11 สิงหาคม 2566 นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.จังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ปปป., นางสาวทัดดาว บุญสาย ผู้อำนวยการกลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 และนายประชาธิป ธรรมชาติ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการฯ
ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตอง 2 คน เรียกรับสินบน 2.5 แสนบาท แลกออกใบอนุญาตเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต
นายศรชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจ บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า เจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ เพื่อแลกกับใบอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการใช้อาคาร (อ.5) ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยผู้ประกอบการได้ไปขอใบอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการใช้อาคาร และถูกเจ้าหน้าที่ฯ เรียกเงิน 250,000 บาท ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียหาย
จึงได้นำหลักฐานที่เป็นคลิปเสียงการเรียกรับเงินดังกล่าวมา ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม และได้รับคำร้องทุกข์เรื่องดังกล่าวไว้ดำเนินการสืบสวนสอบแล้ว โดยใช้เวลาร่วม 2 เดือน พบว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอเชื่อได้ว่า มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์จริง และเห็นว่าผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและโดยทุจริต เรียกรับสินบนจากผู้เสียหายดังกล่าว
จากนั้น บก.ปปป.ได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อวางแผนเข้าจับกุม ในขณะที่ทำการส่งมอบเงินกัน และให้ผู้เสียหายนำเงินสด จำนวน 250,000 บาท มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อมอบให้กับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตอง ตามที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้
เมื่อถึงเวลานัดหมายส่งมอบเงินที่โรงแรมของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป., ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ได้วางกำลังซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ และเมื่อผู้เสียหายให้สัญญาณว่าส่งมอบเงินเรียบแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
นายศรชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเงินสด จำนวน 250,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองป่าตองถือไว้ พบว่าหมายเลขบนธนบัตร ตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์ และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากพยานหลักฐานที่ชัดเจนมั่นใจว่าจะดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้จะมีการขยายผลว่ายังมีผู้ที่ส่วนร่วมอีกหรือไม่
เคสนี้ถือเป็นเคสแรกของภูเก็ต ที่มีผู้เสียหายมาแสดงตน ด้วยทนไม่ไหวจนต้องไปร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกเรียกรับมาแล้วหลายครั้ง ทั้ง ๆ ที่ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตอยู่ที่ 200 บาท ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีการร้องเรียนในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของจดหมายหรือบัตรสนเท่ห์