บริษัทในญี่ปุ่นตกลงขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 34 ปี

การเจรจาระหว่างเรนโก ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และบริษัท 760 แห่งสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในวันศุกร์ (14 มีนาคม) โดยบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดหลายรายตกลงปรับขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ยกว่า 5% ในปีนี้

เรนโก ซึ่งมีสมาชิกราว 7 ล้านคน ประกาศว่า สมาชิกจะได้รับการขึ้นค่าจ้าง 5.46% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อ และเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 34 ปี

แต่บริษัทขนาดเล็กและกลาง 351 แห่ง ที่มีลูกจ้างไม่ถึง 300 คน ตกลงขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย 5.09% ซึ่งต่ำกว่าที่เรนโกตั้งเป้าที่ 6% โดยเรนโกคาดหวังว่าจะลดช่องว่างระหว่างค่าจ้างในบริษัทใหญ่และเล็ก แต่การเจรจาจะยังจัดต่อเนื่องจนถึงเดือนเมษายน-พฤษภาคม

การปรับขึ้นค่าจ้างถูกมองว่าเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อบรรเทาปัญหาราคาสินค้าแพงขึ้นทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น หลายบริษัทที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์โดยได้อานิสงส์จากเงินเยนอ่อนค่า เลือกขึ้นค่าจ้างเพื่อรักษาแรงงานไว้ ในช่วงที่กำลังมีการขาดแคลนแรงงาน และรัฐบาลคาดหวังว่า การขึ้นค่าจ้างของภาคเอกชนจะทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากความกังวลของยุคเงินฝืด และกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

แต่นักเศรษฐศาสตร์ยังไม่มั่นใจนักว่า ค่าจ้างที่สูงขึ้นจะเพียงพอทำให้ผู้บริโภคยอมควักเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นหรือไม่ ในขณะที่ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภค ซึ่งรวมถึง อาหารสด มีราคาสูงขึ้น 4% ในเดือนมกราคม ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 2 ปี