ฮัน ด็อก ซู รักษาการประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ นาน 16 นาทีในวันอาทิย์ (15 ธันวาคม) หลังรัฐสภาลงมติเมื่อวันเสาร์ถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอก ยอล และมีผลให้เขาต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 19.24 น. ตามเวลาท้องถิ่น
นายฮันให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะยังปฏิบัติตามนโยบายทางการทูตและความมั่นคงโดยไม่หยุดชะงัก และจะทำงานเพื่อให้ความเป็นพันธมิตรของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ยังคงพัฒนาต่อเนื่อง
แถลงการณ์ของทางการเกาหลีใต้ ระบุด้วยว่า ไบเดน กล่าวแสดงความมั่นใจต่อประชาธิปไตยในเกาหลีใต้ และยืนยันว่า ความเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ที่แข็งแกร่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเขาจะยังคงทำงานร่วมกับเกาหลีใต้เพื่อพัฒนาความพันธมิตรของสองประเทศ
ขณะที่ในเช้าวันอาทิตย์ สื่อเกาหลีเหนือยังไม่มีรายงานใด ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเกาหลีใต้ แตกต่างจากเมื่อปี 2559 ที่เกาหลีเหนือรายงานอย่างรวดเร็วเมื่อรัฐสภาเกาหลีใต้มีมติถอดถอนประธานาธิบดีพัก กึน ฮเย และสื่อเกาหลีเหนือรายงานเรื่องประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึก หลังเวลาผ่านไปแล้วเกือบหนึ่งสัปดาห์
นายฮัน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี รักษาการตำแหน่งประธานาธิบดี แทนนายยุนที่ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากรัฐสภาลงมติด้วยเสียง 204 เสียง ต่อ 85 เสียง เห็นชอบญัตติถอดถอนประธานาธิบดีเมื่อวันเสาร์ และศาลรัฐธรรมนูญมีเวลา 180 วัน เพื่อพิจารณาว่าจะรับรองมติถอดถอนหรือไม่ ซึ่งหากผู้พิพากษามีมติอย่างน้อย 6 เสียงจาก 9 เสียง ให้ถอดถอน เขาจะต้องพ้นจากตำแหน่ง และมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 60 วัน
นายฮันปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาการประธานาธิบดีทันทีด้วยการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล และย้ำภารกิจสำคัญในการดำเนินงานของรัฐบาลอย่างมีเสถียรภาพ และทำให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ นอกจากนี้เขาแถลงต่อประชาชนเพื่อขอโทษต่อสถานการณ์ในประเทศขณะนี้ และสัญญาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
หลังจากนั้นเขาเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเรียกร้องให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่สำหรับการยั่วยุใด ๆ จากเกาหลีเหนือ
ขณะที่ฝูงชนที่ชุมนุมเรียกร้องให้ถอดถอนยุนต่างโห่ร้องด้วยความยินดีหลังทราบผลมติของสภา และคนหนึ่ง บอกว่า ดีใจที่ยังคงรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ และสมาชิกรัฐสภาไม่ควรลืมฟังเสียงของประชาชนอีกในอนาคต ส่วนอีกคนหวังว่านายยุนจะพ้นจากตำแหน่งโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้
และอี แจ มยอง หัวหน้าพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด บอกกับฝูงชนว่า เราประสบชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ เพราะทุคนออกมารวมตัวหน้ารัฐสภาและเรียกร้องอย่างแรงกล้าให้ปกป้องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย และเขาเรียกร้องให้มีการปลดนายยุนพ้นตำแหน่งโดยเร็ว