svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

“ซ้อลักษณ์” เตรียมแจ้งความ ปธ.สาว 2 ข้อหา เดินหน้ายื่นยุบมูลนิธิฯฉาว

“ซ้อลักษณ์ - ปุ๊กกี้” พา หนุ่มในแวดวงการเมือง มายืนยันอีกเสียงว่ามีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง เผย กลไก แค่เอาชื่อไปใส่ในระบบ นศ.ย้อนหลัง แลกเงิน 3แสน เตรียมแจ้งความเอาผิดประธานสาว 2 ข้อหา พร้อมเดินหน้ายื่นยุบมูลนิธิฯ เหน็บกูรูทางกฎหมายขอให้ตั้งสติ

จากกรณี นางสาววิไลลักษณ์ หรือ “ซ้อลักษณ์” และ “ปุ๊กกี้” อดีตสมาชิกมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่ง ออกมาแฉว่า ถูกประธานสาว มูลนิธิฯ เสนอขายวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก และแอบอ้างการซื้อขายตำแหน่งทางการเมือง

วันที่ 6 กรกฎาคม 2567  เมื่อเวลา 11.30 น. ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  น.ส.วิไรลักษณ์ หรือ “ซ้อลักษณ์” พร้อมด้วย “ปุ๊กกี้” พานายเอ (นามสมมุติ) นักการเมือง เข้าพบ ว่าที่ ร.ต.รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิฯ  นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ เพื่อให้ข้อมูลยืนยันว่าเรื่องการซื้อขายวุฒิการศึกษามหาลัยดังเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนเขามาติดต่อวิ่งเต้นให้ตนช่วยเหลือมหา’ลัย

โดย นายเอ ระบุว่า จากเกิดกรณีดังกล่าว จึงเชื่อว่ามหาวิทยาลัยนี้ มีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง ประกอบกับ ตัวเองเคยพบบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นผู้หญิง เสนอขายวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี ราคา 300,000 บาท โดยขั้นตอนไม่ได้เป็นการนำเงินเข้าไปซื้อ แล้วจะได้วุฒิการศึกษาออกมาเลย แต่เป็นการนำชื่อ นำรายชื่อบุคคลที่จะซื้อใส่ในระบบนักศึกษาย้อนหลัง เพื่อให้ตรงกับภาคเรียน นอกจากนี้ ยังมีการซื้อขายวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาโทด้วย แต่ไม่ทราบราคาว่าขายเท่าไหร่

นายเอ ยืนยันว่า ขณะที่ตัวเองลงพื้นที่ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ก็พบว่าภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เฉพาะคณะนี้ มีอาคารเรียนเพียง 1 อาคาร ขณะเดียวกัน เมื่อสังเกตนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยพบว่ามีจำนวนน้อยผิดปกติกว่ามหาวิทยาลัยทั่วไป จึงเชื่อว่าน่าจะมีการทุจริตเกี่ยววุฒิการศึกษาจริง พร้อมย้ำว่า วันนี้ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ก็เพื่อจะเพิ่มน้ำหนักให้กับกรณีของ “ปุ๊กกี้” ว่า มีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง

ด้านนายชาญชัย ฉายบุ ทนายความที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม  ระบุว่า กรณีที่ประธานสาวมูลนิธิดังที่ตกเป็นข่าว ณ ขณะนี้  และนายเกษียร เจ้าของบัญชี ที่รับโอนเงินไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ก็ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะในบันทึกประจำวัน ที่ระบุยอดเงิน 49,500 บาท โอนกลับมายังประธานสาว  บ่งชี้ว่า ปลายทางของเงินนั้นอยู่ที่ใคร พร้อมทั้งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ข้อความแชทที่ “ซ้อลักษณ์” นำมาโชว์นั้นเป็นความจริง

และในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.2567) ตนเอง พร้อมกับ “ซ้อลักษณ์” จะไปแจ้งความเอาผิดประธานสาวมูลนิธิฯดัง  ที่ สภ.เมืองสกลนครฐานฉ้อโกง และปลอมแปลงลายเซนต์ “ซ้อลักษณ์” ไปจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิฯ  ส่วนที่ “ซ้อลักษณ์” ออกมาเปิดโปงครั้งนี้ ไม่มีความผิด เนื่องจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. กันไว้เป็นพยาน และหลังจากได้เอกสารหลักฐานครบทั้งหมด จะไปยื่นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ยุบมูลนิธิฉาวแห่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังฝากไปถึงกูรูทางกฎหมาย ที่ระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็นการหักหลังกันของเพื่อน ขอให้ตั้งสติ รวมถึงบุคคลที่ติดตาม เพราะเป็นคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เรื่องนี้ประเด็นอยู่ที่การโกงวุฒิการศึกษา