ศาลเกาหลีใต้ออกหมายควบคุมตัวประธานาธิบดียุน ซอก ยอล

ศาลแขวงตะวันตกกรุงโซลอนุมัติเมื่อวันอังคาร (31 ธันวาคม) ตามคำร้องขอจากสำนักงานสอบสวนคดีทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง หรือ ซีไอโอ  ให้ออกหมายควบคุมตัวประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ในข้อหาบงการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 , การก่อบกฏ และการใช้อำนาจในทางมิชอบ นอกจากนี้ศาลยังอนุมัติหมายค้นบ้านพักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีในย่านยองซานของกรุงโซลเพื่อค้นหาหลักฐานประกอบการสอบสวนด้วย

ซีไอโอยื่นขอหมายควบคุมตัวหลังนายยุนไม่ยอมไปให้ปากคำตามหมายเรียก 3 ครั้ง   เจ้าหน้าที่ซีไอโอ เปิดเผยว่า หมายควบคุมตัวจะมีผลบังคับใช้ได้นาน 1 สัปดาห์ และหากมีการควบคุมตัว นายยุนอาจถูกไปคุมขังที่ศูนย์ควบคุมตัวที่อุยวัง ทางตอนใต้ของกรุงโซล แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการควบคุมตัวเมื่อใด โดยจะต้องมีการพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ

และหากนายยุนถูกควบคุมตัแล้ว ซีไอโอจะมีเวลาตัดสินใจภายใน 48 ชม. เพื่อยื่นขอหมายจับเพื่อดำเนินการจับกุมตัวไว้สอบปากคำ หรือปล่อยตัว

ศาลให้เหตุผลการออกหมายควบคุมตัวและหมายค้น โดยไม่เห็นด้วยกับคำอ้างของนายยุนว่า ซีไอโอไม่มีอำนาจสอบสวนคดีกบฏ และคำขอหมายควบคุมตัวจึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลไม่เห็นด้วยกับคำอ้างที่ว่า เขาไม่อาจไปให้ปากคำเพราะยังไม่มีการทำข้อตกลงเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลสำหรับเขาและรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย

แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ซีไอโอจะสามารถควบคุมตัวนายยุนได้หรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีเคยขัดขวางไม่ให้ชุดสอบสอบเข้าตรวจค้นทั้งทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านพักประจำตำแหน่งประธานาธิบดีของนายยุนตามหมายค้นที่ศาลอนุมัติเมื่อเร็ว ๆ นี้

และทนายของนายยุน คัดค้านว่า หมายควบคุมตัวและหมายค้นไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีผล เพราะซีไอโอไม่มีอำนาจสอบสวนข้อหาก่อกบฏ และยืนยันว่า การประกาศกฏอัยการศึกเป็นอำนาจของประธานาธิบดีภายใต้รัฐธรรมนูญ และประธานาธิบดีใช้อำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่เพื่อปกป้องความสงบเรียบร้อย

แต่ซีไอโอ ยืนยันว่า หมายควบคุมตัวหรือหมายจับที่ออกโดยศาลไม่สามารถถูกขัดขวางได้

นายยุนถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่หลังจากรัฐสภาผ่านมติถอดถอนประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกที่บังคับใช้ได้เพียง 6 ชม.และสภาลงมติคว่ำคำประกาศดังกล่าว และศาลรัฐธรรมนูญเริ่มเปิดกระบวนการพิจารณาคดีถอดถอนประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดให้เขาพ้นจากตำแหน่ง หรือให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งได้ต่อไป