ทาเคชิ เอบิซาวะ หัวหน้าแก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่น วัย 60 ปี ให้การต่อศาลนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ โดยสารภาพว่ากระทำความผิดทั้ง 6 กระทง เกี่ยวกับการลักลอบค้าวัตถุนิวเคลียร์ ค้าอาวุธ และค้ายาเสพติด ศาลนัดอ่านคำตัดสินโทษในวันที่ 9 เมษายน ขณะที่ข้อหาลักลอบค้าวัตถุนิวเคลียร์ข้ามชาติมีโทษสูงสุด คือ จำคุก 20 ปี
สำนักงานปราบปรามยาเสพติด หรือ ดีอีเอ ของสหรัฐฯ เริ่มดำเนินการสอบสวนในปี 2564 และพบว่า เอบิซาวะพยายามเสนอขายวัตถุนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงยูเรเนียมและพลูโตเนียมเกรดผลิตอาวุธจากเมียนมา ให้กับบางคนที่เขาเชื่อว่าเป็นนายพลชาวอิหร่าน ซึ่งแท้จริงเป็นเจ้าหน้าที่ดีอีเอที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้ายาเสพติดและอาวุธ
เขาบอกกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธในเมียนมาสามารถขายวัตถุนิวเคลียร์ผ่านเขาเพื่อหาเงินไปซื้ออาวุธครั้งใหญ่ และแนะนำให้เจ้าหน้าที่คนนี้ได้รู้จักเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติของเขาที่กระจายอยู่ทั้งในญี่ปุ่น ไทย เมียนมา ศรีลังกา สหรัฐฯ และอีกหลายแห่ง เพื่อหวังจัดการซื้อขายยาเสพติดและอาวุธครั้งใหญ่
ขณะเดียวกันเขายังสมคบคิดจัดซื้ออาวุธหนัก เช่น ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ของสหรัฐฯ ให้กับกลุ่มติดอาวุธในเมียนมา และได้รับเฮโรอีนและเมทแอฟเฟตามีนปริมาณมากเป็นค่าตอบแทน และส่งยาเสพติดเข้าไปขายในสหรัฐฯ แล้วฟอกเงินที่ได้ส่งไปโตเกียว
ในปี 2565 ทางการสหรัฐฯ จับกุมเขาในข้อหาวางแผนจัดจำหน่ายยาเสพติดในสหรัฐฯ และซื้อขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศที่ผลิตในสหรัฐฯ นอกจากนี้เมื่อต้นปี 2567 เขาถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับความพยายามขายวัตถุนิวเคลียร์จากเมียนมา
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การจับกุมและดำเนินคดีกับเอบิซาวะ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งในอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และไทย
ภาพ via Reuters