25 กันยายน 2565 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นครั้งที่ 5 โดยพลเอกประวิตร เดินทางมาถึงยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 09.05 น. พร้อมกับปฏิเสธการตอบคำถามถึงกระแสข่าว จะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามไทม์ไลน์ ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ประกาศไว้ รวมไปถึงกระแสข่าวการก่อรัฐประหาร ก่อนที่จะเดินเข้าตึกสันติไมตรีในทันที ซึ่งการประชุมในครั้งนี้หลายคนจับตาว่า จะเป็นการทำหน้าที่ประธานการประชุมของพลเอกประวิตรเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 30 กันยายนนี้ ในประเด็นการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในที่ประชุมครม.จะมีการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัด และเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นโนรู ช่วงวันที่ 27-29 ก.ย. ที่น่าเป็นห่วงคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นต้นน้ำของลุ่มน้ำป่าสัก แนวเขาใหญ่ภาคตะวันออก ที่ขณะนี้เกิดน้ำท่วมหนัก หลังจาก พลเอกประวิตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันในการเร่งช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังติดตามในประเด็นการติดป้ายต้อนรับพลเอกประวิตร และนายสันติ พร้อมพัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีภาพของ ส.ส.และ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.เพชรบูรณ์ จะเป็นการเข้าข่ายหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ หลังมีประกาศระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 และฝ่ายค้านมองว่า ยังไม่มีการอธิบายที่ชัดเจนจะเป็นช่องว่างให้เกิดการเอาเปรียบและกลั่นแกล้งกันได้
ขณะที่ก่อนการประชุม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนำคณะเข้าพบ พลเอกประวิตร ในฐานะรักษาการ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดแสดงนิทรรศการ เอเปค 2022 สัญจร" APEC พร้อม ไทยพร้อม "
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหาร เข้าพบพลเอกประวิตร เพื่อนำเสนอโครงการปลูกจิตสำนึกและสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย “ธงไตรรงค์ ธำรงไทย”
สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจ กระทรวงสาธารณสุข เสนอที่ประชุมพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน10,577 คน รวม 1,050,306 คน ช่วงเดือนมิ.ย. – ก.ย. 65 รวม4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ จะมีการเสนอให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยุบศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 บังคับใช้แทน