แม่ค้าส้มตำ ร.ร. เห็นใจ อดีต ผอ.เป็นคนอัธยาศัยดี

จากกรณีนายปฐพี มีบาง อายุ 52 ปี  อดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ขับรถจากจังหวัดบุรีรัมย์ ไปที่บ้านพักของอดีตแฟนสาวซึ่งเป็น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ จ.ศรีสะเกษ ก่อนใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงจนเสียชีวิตไปพร้อมกับ ทนาย ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของ อดีตแฟน นอกจากนี้ นายปฐพี ได้ตามไปยิงแม่ของอดีตแฟน และน้องเขยของแม่ด้วย ก่อนจะมาปลิดชีพตัวเองระหว่างเดินทางกลับบ้านที่ ต.ไพศาล จ.บุรีรัมย์ ต่อหน้าตำรวจที่ตามประกบและสั่งให้หยุดรถ 

เหตุการณ์ดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลาย ว่าเหตุใด ผอ.ฝ่ายชายต้องวางแผนชิงลาออกก่อนมาก่อเหตุเพียงเดือนเศษ และปมสาเหตุอันใดที่ทำให้ ผอ.ฝ่ายชายถึงมีความแค้นขนาดนั้น ทั้งที่ทำงานเป็นถึงผู้บริหารโรงเรียนมัธยม และมีจิตวิญญาณที่เป็นครูอยู่ในตัว โอกาสจะก่อเหตุในลักษณะนี้มันทำได้ยาก ขณะเดียวกัน สังคมยังตั้งข้อสังเกตว่าทำไมฝ่ายหญิงให้ทนาย ซึ่งเป็นแฟนใหม่มาฟ้องร้องฝ่ายชาย โดยที่ครอบครัวฝ่ายชายไม่รู้ว่าฟ้องเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่การฟ้องหย่า เพราะก่อนหน้าที่คบกัน ทั้งสองคนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่อดีต ผอ.เคยบริหาร พบกับ  นางนุ้ย (นามสมมุติ) แม่ค้าขายส้มตำข้างโรงเรียน เล่าว่า อดีต ผอ.คนดังกล่าวมาบริหารโรงเรียนนี้เมื่อปี 2564 เป็น ผอ.ที่มีอัธยาศัยดี รูปหล่อ พูดดี และไม่ถือตัว การกระทำดังกล่าวของ ผอ.เชื่อว่าน่าจะมีอะไรที่ลึกและคับแค้นมากกว่าคนทั่วไปจะรับได้ ส่วนตัวยอมรับว่าสงสารและเห็นใจ ผอ.ที่กระทำไปแบบนั้น 

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวคนใกล้ชิด ผอ.ฝ่ายชาย ซึ่งออกมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการลงมือฆาตกรรมครั้งนี้ว่า 1. มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายหญิงจะไปแอบมีสัมพันธ์กับทนายมาก่อนที่จะมีเรื่องระหองระแหงกัน เพราะสามีทำงานอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนฝ่ายหญิงทำงานอยู่จังหวัดศรีสะเกษ ประกอบกับจากประวัติของ ผอ.ฝ่ายหญิง ได้เปลี่ยนสามี มาแล้วถึง 4 ครั้ง 

2.ผอ.ฝ่ายชายอาจจะรู้ระแคะระคายว่า ฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่าง และอาจจะพอรู้ว่า "มีชายใหม่หรือไม่" จึงพยายามแวะไปหา แต่ถูกกึ่งปฏิเสธไม่ให้พักที่บ้าน ทำให้ ผอ.ฝ่ายชายเริ่มออกบทบาทด้วยการข่มขู่ว่าจะฆ่ายกครัว รวมถึงแจกใบปลิวให้ชาวบ้านที่จังหวัดศรีสะเกษ รู้ว่านี่คือ "บ้านกู" คือบ้านหลังที่สร้างมาด้วยกัน 

3. มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ทนายความ แฟนใหม่ของ ผอ.ฝ่ายหญิง จะร่วมกันวางแผนกับ ผอ.ฝ่ายหญิง โดยใช้ความรู้ด้านกฎหมายหาแนวทางฟ้องร้องฝ่ายชายหลายข้อหา กรณีนี้ฝ่ายทนายความอาจจะเล็งผลให้ศาลวิเคราะห์ แล้วห้ามฝ่ายชายไปก่อกวนที่บ้านอีก เพื่อที่ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะทนายความที่อาจจะคิดว่าถ้าได้ ผอ.โรงเรียนมาครอบครองเป็นภรรยาน่าจะมีชีวิตที่มั่นคงกว่า จึงพยายามหาทุกวิถีทางที่จะปัดเป่าเอาสิ่งที่มากวนออกไป เพื่อให้อยู่กันอย่างมีความสุข ซึ่ง ผอ.ฝ่ายชายที่จังหวัดบุรีรัมย์ อาจจะสามารถวิเคราะห์ได้เช่นกัน และเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไว้ในใจโดยไม่บอกให้ใครรู้ ความหวังที่ฝันไว้ว่าจะอยู่กินกับภรรยาคนนี้จนแก่เฒ่า เพราะอายุ 52 แล้ว แต่กลับไม่สมหวังในลักษณะเหมือนถูกหักหลังมากกว่าเป็นอุบัติเหตุทางความรัก หรือเส้นทางวาสนา และ ผอ.ฝ่ายชาย น่าจะคิดตรึกตรองมาเป็นเวลาสมควรจึงวางแผนก่อเหตุแบบนี้หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียงการวิเคราะห์จากแหล่งข่าวคนใกล้ชิดของ ผอ.ฝ่ายชาย เท่านั้น