สื่อรายงานอ้างข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ของทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ว่า จีนเผชิญอัตราภาษีศุลกากรเป็น 245% สำหรับสินค้านำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยเป็นผลจากการตอบโต้ต่อสหรัฐฯ ข่าวนี้สร้างความสับสนว่าเป็นการปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ อาจเป็นยอดรวมของภาษีทั้งหมดที่สะสมรวมกัน
และเมื่อผู้สื่อข่าวซักถามเรื่องนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน บอกให้ไปขอคำตอบจากฝั่งสหรัฐฯ
ส่วนความเห็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ล่าสุด ที่บอกให้จีนเป็นฝ่ายขอเจรจาก่อนเพื่อคลี่คลายสงครามการค้า โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ย้ำว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเริ่มต้นสงครามภาษีก่อน และไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษีและสงครามการค้า รวมทั้งจีนไม่อยากต่อสู้ แต่ก็ไม่กลัวการต่อสู้
นอกจากนี้โฆษกฯ บอกอีกว่า หากสหรัฐฯ ต้องการเจรจาอย่างแท้จริง จะต้องหยุดใช้แรงกดดัน การข่มขู่ และการแบล็กเมล และเจรจากับจีนด้วยความเท่าเทียม การเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน
เรื่องตัวเลขภาษี 245% ยังไม่ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลสหรัฐฯ แต่จนถึงขณะนี้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่ 145% และจีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ 125% และระงับการนำเข้าข้าวฟ่าง, สัตว์ปีก และกระดูกป่น รวมถึงขึ้นบัญชีดำที่จำกัดการค้ากับบริษัทอเมริกันอีก 27 แห่ง และยื่นฟ้องกับองค์การการค้าโลก
ชณะที่ WTO ประเมินว่า มาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อโลก และมูลค่าการจำหน่ายสินค้าในโลกอาจลดลง 0.2% ในปีนี้ แต่ยังมีความเสี่ยงที่อาจถึงขั้นดิ่งลงรุนแรง 1.5%