จากกรณี นายหมิง อายุ 33 ปี นักธุรกิจชาวจีน เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ว่าภรรยาสัญชาติเดียวกัน ถูกชายฉกรรจ์ชาวจีนไม่ทราบจำนวน ลักพาตัวไป พร้อมกับ รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน เทอร่า สีดำ ขณะกำลังขับรถกลับบ้านพัก หลังไปส่งลูกชาย อายุ 3 ขวบ ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง โดยออกจากโรงเรียนมาได้เพียง ไม่ถึง 3 กม. ก็ถูกก่อเหตุลักพาตัวไป
ซึ่งพฤติกรรมของคนร้าย ได้ขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้าบังคับให้จอดรถ จากนั้นคนร้ายได้กระโดดขึ้นรถของภรรยา และขับพาไปทั้งคนและรถ จากนั้นคนร้ายได้ใช้ แอปพลิเคชั่น “วี แชท” โทรกลับมา เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทย 4.7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดภายใน ซอยชัยพรประนิมิตร 21 ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด ช่วงค่ำที่ผ่านมา (20 มีนาคม 2566) บรรยากาศบ้านพักของนายหมิง ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีตำรวจหลายนายที่มาติดตามในคดีนี้คอยดูแลตลอดเวลา พร้อมกับล่ามแปลภาษา เบื้องต้นกลุ่มคนร้ายชาวจีน ยังโทรมากดดันเร่งรัดเอาเงินเรียกค่าไถ่ ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้ว 11 ชม. คนร้ายไม่มีท่าทีจะยอมปล่อยตัวประกัน พร้อมทั้งขู่ นายหมิง ว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเมียอีก หากไม่ทำตามข้อเรียกร้อง
แต่ทางนายหมิง อ้างมีเงินไม่พอกำลังหาเงินอยู่ แต่มีการโอนเงินให้ไปบางส่วนไปแล้ว โดยมีการโอนผ่านสกุลเงินลิจิตอล หรือเหรียญคริปโต ไปแล้วจำนวน 500 ยูเอสดีที คิดเป็นเงินไทย 17,140 บาท แต่กลุ่มคนร้ายยังต้องการเงินเพิ่มอีก โดยต้องการเงินสกุลลิจิตอล เหรียญคริปโต จำนวน 150,000 ยูเอสดีที เพื่อแลกกับการปล่อยตัว
ส่วนเหยื่อที่ถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ มีการพูดคุย แบบวีดีโอคอล พบว่ายังปลอดภัย และได้รับดูแลเป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุที่ถูกก่อเหตุ น่ามาจากเรื่อง การขัดผลประโยชน์ ธุรกิจสถานพยาบาล ในพื้นที่ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับ ท่าขี้เหล็ก จ.เชียงราย
ขณะที่ สภ.หนองปรือ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมากำกับดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมเรียกประชุม ทีมฝ่ายสืบสวน ทั้งสืบสวน สภ.หนองปรือ สืบสวนจังหวัด และสืบสวนภาค 2 พร้อมทั้งนำรถจับสัญญาณโทรศัพท์ เข้ามาในพื้นที่ เพื่อหาแหล่งซ่อนตัว และจุดที่ใช้ในการเจรจาต่อรองในการเรียกค่าไถ่ พร้อมทั้งเร่งหาวิธีเข้าช่วยเหลือตัวประกัน โดยกลุ่มคนร้ายยังคงสับขาหลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา โดยมีการสับเปลี่ยนสถานที่ที่ใช้เจรจาตลอดเวลา ลักษณะยังคงขับรถวนไปมาในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี