29 สิงหาคม 2567 สถานการณ์น้ำแรกที่หลากมาจาก จ.พะเยา เข้าสู่ จ.แพร่ แล้วผ่านจุดพีคสูงสุดที่ จ.สุโขทัย มาแล้ววานนี้ ทำให้วันนี้ น้ำมาอยู่ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ในแม่น้ำยมสายเก่า และแม่น้ำยมสายหลัก จ.พิษณุโลก ได้ใช้ 5 มาตราการเร่งด่วน ในการรับมือ เช่น เร่งระบายน้ำ เร่งป้องกัน เร่งเก็บเกี่ยว เร่งรับน้ำเข้าทุ่งหน่วงน้ำในทุ่งโครงการบางระกำโมเดลซึ่งผันออกทางธรรมชาติ และประตูระบายน้ำต่าง ๆ วันนี้น้ำเข้าไปอยู่แล้ว กว่า 15 เปอร์เซ็นต์ หรือปริมาณน้ำ 60 ล้านลูกบากศ์เมตร โดยในพื้นที่เป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตหมดนานแล้ว และบ้านเรือนประชาชน โดยทางจังหวัดจะเข้าดูแลประชาชนในทุ่งอย่างดี เพราะถือว่าเป็นผู้เสียสละ
อีกอย่างหนึ่ง คือ การเร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ผ่านเครือข่าย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และอื่น ๆ ปัจุบันปริมาณน้ำสูงสุด ได้เข้าสู่พื้นที่ อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ แล้ว มีการเร่งระบายน้ำแม่น้ำยมสายเก่า ออกทาง ประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก และเพิ่มศักยภาพ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งการระบาย
และยังได้พร่องน้ำแม่น้ำยมสายหลักนี้ ลงสู่แม่น้ำน่านอย่างต่อเนื่องออกทางคลอง DR-2.8 ปัจจุบันระบายได้ดี เนื่องด้วยระดับแม่น้ำน่านต่ำ เพราะมีการลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ลง แล้วยังระบายน้ำจากแม่น้ำยมสายเก่า ลงแม่น้ำน่าน ออกทางคลอง DR-15.8 อีกด้านหนึ่ง ปัจจุบันระบายได้ดี และเพิ่มศักยภาพ โดยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำ ในขณะที่แม่น้ำยมยังสูงขึ้นเล็กน้อย ชาว อ.สามง่าม จ.พิจิตร ก็คอยระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่ง
ทั้งนี้ ก็ยังปรากฏว่ามีประชาชนริมฝั่งแม่น้ำยม ถูกน้ำท่วมสูง เช่น ชาวบ้านหมู่ 12 บ้านคลองเมม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ได้ขนย้ายข้าวของ สัตว์เลี้ยงมาอยู่ในเต็นท์ชั่วคราว ที่ทางกำนัน และ อบต.จัดไว้ให้บนที่สูง เพราะมีน้ำไหลเข้าบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องอยู่แบบนี้ไปจนกว่าน้ำจะลด คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 เดือน