อาบู โมฮัมเม็ด อัล-โจลานี ผู้นำกบฏซีเรียกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม หรือ เอชทีเอส ซึ่งขณะนี้กลับมาใช้ชื่อจริงของตัวเองว่า อาห์เหม็ด อัล-ชารา พบหารือกับโมฮัมเหม็ด กาซี อัล-จาลาลี นายกรัฐมนตรีของซีเรีย และโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ นายกรัฐมนตรีของกลุ่มเอชทีเอส ซึ่งปกครองเมืองอิดลิบ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของเอชีทีเอสในภาคเหนือของซีเรีย โดยระหว่างการหารือที่กรุงดามัสกัสเมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมตรีอัล-จาลาลี ให้สัญญาว่า จะให้ความร่วมมือกับกบฏ และรับรองการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น แต่ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับตัวบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีช่วงการถ่ายโอนอำนาจนี้
กองกำลังกบฏหลายกลุ่มภายใต้การนำของเอชทีเอสสามารถยึดกรุงดามัสกัสเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นการสิ้นสุดของระบบอบอัสซาด ที่ปกครองซีเรียอย่างเผด็จการมายาวนาน 53 ปี ทั้งในช่วงประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด ผู้พ่อ และประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
ด้านรัฐสภาซีเรีย ซึ่งเคยสนับสนุนอัสซาด ประกาศแล้วว่าจะสนับสนุนเจตนารมณ์ของประชาชน เพื่อสร้างซีเรียยุคใหม่สู่อนาคตที่ดีกว่าภายใต้การปกครองด้วยกฎหมายและความยุติธรรม และพรรคบาธ ที่ปกครองประเทศยาวนาน บอกด้วยว่า จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านเพื่อปกป้องเอกภาพในประเทศ ส่วนสถานีโทรทัศน์ของทางการซีเรียได้เปลี่ยนสัญลักษณ์ในบัญชีเทเลแกรมเป็นธงของกบฏแล้ว
แต่เอชทีเอสมีรากเหง้ามาจากเครือข่ายก่อการร้ายอัลไกดา ทำให้รัฐบาลชาติตะวันตก รวมถึงสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำกลุ่มนี้ในฐานะกลุ่มก่อการร้าย และในช่วงหลายปีมานี้ทางกลุ่มพยายามลดอุดมการณ์สุดโต่งลงแล้ว
อย่างไรก็ตามโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะยังไม่ทบทวนสถานะผู้ก่อการร้ายของกลุ่มเอชทีเอส แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต และบอกด้วยว่า สหรัฐฯ ยังสามารถติดต่อสื่อสารกับเอชทีเอสได้ และต้องการหารือกับกลุ่มสำคัญ ๆ ในซีเรียทั้งโดยตรงและโดยอ้อม รวมถึงเอชทีเอส แต่ไม่ได้บอกว่า จะติดต่อโดยตรงกับโจลานี ผู้นำกลุ่มเอชทีเอสหรือไม่ ซึ่งนายโจลานีถูกสหรัฐฯ ตั้งค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์
ขณะที่เยอรมนีและฝรั่งเศส ระบุในแถลงการณ์ว่า พร้อมร่วมมือกับผู้นำใหม่ของซีเรียโดยยึดหลักพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติและศาสนา และอังกฤษ บอกว่า เอชทีเอสต้องต่อต้านการก่อการร้ายและความรุนแรงก่อน อังกฤษจึงจะสามารถติดต่อกับกลุ่มที่ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นองค์กรก่อการร้ายได้
ส่วนรัสเซียให้ที่ลี้ภัยแก่อดีตประธานาธิบดีอัสซาด ที่ยอมลาออกจากตำแหน่งและหนีออกนอกประเทศพร้อมครอบครัว และสถานทูตซีเรียในกรุงมอสโกเชิญธงกบฏขึ้นแทนธงชาติซีเรียแล้ว นอกจากนี้ทำเนียบเครมลิน บอกด้วยว่า จะหารือเรื่องสถานะของฐานทัพรัสเซียในซีเรียกับรัฐบาลใหม่ของซีเรียในอนาคต