นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนายปวัตร์ นวะมะรัตน รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) และคณะอนุกรรมการฯ ที่เดินทางไปติดตามตรวจเยี่ยมโครงการแก้มลิงบ้านนาเบี้ย พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โดยมีนายจรินทร์ เทือกถา ตัวแทนจากราษฎรบ้านนาเบี้ย ตำบลนาโป่ง อำเภอเถิง จังหวัดลำปาง ในฐานะสมาชิกเทศบาล ตำบลนาโป่ง กล่าวสรุปรายงานผลการดำเนินโครงการฯ เมื่อวันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
“เมื่อก่อนขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก หลังก่อสร้างแก้มลิงบ้านนาเบี้ยแล้วเสร็จก็มีน้ำเพียงพอ แต่ช่วงนี้น้ำจะขุ่นไม่สามารถนำมาใช้ผลิตเป็นประปาหมู่บ้านได้ ตอนนี้ได้ปรึกษากับส่วนที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ คาดว่าไม่นานก็จะมีการสร้างระบบประปาหมู่บ้านเพื่อให้ชาวบ้านได้มีน้ำอุปโภคบริโภคที่สะอาดต่อไป” คำกล่าวจากราษฎรบ้านนาเบี้ย
โครงการแก้มลิงบ้านนาเบี้ยพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเถิน จังหวัดลำปางเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 เพื่อช่วยเหลือราษฎรบ้านนาเบี้ย หมู่ที่ 7 ตำบลนาโป่ง อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ซึ่งขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร โดยการพัฒนาแหล่งน้ำเดิมให้สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ต่อมา ปี 2564 กปร. ได้สนับสนุนงบประมาณให้กรมชลประทานก่อสร้างฝายคอนกรีต พร้อมอาคารประกอบ เพื่อผันน้ำเข้าสู่พื้นที่กักเก็บน้ำ และส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรในพื้นที่แล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ช่วยให้ราษฎร 2 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านนาเบี้ย และบ้านนาเบี้ยหลวง ตำบลนาโป่ง มีน้ำอุปโภคบริโภค จำนวนรวม 1,193 คน 321 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรประมาณ 500 ไร่ ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ใช้น้ำจำนวน 1 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้น้ำแก้มลิงบ้านนาเบี้ย มีสมาชิก จำนวน 265 ราย ร่วมกันบริหารจัดการน้ำตลอดจนช่วยกันดูแลรักษาแหล่งน้ำให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน
นายพลากร สุวรรณรัฐ กล่าวว่า ดีใจกับชาวบ้าน ที่วันนี้มีน้ำเพียงพอสำหรับการใช้ประโยชน์ ในส่วนที่จะต้องดำเนินการต่อเพื่อให้การใช้น้ำที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การนำมาผลิตน้ำประปานั้นเนื่องจากแก้มลิงสร้างเสร็จ และพึ่งเก็บกักน้ำไม่นานมานี้สภาพน้ำจึงขุ่นแดงไม่สามารถนำมาเป็นประปาเพื่อใช้ในหมู่บ้านได้ทันที ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางอำเภอเถิง และจังหวัดลำปาง ก็จะร่วมกันหาแนวทางดำเนินการแก้ไขกันต่อไป แต่คาดว่า ไม่นานเมื่อน้ำมีการตกตะกอนของน้ำการนำมาใช้ผลิตประปาหมู่บ้านก็คงจะดำเนินการได้ตามที่ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการ
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 รับสั่งอยู่เสมอว่า น้ำ คือ ชีวิต ท่านทรงสอนว่าถ้าเราไม่ได้กินน้ำ 3 วันจะตาย ไม่ตายก็ร่อแร่ แต่ถ้าอดอาหารจะอยู่ได้ 10 - 20 วัน และน้ำไม่ใช่แค่เพียงใช้ดื่มเท่านั้น น้ำเป็นแหล่งผลิตอาหารพืชพันธุ์ธัญญาหารล้วนแต่อาศัยน้ำทั้งสิ้น ประเทศไทยน้ำมาจากฟ้าอย่างเดียว แต่บางประเทศที่มีอากาศหนาวจัดจะมีหิมะตกลงมาสะสมอยู่บนภูเขา พออากาศร้อนขึ้นหิมะก็ละลายออกมาเป็นหยดน้ำไหลรินเป็นห้วยเล็ก ห้วยน้อย รวมเป็นแม่น้ำ แต่ฝนจากฟ้าจะมีน้อย บ้านเราน้ำมาจากฟ้าเท่านั้น แต่ฟ้าจะให้ฝนก็ต่อเมื่อพื้นที่มีความชื้นที่เพียงพอ มีต้นไม้ที่เป็นแหล่งผลิตความชื้น มีกลุ่มเมฆเกิดการก่อตัวของเมฆฝนแล้ว ก็จะมีฝนก็ตกลงมา ต้นไม้หรือป่าเขาก็ช่วยซับน้ำไว้ เวลาฝนตกน้ำจะไหลลงมาตามลำต้นของต้นไม้ไปเก็บไว้ที่รากแล้วค่อยปล่อยไหลรินตามลำห้วยเล็กห้วยน้อยเป็นแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน แต่ฝนจะไม่ตกหากเราไม่มีป่า เราไม่มีหิมะที่จะเก็บไว้บนภูเขาเหมือนประเทศเมืองหนาว พระองค์ท่านรัชกาลที่ 9 ทรงสอนไว้ดี สอนให้พวกเราช่วยกันตระหนักในเรื่องนี้” องคมตรีกล่าว
ทางด้านนางสาวภัสร์วรา ขีดทาน ตัวแทนราษฎร ต.นาโป่ง อ.เถิง จ.ลำปาง ในฐานะผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการแก้มลิงบ้านนาเบี้ยพร้อมระบบส่งน้ำฯ ต.นาโป่ง อ.เถิง จ.ลำปาง กล่าวว่า ราษฎรตำบลนาโป่งรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้ารับโครงการแก้มลิงบ้านนาเบี้ย พร้อมระบบส่งน้ำไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
“โครงการนี้ช่วยให้ราษฎรมีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคอย่างพอเพียงตลอดทั้งปี ทำให้มีสุขภาพพลานามัยที่ดีขึ้น และสามารถทำการเพาะปลูกพืชได้หลากหลาย พวกเราราษฎรตำบลนาโป่งรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจะช่วยกันดูแลโครงการฯ ให้เกิดประโยชน์แก่ราษฎรในพื้นที่อย่างดีที่สุด” นางสาวภัสร์วรา ขีดทาน กล่าว