ฝากขัง พจนี เมียสันติ บอกผ่านสื่อฯ อยากให้สามีมอบตัว คดียิงสู้ตำรวจ

05 ตุลาคม 2567 ความคืบหน้า นายสันติ อดีตนักมวยดัง หลบหนีการจับกุม ยิงสู้ตำรวจ ขณะเมียเอาปืนจี้ตัวเอง ข่มขู่ตำรวจ ก่อนหนีไปถึงอยุธยาก่อนถูกจับกุม

ล่าสุด พนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ คุมตัวนางพจนีภรรยานายสันติ ผู้ต้องหาที่ข่มขู่ตำรวจและใช้อาวุธปืนจี้คอตัวเอง ก่อนจับกุมตัวได้ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาเป็นผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี และคดีมีอัตราโทษสูง โดยส่งฝากขังในฐานความผิด 4 ข้อหา ดังนี้

• พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต
• ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
• มียาเสพติดในครอบครอง 
• กักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้าพนักงาน

ก่อนการคุมตัวนางพจนีออกจากห้องขัง มีท่าทางสีหน้าที่เครียด ยังสวมชุดผู้ป่วยของโรงพยบาลตำรวจจากการที่ถูกส่งตัวไปรักษาแผลที่เท้าก่อนหน้านี้ และนางพจนีบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่อยากออกจากห้องขังเนื่องจากและกลัวจะถูกถ่ายภาพ

จากนั้นนางพจนี ก็ยินยอมออกจากห้องขังเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาเพื่อไปยังศาลอาญารัชดา โดยระหว่างควบคุมตัว สื่อมวลชนพยายามถามความรู้สึก และสิ่งที่อยากจะพูด โดยถามว่า อยากขอโทษตำรวจที่ถูกใล้อาวถธปืนจี้ให้ออกจากจุดเกิดเหตุหรือไม่ และ อยากฝากบอกอะไรกับนายสันติบ้าง ซึ่งนางพจนีได้กล่าวขอโทษ และ อยากให้สามีเข้ามอบตัวกับตำรวจแต่โดยดี

ด้านพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุไปจริง ก่อนวันเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดมาก่อน 1 วัน ซึ่งตรงกับโดยตนเองเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาหานายสันติ แต่เมื่อทราบว่านายสันติถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์หนีหมายจับก็ได้พาตนเองพักตามห้องเช่าต่างๆ ก่อนวันเกิดเหตุมาหาสามีแต่พบว่ามีตำรวจและนักข่าวอยู่บริเวณบ้านของสามีเป็นจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากความเครียดจึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ชุดสืบนครบาล ชุดสืบสวนนครบาล 2 และชุดสืบสวนสน.บางซื่อ ไล่ติดตามตัวนายสันติ อย่างเร่งด่วนแล้ว คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินตามกฎหมายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวนในการติดตามตัวนายสันติ หลังจากที่นายสันติได้หลบหนีฝ่าวงล้อมของตำรวจไปท่ามกลางข้อสงสัย ขณะนี้พบว่าหลังเกิดเหตุนายสันติได้ออกจากพื้นที่ จากนั้นก็ไปหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่เขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นายสันติมีคนรู้จักเยอะ และเป็นจุดที่ตำรวจได้เบาะแสเป็นจุดสุดท้าย

อย่างไรก็ตามทางชุดสืบสวนได้มีการขยายวงกว้างการสืบสวนออกไปนอกเหนือพื้นที่กรุงเทพ เพราะนายสันติมีคนรู้จักที่จังหวัดอื่นด้วย