จากกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ผู้ปกครองนักเรียนในหมู่บ้านบนเทือกเขาภูแลนคา ต.วังชมภู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ออกมาแฉพฤติกรรมครูพละหื่น ทำอนาจาร และล่วงละเมิดนักเรียนหญิง ม.2 ผู้ใหญ่บ้านเอาผิดพร้อมถ่ายภาพคลิปขณะตกลงค่าเสียหาย โดยผู้ก่อเหตุรับปากจะขอย้ายตัวเองออกจากโรงเรียนประถมฯ แห่งหนึ่ง แต่กลับไม่ทำตามสัญญากับผู้ปกครองเหยื่อ และยังหวนกลับมาสอนหนังสือ
นอกจากนี้ยังคงก่อเหตุกับลูกศิษย์สาว ม.2 และ ม.3 ที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลหญิงประจำโรงเรียนอีกหลายราย หากผู้ปกครองเหยื่อโวยวายก็จะให้เงินปิดปาก จนชาวบ้านพ่อแม่ผู้ปกครองผู้ปกครองสุดทน กลัวจะกลับมาสร้างตราบาปให้กับลูกหลานในหมู่บ้านตำบลดังกล่าวอีก จึงนำคลิปออกมาแฉให้ผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบตีแผ่ให้ผู้บริหารระดับจังหวัดลงมาให้การช่วยเหลือโดยด่วน
9 สิงหาคม 2566 นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ เร่งให้นายนิวัฒน์ แก้วเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงพร้อมรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิทราบโดยด่วน ขณะเดียวกัน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่หาแนวทางช่วยเหลือ และเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัว นักเรียนหญิง ม.2 แล้ว
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้แฉพฤติกรรมครูพละหื่นรายนี้ว่า เคยกระทำชำเรานักเรียนหญิงชั้น ม.2 จนตั้งท้อง เมื่อผู้ปกครองทราบเรื่อง ครูพละจึงให้ค่าทำขวัญ 5 หมื่นบาท จากนั้นผู้ปกครองจึงพาเหยื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ แต่ครูรายนี้ยังไม่หยุดพฤติกรรมก่อเหตุกับนักเรียนหญิงซึ่งเป็นเพื่อนกับเหยื่อรายแรก หลังเรื่องแดงผู้ปกครองเรียกค่าเสียหาย 1 แสนบาท และให้มาสู่ขอแต่งงาน ก่อนที่พ่อแม่เด็กจะนำตัวลูกสาวไปเรียนที่กรุงเทพฯ
ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ครูพละรายนี้ยังอนาจารเด็กในโรงเรียนอีกกว่า 10 ราย โดยออกอุบายชวนให้มาเป็นนักกีฬาฟุตบอล ใช้เงินหลอกล่อพาไปซื้ออุปกรณ์กีฬา บางรายซื้อมือถือราคาแพงให้ รวมทั้งพาไปเที่ยวสถานบันเทิงในอำเภอใกล้เคียง ก่อนจะลงมือทำอนาจารเด็ก จึงฝากให้ผู้เกี่ยวข้องลงมาช่วยแก้ปัญหา เพราะเกรงว่าลูกหลานจะตกเป็นเหยื่ออีก