมตามนั้น วันนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ชี้แจงตามหัวหน้าที่รับผิดชอบ แต่วันนี้ยอมรับว่าเมนูของอาหารไม่ตรงจริงๆ ทั้งนี้จะปรับปรุงแก้ไขและจะลงไปดูเอง พร้อมที่จะปรับปรุงตรงนี้
ป.ป.ช.ตรัง บุก รร.ดัง พบเบิกงบแต่เด็กกินข้าวกับถั่วงอก แถมโผล่ชื่อ นร.ทิพย์