ดัชนี Taiex ของไต้หวัน พุ่งขึ้น 9.3%, ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 8.2% ,ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ บวกขึ้น 5.9% และดัชนี Shanghai Composite ของจีน ปรับขึ้น 1.2% ในช่วงการซื้อขายภาคเช้าของวันพฤหัสบดี (10 เมษายน) โดยนักลงทุนโล่งอกหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อระงับการเก็บภาษีตอบโต้กับเกือบ 60 ประเทศและดินแดน ที่เพิ่งบังคับใช้เมื่อวันพุธ (9 เมษายน) เป็นเวลา 90 วัน แต่จะยังคงเก็บภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 เมษายน
แต่ทรัมป์ประกาศปรับขึ้นภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 125% โดยให้มีผลบังคับทันที โดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 104% ที่เริ่มมีผลเมื่อวันพุธ เพื่อตอบโต้ที่จีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ เป็น 84% ทรัมป์โพสต์ในทรูธ โซเชียลด้วยว่า เขาหวังว่า ในอนาคตอันใกล้จีนจะตระหนักว่า การขูดรีดขูดเนื้อกับสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ไม่อาจทำได้หรือยอมรับได้อีกต่อไป
และหลังการประกาศของทรัมป์ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ บอกว่า การระงับภาษีเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของทรัมป์ และรัฐบาลจะยังคงหารือกับประเทศต่าง ๆ ที่ขอเจรจาเรื่องภาษีในช่วง 90 วันนี้
แม้การระงับภาษีของทรัมป์สร้างความโล่งใจแก่นักลงทุน แต่นักเศรษฐศาสตร์ มองว่า ยังคงมีความเสี่ยงเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะทรัมป์ยังเก็บภาษี 10% กับประเทศส่วนใหญ่ และโดยเฉพาะยังคงเก็บภาษีกับจีน, เหล็กและอะลูมิเนียม และรถยนต์ จึงยังไม่อาจขจัดความไม่แน่นอนที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญได้
อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยภายในปีนี้จากเดิมมีโอกาส 65% ลดลงเหลือ 45% ตามที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้