15 ธันวาคม 2567 ช่วงเช้าวันนี้ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี และ ชุดสืบสวนกองบังคับการปราบปราม พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ นำกำลังกว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ
เปิดปฏิบัติการ "ทลายรังโจร" เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด กับ 4 ตัวบุคคล ในพื้นที่ อ.บ้านสร้าง และ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี โดยทั้ง 4 คนของพื้นที่เป้าหมาย เป็นลูกน้องและคนใกล้ชิดของ “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์
โดยหนึ่งในเป้าหมาย สำคัญ คือ บ้านของ นายกู้เกียรติ แสงจันทร์ หรือผู้ใหญ่แอ๊ด อยู่ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยแนวทางการสืบสวนพบว่า ผู้ใหญ่แอ๊ด เป็นลูกน้องคนสนิทของโกทร มีการสะสมอาวุธปืนเป็นจำนวนมาก และยังพบข้อมูลอีกว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 11 ธ.ค. 67 ผู้ใหญ่แอ๊ด เข้าไปที่บ้านของโกทร แล้วกลับออกมาจากบ้าน ก่อนที่ สจ.โต้ง จะเข้าไปหาโกทร แล้วถูกยิงเสียชีวิต
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านพัก ซึ่งภายในนี้มีบ้านพักทั้งหมด 2 หลัง เป็นบ้านสวนลุงแอ๊ด 1 หลัง และเป็นห้องที่มีป้ายติดชื่อไว้ว่า “กู้เกียรติ แสงจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมปี 2555” อีก 1 หลังซึ่งถูกใช้เป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และด้านหลังเป็นโรงงานรีไซเคิลขยะของเก่า มีเนื้อที่ขนาดประมาณ 3 ไร่เศษ
ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษจึงได้เรียกบุคคลที่อยู่ในบ้าน และเข้าแสดงหมายค้น เพื่อทำการตรวจสอบ
แต่จากการเข้าตรวจค้น ไม่พบตัวของผู้ใหญ่แอ๊ด พบเพียง พี่เขยของผู้ใหญ่แอ๊ด และคนงานที่บ้านอีก 1 คน จากนั้นตำรวจได้เข้าตรวจค้นภายในห้องนอน พบอาวุธปืน 2 กระบอก คือ ขนาด .38 ยี่ห้อ taurus จำนวน 1 กระบอกอาวุธปืน และขนาด .38 ยี่ห้อรูเกอร์จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 13 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 22 นัด
เบื้องต้นสอบถามกับ พี่เขยของผู้ใหญ่แอ๊ด บอกว่า มาคอยดูแลบ้านใหญ่ผู้ใหญ่แอ๊ด 2 ปีแล้ว หลังจากเกษียณ ซึ่งผู้ใหญ่แอ๊ะ ไปๆมาๆที่บ้านหลังนี้ เพราะ เป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ก็มักจะมีลูกบ้าน เพื่อนๆ แวะเวียนเข้ามาพูดคุย ซึ่งตนเองไม่ทราบว่า ผู้ใหญ่แอ๊ดไปไหน เพราะติดต่อไม่ได้ และส่วนตัวเจอกับผู้ใหญ่แอ๊ดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
และตนเองก็ไม่ทราบว่า ผู้ใหญ่แอ๊ด สนิทกับโกทร หรือไม่ รวมถึงไม่เคยพูดคุยกันในเรื่องการเมือง หรือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับโกทร และสจ.โต้ง และตนเองก็ไม่มั่นใจว่า วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุ ผู้ใหญ่แอ๊ดมาที่บ้านหรือไม่ พร้อมยอมรับว่า ปืนที่พบ 2 กระบอกเป็นของตนเอง และมีทะเบียนถูกต้อง
นอกจากนี้ตำรวจยังเข้าตรวจค้น บ้านพักของ นายจำรัส หอมชิต หรือโจ้ ดำเนิน โดยแนวทางการสืบสวนพบว่า นายโจ้ เป็นลูกน้องคนสนิทของโกทร และในวันเกิดเหตุ 11 ธ.ค. พบว่า นายโจ้ เข้าไปที่บ้านโกทร ก่อนที่จะกลับออกมา แล้ว สจ.โต้ง ก็เข้าไป ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต
ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบว่า บ้านของนายโจ้ เปิดเป็นโรงงานรีไซเคิลขยะ และพบเพียงแม่และคนในครอบครัวของนายโจ้ ไม่พบตัวของนายโจ้ อยู่ภายในบ้าน
