อีลอน มัสก์ และวิเวก รามาสวามี สองผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่ได้รับเลือกจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้รับผิดชอบกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ทั้งสองคนกำลังวางแผนงานของกระทรวง โดยจะให้คำแนะนำทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการปฏิรูป 3 สิ่งสำคัญ ได้แก่ ยกเลิกระเบียบข้อบังคับ, ลดจำนวนบุคลากรของภาครัฐ และประหยัดรายจ่าย โดยพวกเขาจะมุ่งเน้นขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านการดำเนินงานของฝ่ายบริหารโดยอาศัยกฎหมายที่มีอยู่มากกว่าจะผ่านกฎหมายใหม่
ทั้งสองคน ระบุว่า พวกเขาจะยึดตามคำตัดสินของศาลฎีกาสหรัฐฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่จำกัดอำนาจของหน่วยงานรัฐบาลกลาง เพื่อปลดแอกบุคคลและธุรกิจจากข้อบังคับหลายพันฉบบที่ไม่เคยผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรส นอกจากนี้พวกเขาบอกด้วยว่า ระเบียบข้อบังคับของรัฐบาลกลางในปัจจุบันมีมากมายล้นเหลือ และสมควรถูกตัดทิ้ง และการยกเลิกข้อบังคับจะทำให้สามารถลดจำนวนบุคลากรภาครัฐ ซึ่งการลดข้อบังคับจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการจำกัดขอบเขตอำนาจของหน่วยงานอย่างเหมาะสม
พวกเขาบอกด้วยว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจฝ่ายบริหารที่สามารถยกเลิกระเบียบข้อบังคับหลายฉบับโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบของสภาคองเกรส ปลดเจ้าหน้าที่ครั้งใหญ่ และย้ายบางหน่วยงานออกจากรัฐบาลกลาง
ขณะที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ภาครัฐเตรียมรับมือกับการปลดพนักงานครั้งใหญ่ โดยว่าจ้างทนายความและเตรียมรณรงค์สาธารณะ ขณะเดียวกันก็หวังว่าสภาคองเกรสจะให้ความช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้มัสก์เคยประกาศไว้ว่า เขาจะหั่นงบประมาณรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ได้ 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1 ใน 3 ของบประมาณทั้งหมด ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ และเนื่องจากกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลมีสถานะเหมือนคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาจึงอาจเผชิญอุปสรรคมากมายทั้งภายในฝ่ายบริหารและสภาคองเกรส จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทั้งมัสก์และรามาสวามีจะผลักดันการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ได้อย่างไร