28 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้าไอติมกะทิสูตรโบราณคนหนึ่ง ชื่อว่า นายนู ผาพิมพ์ ชาวอำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ แม้จะอายุ 70 ปีแล้ว แต่ก็แต่งตัวสุดหล่อเหลาใส่สูทผูกไท ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายไอติม ทุกวัน
แถมยังนำความชื่นชอบส่วนตัวมาสร้างเป็นจุดขาย ด้วยการนำเครื่องเสียงและลำโพงใส่รถขายไอติมมาด้วย เพื่อเปิดเพลงหมอลำที่ตัวเองชื่นชอบ แล้วโชว์ลีลาเต้นตามจังหวะเพลงหมอลำ เพื่อดึงดูดลูกค้า ทำให้ลูกค้าทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ต่างชื่นชอบทั้งการแต่งตัวและลีลาของพ่อค้า ไปจอดขายตรงไหนก็จะมีลูกค้ามาอุดหนุนคึกคัก เรียกได้ว่าขายไปด้วยเต้นไปด้วยจนลูกค้าบางคนอดใจไม่ไหวต้องเข้ามาแจมด้วย
นายนู เล่าว่า เมื่อก่อนมีอาชีพเป็น รปภ.ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา 12 ปี เมื่ออายุมากขึ้นลูกชายจึงบอกให้พ่อกลับมาอยู่บ้าน จากนั้นก็มีเพื่อนที่ขายไอติมอยู่ก่อนแล้ว สอนสูตรการทำไอติมกะทิสูตรโบราณให้เพื่อทำขาย
หลังจากนั้นก็ขายมาตลอดจนถึงปัจจุบันเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ส่วนตัวเป็นคนชอบแต่งตัวเรียบร้อยและมีสูทที่บ้านหลายตัว จึงได้ใส่สูทผูกเนคไทขายไอติมมาตลอดจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว แล้วตัวเองก็ชื่นชอบฟังเพลงหมอลำมากเวลามาขายไอติมก็จะติดลำโพงเครื่องเสียงมาเปิดฟังด้วย เพลงไหนโดนใจก็จะเต้นตามจังหวะเพลงไปด้วย ลูกค้าที่เห็นเขาก็ชื่นชอบจนมีลูกค้าขาประจำอุดหนุนทุกวัน
ส่วนไอติมก็ปั่นเองวันละ 12 กิโลกรัม ก็ขายหมดเกลี้ยงถังทุกวัน ปกติเริ่มขาย 10.00 น. – 16.00 น. แต่ช่วงหน้าร้อนแบบนี้บ่าย 2 หรือบ่าย 3 ก็หมดแล้ว ส่วนยอดขายก็วันละประมาณ 2 พันบาท หักต้นทุนแล้วก็เหลือ 1 พันกว่าบาทก็อยู่ได้แล้ว
ด้านเจ๊พร เจ้าของร้านค้าปลีกและส่งซึ่งเป็นรายหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำนายนู บอกว่า อุดหนุนไอติมคุณตานูทุกวัน เพราะไอติมคุณตาหวาน มัน อร่อย แถมคุณตายังอารมณ์ดีเปิดเพลงหมอลำและเต้นตามจังหวะเพลงตอนที่มาขายไอติม ด้วย จนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า แต่ก่อนจะขายต้องออกลีลาเต้นก่อน จนบางครั้งตนอดใจไม่ไหวต้องเข้ามาแจมเต้นกับคุณตา ด้วย