โดยนักข่าวได้ไปสอบถามกับ คนงานที่ดูแลโรงงานรีไซเคิล ของนายโจ้ บอกเพียงว่า นายโจ้ ไม่ได้กลับมาที่บ้าน เพราะปกติจะอยู่กรุงเทพ และกลับมาล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตนเองจำไม่ได่ว่าวันไหน และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ของนายโจ้ กับ โกทร แต่กับ ผู้ใหญ่แอ๊ด ยอมรับว่า นายโจ้ ก็รู้จักเพราะทำธุรกิจขยัรีไซเคิล ด้วยกัน
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เป้าหมายในอำเภอประจันตคาม 1 จุด ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมพงษ์ สุขเกษม ลูกน้องคนสนิทของโกทร โดยพบ อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. และเครื่องกระสุน 43 นัด และซองบรรจุกระสุน 1 ซอง ซึ่งมีทะเบียนปืนถูกต้อง แต่ตำรวจยึดไว้เพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม
อีก 1 จุดที่เข้าตรวจค้นคือในพื้นที่ อำเภอ บ้านสร้าง เป็นของ นายพงศกร พงษ์คุณ เลขาของโกทร โดยตรวจพบ อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ .22 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด รวมถึงเครื่องกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด
จากนั้นจึงได้นำตัว นายพงศกร มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี
เผย ปมพิรุธ บ่งชี้ จัดฉากลวงฆ่า ส.จ.โต้ง หลังพบกลุ่มลูกน้องใส่รองเท้าผ้าใบเดินในบ้าน ซ้ำขึ้นลงชั้นพื้นที่ส่วนตัวได้ตามอำเภอใจ คล้ายเตรียมพร้อมปะทะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุรวมถึงสอบปากคำพยานผู้เหตุการณ์และบุคคลใกล้ชิดต่างๆ เจ้าหน้าที่พบข้อพิรุธทางคดีหลายอย่างที่บ่งชี้ ว่า การเสียชีวิตของ สจ.โต้ง นั้น ไม่ใช่เหตุการณ์ซึ่งหน้า แต่น่าจะมีการวางแผนหรือเตรียมการมาก่อนที่ สจ.โต้ง จะเดินทางเข้ามาเจรจาปัญหากับ นายสุนทร หรือ โกทร
โดยเฉพาะข้อพิรุธเกี่ยวกับการแต่งกายของกลุ่มลูกน้องนายสุนทร ในวันเกิดเหตุ ที่พบว่า กลุ่มลูกน้องที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน และ คนคอยคุมเชิงคุ้มกัน แต่ละคนล้วนสวมใส่รองเท้าผ้าใบเดินเข้าออกในบ้านตลอดเวลา ผิดปกติวิสัยของคนทั่วไปที่มักจะถอดรองเท้า ก่อนจะเข้ามาเดินภายในบ้าน คล้ายกับการแต่งตัวให้ทะมัดทะแมง เพื่อเตรียมพร้อมก่อเหตุตลอดเวลา
นอกจากนี้จากการสอบปากคำคนใกล้ชิดของ นายสุนทร ที่เข้าออกบ้านหลังดังกล่าวเป็นประจำ ยังพบว่า ปกติแล้ว นายสุนทร จะไม่อนุญาตให้ลูกน้อง ขึ้นไปบนขั้น 2 ของตัวบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ในวันเกิดเหตุพบว่ากลุ่มลูกน้องของนายสุนทร สามารถเดินขึ้นลงชั้น 2 ได้ตลอดเวลา
สอดคล้องข้อมูลที่พบว่าช่วงระยะหลัง นับตั้งแต่ที่ นายสุนทร เร่ิมบาดหมางกับ สจ.โต้ง ก็เริ่มมีการคัดกรองคนเข้าออกภายในบ้านมากขึ้น รวมถึงไม่อนุญาตให้ผู้ลูกน้องของ สจ.โต้ง ที่ติดตามมาด้วย เข้ามายืนอยู่ในชายคาบ้าน โดยจะให้ยืนรอที่บริเวณด้านหน้ารั้วบ้านแทนเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็จากข้อพิรุธหลากหลายประเด็นดังกล่าว ประกอบกับมูลเหตุแรงจูงใจต่างๆ ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ปักใจเชื่อว่า การสังหาร สจ.โต้ง นั้น น่าจะมีการวางแผนตระเตรียมการมาก่อนหน้าที่ สจ.โต้ง จะเดินทางมาถึง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการถูกเข้าตรวจค้นบ้านพักในครั้งนี้ นายพงศกร ยืนยันว่า ปืนเป็นของพ่อ มีทะเบียนถูกต้อง แต่มีกระสุนที่ไม่ใช่ของปืน ถูกเก็บไว้ในเซฟนานแล้ว วันนี่จึงมาให้ปากคำกับตำรวจ และยืนยันว่าการปราบผู้มีอิทธิพลของตำรวจไม่ได้ทำให้ตนเองกังวลใจ เพราะไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักผู้ใหญ่แอ๊ดเพราะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเหมือนกัน