20 พฤศจิกายน 2565 พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพบศพ นางจันทิรา แก้วป้องปก อายุ 58 ปี อดีตแม่ค้าไก่ทอด เสียชีวิตอยู่ในตู้แช่ไก่ ซึ่งไม่ได้ใช้งานแล้วแต่ไม่ได้เสียบปลั๊ก ภายในบ้านแห่งหนึ่งที่ ชุมชน ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์
โดยผู้พบศพคือ นายอัครพล สุวรรณพฤกษ์ อายุ 33 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากตู้แช่จึงเปิดออกดูถึงกับผงะตกใจสุดขีด เพราะแม่หายออกจากบ้านไปเป็นเวลา 4 วัน ก่อนจะมาเจอศพเมื่อวาน ( 19 พ.ย.65 ) ซึ่งแม่มีประวัติป่วยรักษาอาการจิตเวช และลูกชายอ้างว่าแม่เครียดจากการถูกทวงหนี้สิน จากเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบ นอกจากนี้ยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือทิ้งไว้ทำนองตัดพ้อชีวิตที่สร้างภาระหนี้สินให้กับสามีและลูกต้องตามชดใช้ จนมาพบศพเสียชีวิตอย่างปริศนาในตู้แช่ไก่ ทางครอบครัวยังติดใจในสาเหตุการตายว่าฆ่าตัวตายเอง หรืออาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่นั้น
ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเชิญตัว นายอัครพล สุวรรณพฤกษ์ อายุ 33 ปี บุตรชาย และ นายธีรยุทธ สุวรรณพฤกษ์ อายุ 57 ปี สามีผู้เสียชีวิต มาสอบปากเพิ่มเติมอย่างละเอียด แต่ไม่พบพิรุธใดๆ พร้อมให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและหาเบาะแสต่างๆ ในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียง รวมถึงกล้องวงจรปิดละแวกดังกล่าว โดยพบว่าจุดเกิดเหตุมีทางเข้าออกทางเดียว มีบ้านหลายหลังปลูกติดกัน ถ้ามีใครทำอะไรจะต้องมีชาวบ้านในชุมชนรู้เห็นอย่างแน่นอน
ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมผู้เสียชีวิตหายตัวไปคนในบ้านถึงไม่มีการแจ้งความคนหายนั้น เนื่องจากทางครอบครัวและญาติๆ ได้ออกติดตามค้นหาแล้ว เพราะผู้เสียชีวิต มักจะขี่รถจักรยานยนต์ของตนเอง หนีหายออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ ที่ผ่านมาเคยมีการแจ้งความคนหายไว้ที่โรงพักแต่ครั้งนี้ไม่ได้แจ้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เก็บดีเอ็นเอคนในครอบครัวประกอบเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ แต่ตอนนี้จะต้องรอผลตรวจชันสูตรพลิกศพทางนิติวิทยาศาสตร์จากแพทย์ เพื่อจะลงความเห็นชัดเจนว่าศพมีบาดแผลฟกช้ำจุดใดหรือร่องรอยการถูกทำร้ายก่อนเสียชีวิตหรือไม่ เพราะว่าขณะพบศพก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว จึงกลายสภาพจากเดิมไม่สามารถระบุได้ทันทีว่าเสยชีวิตด้วยสาเหตุใด
ซึ่งคาดว่าผลจากแผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก จะออกในวันพรุ่งนี้ ( 21 พ.ย.65 ) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานและหลักฐานสำคัญต่างๆ ประกอบสรุปสำนวนคดี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป