svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

สังหารเพื่อนรักถ่วงบ่อน้ำ นั่งเฝ้าร่างไม่ห่าง

ตร.รวบมือสังหารเพื่อนรัก ถ่วงบ่อน้ำญาติ ปมหลงรักสาวคนเดียวกัน อึ้ง คำสารภาพ หลังก่อเหตุขยันไปเฝ้าร่างไม่ห่าง กลัวคนอื่นมาเจอ เห็นร่างลอยอืดจ้วงแทงซ้ำ พร้อมหาของมาถ่วงน้ำหนักเพิ่ม

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 25 ก.ค.2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าตะโกว่า ได้นำทีมนักประดาน้ำมางม หาร่างผู้สูญหายในบ่อน้ำแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ภายหลังนางประยงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี ชาวบ้านได้ร้องขอให้ช่วยตามหาลูกชาย คือ นายยอดรัก (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ซึ่งหายตัวออกจากบ้านไปประมาณ 5 วัน และสงสัยว่าน่าจะถูกล่อลวงไปฆ่า แล้วนำศพมาอำพรางไว้ภายในบ่อน้ำ

เมื่อทีมนักประดาน้ำลงไปงม ปรากฏพบร่างของผู้เสียชีวิตจริง ใช้เวลาประมาณกว่า 2 ชั่วโมง จึงงมพบศพก่อนจะประสานตำรวจ และแพทย์เวรโรงพยาบาลให้มาตรวจสอบ 

สำหรับที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำสำหรับการเกษตรขนาดใหญ่ของชาวบ้าน และบ่อดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านของนายยอดรัก (ผู้เสียชีวิต) ประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสภาพศพ พบว่า ร่างเน่าเปื่อย อยู่ในชุดสวมเสื้อและกางเกงยีนส์ขาสั้นดีดำ โดยถูกเชือกมัดติดเอาไว้กับรถไสเข็นของ รวมถึงมีถุงบรรจุอิฐ หิน และ ปูน มัดไว้ที่ร่าง เพื่อถ่วงน้ำหนักในการนำศพมาอำพรางอีกทีด้วย และทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมนำศพถ่วงน้ำในครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน กลับเป็นญาติห่าง ๆ ของคนตาย ที่มีอาการทางประสาท คือ นายรุ่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี 

สังหารเพื่อนรักถ่วงบ่อน้ำ นั่งเฝ้าร่างไม่ห่าง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อน้ำที่พบศพเพียง 50 เมตรเท่านั้น ส่วนคำให้การ ขณะนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวยังให้การวกไปวนมา จนหาจับความจริงทั้งหมดแทบไม่ได้ แต่ในเบื้องต้น ทราบว่า เกิดมาจากเรื่องที่ผู้ตายหึงหวงหญิงสาวรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งมีการระบุว่า ทั้งคนตายและผู้ก่อเหตุ ได้ไปหลงรักหญิงคนเดียวกัน จนเกิดความหึงหวง และในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 คือวันที่คนตายจบชีวิต นายยอดรัก ได้มีการไปพบเจอกับนายรุ่ง ที่บ้าน แล้วมีการบังคับให้คนก่อเหตุรับสารภาพในเรื่องหลงรักหญิงสาวคนเดียวกัน จนกลายเป็นเหตุฆาตกรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุ ระบุว่า ถูกบีบคั้นบังคับจนทนไม่ได้ จึงได้ใช้ของแข็งทุบจนตายคาบ้าน ก่อนจะมีการนำร่างไปมัดเอาไว้กับรถไสเข็นของแล้วนำศพไปทิ้งในบ่อน้ำด้านหลังบ้าน 

นอกจากนี้ นายรุ่ง ยังบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตั้งแต่ที่ลงมือฆ่าผู้ตายเอาศพไปโยนทิ้งน้ำ ก็หมั่นเพียรไปนั่งเฝ้ามองดูศพคนตายตลอด เพราะกลัวความผิดที่ก่อขึ้น ซึ่งตั้งแต่วันก่อเหตุมาจนถึงวันโดนจับ ก็เห็นว่าศพคนตายมีการลอยอืดขึ้นมา 2 ครั้ง จึงได้ใช้มืดไปไล่จ้วงแทงซ้ำ หวังจะให้น้ำในบ่อซึมทรัพย์ร่างของผู้ตายถ่วงน้ำลงไป รวมถึงยังมีการนำของหนักไปมัดถ่วงเสริมไว้ที่ร่างของคนตายด้วย 

ด้านนางประยงค์ (แม่ของผู้ตาย) เปิดเผยว่า ลูกชายพักอาศัยบ้านเดียวกันในพื้นที่หมู่ 1 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของผู้ก่อเหตุ ที่อยู่หมู่ 4 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ลูกชายได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงได้มีการไปแจ้งความคนหายไว้ที่ตำรวจก่อน จนกระทั่งวันนี้ ได้มีญาติคนหนึ่ง เขาไปดูหมอมา ก่อนจะมาแจ้งกับตนว่า พ่อหมอบอกลูกตนถูกฆ่าอยู่ในสระน้ำของบ้านนายรุ่ง ซึ่งสอดคล้องกับทางตำรวจที่ได้มีการสอบปากคำเพื่อนของลูกชายทุกคน แล้วพบว่านายรุ่ง แสดงท่าทีมีพิรุธกว่าใครเพื่อน จึงได้มีการร้องขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยให้มาช่วยกันงมหาผู้สูญหาย จนพบศพดังกล่าว พร้อมระบุว่า ระหว่างนายยอดรัก(คนตาย) กับนายรุ่งมือ (ผู้ต้องหา)นั้น เป็นญาติห่างๆ ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทกันมาก และมีการไปพบหานั่งดื่มสุรากันอยู่บ่อยครั้ง